'บิ๊กต๊อก' สั่ง 'กรมคุ้มครองสิทธิฯ' เยียวยา นร.ม.6 ถูกโจ๋ยิงตาบอด 2 ข้าง

แสดงความคิดเห็น

จากกรณี น.ส.ณัฏฐ์ธมน ธนไตรสิทธิ์ อายุ 19 ปี นักเรียน ม.6 โรงเรียนแห่งหนึ่ง นั่งซ้อนท้ายรถจักรยานยนต์เพื่อนออกไปทานข้าวแถวบ้าน ก่อนโดนวัยรุ่นใช้ปืนลูกซองไทยประดิษฐ์ จ่อยิงระยะ 5 เมตร กระสุนเข้าใส่ใบหน้าและลำคอ ทำให้ตาทั้งสองข้างบอดสนิท ไม่สามารถมองเห็นได้ ส่วน 2 คนร้าย ตำรวจ สน.คันนายาว สามารถจับกุมตัวได้แล้วเป็นเยาวชน

ล่าสุด เมื่อเวลา 12.00 น. วันที่ 6 ม.ค. ที่กระทรวงยุติธรรม พล.อ.ไพบูลย์ คุ้มฉายา รมว.ยุติธรรม กล่าวว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี สั่งการให้ กระทรวงยุติธรรม เข้าไปช่วยเหลือเยียวยา น.ส.ณัฏฐ์ธมน และไปพบกับผู้ปกครองของผู้เสียหายแล้ว พร้อมได้แจ้งสิทธิต่างๆ ให้ทราบ ซึ่งเงินสิทธิต่างๆ ประมาณ 120,000 บาท วันจันทร์ที่ 11 ม.ค.นี้ จะมีการประชุมโดยเป็นรูปแบบคณะกรรมการถึงกรณีดังกล่าว

"นายกฯ ให้ตนประสานกับ กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ และ กทม. เรื่องการช่วยเหลือให้มีงานทำในระยะยาว ซึ่งก็ต้องรอสักระยะ คงต้องรอให้น้องอาการดีขึ้นก่อน นายกฯได้สั่งให้ดูเรื่องคดีความด้วย ไม่อยากให้เป็นตัวอย่าง จะประสานไปยังทาง สำนักงานตำรวจแห่งชาติ มั่นใจว่าตำรวจทำตามหน้าที่อยู่แล้ว เพียงแต่ว่าเมื่อมีคำสั่งมาก็ต้องปฏิบัติตาม หากผู้เสียหายต้องการความช่วยเหลือด้านใด สามารถประสานกับ กระทรวงยุติธรรม และ กระทรวงการพัฒนาสังคมฯ สำหรับเรื่องการสอบปลายเทอมนั้น ทางโรงเรียนมีการสอบเรียบร้อยแล้ว แต่อาจจะขอทางโรงเรียนให้ น.ส.ณัฏฐ์ธมน สอบทีหลัง แต่ต้องขอดูกฎระเบียบก่อน รวมทั้งสอบถามไปยังกระทรวงศึกษาธิการว่าสามารถทำได้ไหม หากมองในหลักมนุษยธรรมน่าจะเมตตาเด็ก แต่ไม่รู้หลักกฎหมายเป็นอย่างไร ต้องถามรัฐมนตรีกระทรวงศึกษา” พล.อ.ไพบูลย์ กล่าว

พล.อ.ไพบูลย์ กล่าวว่า ส่วนกรณีที่มองว่าเหตุการณ์ดังกล่าวส่วนใหญ่เป็นวัยรุ่นก่อเหตุลักษณะนี้บ่อยครั้ง และมีความรุนแรงมากขึ้น ทั้งนี้เคยพูดเรื่องนี้ไป ปัจจุบันเด็ก และเยาวชนสามารถรับรู้เรื่องการใช้ความรุนแรงได้ค่อนข้างง่าย เพราะหาดูได้จากคลิปวิดีโอ หรือจากภาพยนตร์ที่มีการใช้อาวุธ และการใช้ร้ายแรง อาวุธก็หาซื้อง่ายเช่นกัน เรื่องนี้ได้พูดคุยกับ รมว.ศึกษาฯ ต้องเข้าไปช่วยเหลือดูแล เนื่องจากเยาวชนต้องเติบโตขึ้นเป็นผู้ใหญ่ในวันข้างหน้า ควรให้โอกาส แต่บางทีต้องกลับไปมองที่ผู้ปกครองของเด็ก ผู้ปกครองควรเข้มงวดในการดูแลเอาใจใส่บุตรหลานมากกว่านี้

ขอบคุณ... http://www.thairath.co.th/content/559022 (ขนาดไฟล์: 167)

ที่มา: ไทยรัฐออนไลน์/มูลนิธิพัฒนาคนพิการไทย 6 ม.ค.59
วันที่โพสต์: 7/01/2559 เวลา 11:47:24

แสดงความคิดเห็น

รายละเอียดกระทู้

รมว.ยุติธรรม เผยเตรียมให้ “กรมคุ้มครองสิทธิฯ” ลงไปช่วยเหลือนักเรียนสาว ม.6 เหยื่อวัยรุ่นยิงผิดตัว ทำตาบอดสองข้าง ชี้กรณีวัยรุ่นก่อเหตุรุนแรงบ่อย ผู้ปกครองควรเข้มงวดดูแลบุตรหลานมากกว่านี้... พล.อ.ไพบูลย์ คุ้มฉายา รมว.ยุติธรรม จากกรณี น.ส.ณัฏฐ์ธมน ธนไตรสิทธิ์ อายุ 19 ปี นักเรียน ม.6 โรงเรียนแห่งหนึ่ง นั่งซ้อนท้ายรถจักรยานยนต์เพื่อนออกไปทานข้าวแถวบ้าน ก่อนโดนวัยรุ่นใช้ปืนลูกซองไทยประดิษฐ์ จ่อยิงระยะ 5 เมตร กระสุนเข้าใส่ใบหน้าและลำคอ ทำให้ตาทั้งสองข้างบอดสนิท ไม่สามารถมองเห็นได้ ส่วน 2 คนร้าย ตำรวจ สน.คันนายาว สามารถจับกุมตัวได้แล้วเป็นเยาวชน ล่าสุด เมื่อเวลา 12.00 น. วันที่ 6 ม.ค. ที่กระทรวงยุติธรรม พล.อ.ไพบูลย์ คุ้มฉายา รมว.ยุติธรรม กล่าวว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี สั่งการให้ กระทรวงยุติธรรม เข้าไปช่วยเหลือเยียวยา น.ส.ณัฏฐ์ธมน และไปพบกับผู้ปกครองของผู้เสียหายแล้ว พร้อมได้แจ้งสิทธิต่างๆ ให้ทราบ ซึ่งเงินสิทธิต่างๆ ประมาณ 120,000 บาท วันจันทร์ที่ 11 ม.ค.นี้ จะมีการประชุมโดยเป็นรูปแบบคณะกรรมการถึงกรณีดังกล่าว "นายกฯ ให้ตนประสานกับ กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ และ กทม. เรื่องการช่วยเหลือให้มีงานทำในระยะยาว ซึ่งก็ต้องรอสักระยะ คงต้องรอให้น้องอาการดีขึ้นก่อน นายกฯได้สั่งให้ดูเรื่องคดีความด้วย ไม่อยากให้เป็นตัวอย่าง จะประสานไปยังทาง สำนักงานตำรวจแห่งชาติ มั่นใจว่าตำรวจทำตามหน้าที่อยู่แล้ว เพียงแต่ว่าเมื่อมีคำสั่งมาก็ต้องปฏิบัติตาม หากผู้เสียหายต้องการความช่วยเหลือด้านใด สามารถประสานกับ กระทรวงยุติธรรม และ กระทรวงการพัฒนาสังคมฯ สำหรับเรื่องการสอบปลายเทอมนั้น ทางโรงเรียนมีการสอบเรียบร้อยแล้ว แต่อาจจะขอทางโรงเรียนให้ น.ส.ณัฏฐ์ธมน สอบทีหลัง แต่ต้องขอดูกฎระเบียบก่อน รวมทั้งสอบถามไปยังกระทรวงศึกษาธิการว่าสามารถทำได้ไหม หากมองในหลักมนุษยธรรมน่าจะเมตตาเด็ก แต่ไม่รู้หลักกฎหมายเป็นอย่างไร ต้องถามรัฐมนตรีกระทรวงศึกษา” พล.อ.ไพบูลย์ กล่าว พล.อ.ไพบูลย์ กล่าวว่า ส่วนกรณีที่มองว่าเหตุการณ์ดังกล่าวส่วนใหญ่เป็นวัยรุ่นก่อเหตุลักษณะนี้บ่อยครั้ง และมีความรุนแรงมากขึ้น ทั้งนี้เคยพูดเรื่องนี้ไป ปัจจุบันเด็ก และเยาวชนสามารถรับรู้เรื่องการใช้ความรุนแรงได้ค่อนข้างง่าย เพราะหาดูได้จากคลิปวิดีโอ หรือจากภาพยนตร์ที่มีการใช้อาวุธ และการใช้ร้ายแรง อาวุธก็หาซื้อง่ายเช่นกัน เรื่องนี้ได้พูดคุยกับ รมว.ศึกษาฯ ต้องเข้าไปช่วยเหลือดูแล เนื่องจากเยาวชนต้องเติบโตขึ้นเป็นผู้ใหญ่ในวันข้างหน้า ควรให้โอกาส แต่บางทีต้องกลับไปมองที่ผู้ปกครองของเด็ก ผู้ปกครองควรเข้มงวดในการดูแลเอาใจใส่บุตรหลานมากกว่านี้ ขอบคุณ... http://www.thairath.co.th/content/559022