“บิ๊กตู่” อวยคนพิการไม่เคยทำร้ายชาติ ปัดคืนความสุขให้เจ้าสัว จับตาเลขเด็ด 139383
นายกรัฐมนตรี เปิดตลาดข้างทำเนียบฯ คิวของกระทรวงพัฒนาสังคมฯ ยาหอมคนพิการไม่เคยทำร้ายประเทศ ปัดดึงนายทุน 12 คณะ ไม่ได้มาตักตวงผลประโยชน์ แต่ให้มาดูผู้มีรายได้น้อย เหน็บอย่ามัวแต่แบมือแบเท้า จับตาหวยประยุทธ์งวด 17 ม.ค. นี้ ซื้อ 10 ใบ เลข 139383 แจกรัฐมนตรี
วันที่ (6 ม.ค.) ที่ตลาดเลียบคลองผดุงกรุงเกษม ทำเนียบรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) เป็นประธานเปิดตลาด “พม. ตลาดน้ำใจ วิถีไทยผดุง” ภายใต้แนวคิดโอกาส เกียรติ กำลังใจ คนไทยรักกัน และเกื้อกูลกัน” ซึ่งเดือนนี้ทางกระทรวงพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ เป็นเจ้าภาพในการจัดงาน โดยมี พล.ต.อ.อดุลย์ แสงสิงห์แก้ว รมว.พัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์,พล.อ.อนุพงษ์เผ่าจินดารมว.มหาดไทยพร้อมคณะร่วมงานอย่างพร้อมเพรียง
โดย พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า วันนี้เราพูดถึงศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์ สำคัญที่สุดไม่ว่าจะยากดีมีจน ก็เป็นมนุษย์ ซึ่งหน้าที่ที่เรามีก็ต่อมนุษยชาติทุกคนบนโลกใบนี้ ไม่ใช่เฉพาะประเทศไทย แต่เราต้องเผื่อแผ่ไปถึงทุกคน วันนี้รัฐบาลก็ทำอย่างเต็มที่ ที่จะให้โอกาส ให้เกียรติ ให้กำลังใจทุกคน ไม่ว่าจะยากดีมีจน พิการ หรือถูกทำร้ายมา เราต้องทำให้ทุกคนมีศักดิ์ศรีให้ได้ ก็ขอให้ทุกคนให้ความร่วมมือดูแลเขาบ้าง เขาเป็นผู้พิการแต่ก็ทำคุณประโยชน์มากมายกับสังคมได้โดยที่ไม่ไปทำร้ายสังคมไม่ทำร้ายประเทศในวันนี้ขอให้ดูตัวอย่างพวกเขา
ปีนี้เป็นปีที่เริ่มเดินหน้าประเทศไทยอีกครั้ง และเราได้สรุปผลการทำงานไปแล้ววันนี้ขอให้พวกท่านช่วยตนทำงานในปีนี้เป็นพิเศษ ซึ่งปีนี้เป็นปีที่เราเข้าสู่ประชาคมอาเซียน บางคนถามว่าจะได้อะไร ต้องมองในภาพรวมว่าเราทำโครงสร้างอะไรไว้บ้างขณะนี้ ทั้งเรื่องศุลกากร ถนนเส้นทาง เรามีโอกาสอยู่แล้ว และคนของเราที่จะได้ประโยชน์จากประชาคมอาเซียนเตรียมตัวเองหรือยัง ความรู้ ความสามารถ ภาษา ความชำนาญ แรงงานฝีมือ นี่คือสิ่งที่จะได้ รัฐบาลคงไม่สามารถจะไปทำให้อยู่ดีๆ มีเงินมากขึ้นโดยไม่มีเหตุมีผล ไม่อย่างนั้นประเทศก็ถอยหลังลำบากแต่ตอนนี้ทุกอย่างกำลังฟื้นคืนความสุขให้ประชาชนตนก็ทำให้ได้ในเวลาที่ตนมีอยู่
นายกฯ กล่าวต่อว่า เรื่องสินค้าตนอยากให้สร้างนวัตกรรมใหม่ ๆ โดยนำของเดิมมาเพิ่มมูลค่าโดยจัดระเบียบให้ดี ใครจะทำอะไรตรงไหน จะเอาวัสดุสิ่งใดมาแปรรูป เพื่อเพิ่มมูลค่าในท้องถิ่นของตัวเอง พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงรับสั่งอยู่แล้วการเจริญเติบโตต้องเติบโตจากภายใน เริ่มจากชุมชนท้องถิ่น แต่การทำดีนั้นต้องเริ่มจากตัวเราเอง ซึ่งปีนี้เป็นปีแห่งความก้าวหน้าใครจะพูดถึงเรื่องเศรษฐกิจอะไรตนไม่สนใจ ตนทำทุกอย่างให้ดีที่สุดอยู่แล้ว ขึ้นอยู่กับความพึงพอใจของท่าน ท่านต้องการมากน้อยแค่ไหน ท่านมีส่วนร่วมกับตนหรือยัง อันนี้กลับไปทบทวนดู และเรื่องปฏิรูปจะไปได้แน่นอน แต่ถ้าให้ตนปฏิรูปคนเดียว รับผิดชอบคนเดียว มันทำไม่สำเร็จ มันเป็นไปไม่ได้ที่จะไปสั่งทุกอย่างต่อให้ใช้มาตรา44กี่ร้อยมาตราก็ทำไปไม่ได้ทุกท่านต้องมีส่วนร่วมทั้งสิ้น
ทั้งนี้ เราให้ความสำคัญ กับการพัฒนาทรัพยากรมนุษย์ทุกกลุ่ม ซึ่งตนได้คุยกับ รมว.ยุติธรรม ไปแล้ว เพื่อที่จะดูกฎหมาย เพื่อดูแลคนทุกช่วงวัย ทั้งเด็กเยาวชน อุดมศึกษา ไปจนถึงคนชรา จะมีการพัฒนาตลอดช่วงวัย ซึ่งวันข้างหน้าจะมีสังคมผู้สูงอายุเพิ่มขึ้น ซึ่งตนเองก็เป็นคนสูงอายุเช่นกัน สิ่งที่อยากจะฝากไว้ รัฐบาลมีหน้าที่ส่งเสริมเรื่องกองทุน ให้ความรู้และให้เงินไปบางส่วนซึ่งจะทำให้ผู้ประกอบการ ดีขึ้นโดยมีการยกระดับพัฒนาฝีมือขึ้นมาทำให้เกิดความแข็งแรงขึ้นจากชุมชนเข้าไปสู่ธุรกิจเอสเอ็มอี
“วันนี้สิ่งสำคัญขอให้เข้าใจว่า การที่รัฐบาลตั้งคณะทำงานจากภาคธุรกิจ 12 คณะมา จะมีรายชื่อของผู้ประกอบการรายใหญ่ทั้งสิ้น ผมเรียนอีกครั้งว่า ผมเรียกเขาเข้ามาไม่ใช่ให้มาตักตวงผลประโยชน์จากผม จากรัฐบาลมันไม่ใช่ ผมบอกให้เขามาคืนความสุขให้ประเทศไทย ให้มาช่วยรัฐบาลในการเข้ามาดูแลคนผู้น้อย ผมยังไม่เคยพูดกับเขาว่าจะเอื้อประโยชน์อะไรให้สักอย่าง เขายินดีเข้ามาทำอย่างนั้น ขอให้สื่อเข้าใจให้ถูกด้วย ถ้าไม่มีการค้าขนาดใหญ่ ขนาดเล็กจะอยู่ได้ไหม รายได้ประเทศมาจากตรงไหน ไอ้เรื่องผูกขาดไม่ผูกขาด ท่านต้องสร้างความเข้มแข็งของท่านให้ได้ อย่าไปแบบมือ แบเท้ารับมืออย่างเดียว นั่นแหละเขาเรียกยิ่งกว่าผูกขาดอีก คือผูกขาดชีวิตตัวเองให้คนอื่นไง”พล.อ.ประยุทธ์กล่าว
พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงรับสั่งความพอเพียง คือ การปลูกพืช อย่างแรกไว้กินไว้ใช้ อย่างที่สอง แบ่งปันเพื่อนบ้าน สาม ไว้จ่ายแลกเปลี่ยนกัน และ สี่ ไว้ลงทุนเพิ่มเติมให้เป็นธุรกิจขนาดใหญ่ขึ้น ซึ่งตนจะนำหลักการนี้ไปขับเคลื่อนในการเป็นประธานกลุ่ม จี 77 ที่ 134 ประเทศจะมีการประชุมในปีนี้
จากนั้น พล.อ.ประยุทธ์ และรัฐมนตรีได้เดินเยี่ยมชมร้านค้าและบูธต่าง ๆ ที่มาเปิดขายภายในงาน โดยเมื่อมาถึงบูธ “ชมรมลอตเตอรีลุงตู่” ที่จัดโดยกระทรวงพัฒนาสังคมและความมั่นคงมนุษย์ พล.อ.ประยุทธ์ ได้ซื้อสลากกินแบ่งรัฐบาลหมายเลข139383จำนวน10ใบแจกให้กับรัฐมนตรีที่ร่วมเดินเยี่ยมชมงาน
โดยการจัดงานครั้งนี้ เพื่อสร้างโอกาสให้เกษตรกร และผู้ประกอบการรายย่อยได้มีแหล่งจำหน่ายสินค้า ภายใต้ “พม. ตลาดน้ำใจ วิถีไทยผดุง” ระหว่างวันที่ 6 - 26 ม.ค. 59 ระหว่างเวลา 10.00 - 19.00 น. สำหรับศุกร์ เสาร์ อาทิตย์ ขยายเวลาปิดไปจนถึง 20.00 น. มีวัตถุประสงค์ ที่จะมอบโอกาสให้กับประชาชนทุกกลุ่ม และสนับสนุนรายได้ให้กับกลุ่มเป้าหมาย ได้แก่กลุ่มเด็ก เยาวชน สตรี คนพิการผู้สูงอายุ และ ผู้ด้อยโอกาส สำหรับกิจกรรม จะแบ่งออกเป็น 4 โซน ประกอบด้วย โซนที่ 1 บ้านแห่งความสุข มีนิทรรศการรณรงค์ต่อต้านการค้ามนุษย์ การจองโครงการบ้านยั่งยืน การประมูลทรัพย์สินที่หลุดจำนำ โซนที่ 2 เป็นการแสดงศักยภาพผลงานที่สร้างสรรค์ เช่น การแสดงของนักดนตรีคนตาบอด การแสดงศิลปะจากผู้พิการ สินค้านวัตกรรมสำหรับคนพิการและผู้สูงอายุ โซนที่ 3 คุณค่าของคนทุกช่วงวัย ประกอบด้วยลงทะเบียนเงินอุดหนุนแรกเกิด การแสดงศิลปวัฒนธรรมจากเด็กและเยาวชน สินค้าผลิตภัณฑ์พื้นเมือง 4 ภาค และการจำหน่ายสินค้าราคาถูก สินค้านาทีทอง และโซนที่ 4 ความสุขจากการให้ มีการออกร้านจำหน่ายผลิตภัณฑ์แปรรูปจากอาสาสมัครกระทรวงพัฒนาสังคมฯ นิคมสร้างตนเอง ร้านอาหารชื่อดังมาจำหน่ายมากมาย
ขอบคุณ... http://www.manager.co.th/Politics/ViewNews.aspx?NewsID=9590000001815 (ขนาดไฟล์: 169)
แสดงความคิดเห็น
รายละเอียดกระทู้
พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) เดินเยี่ยมชมร้านค้าและบูธต่าง ๆ นายกรัฐมนตรี เปิดตลาดข้างทำเนียบฯ คิวของกระทรวงพัฒนาสังคมฯ ยาหอมคนพิการไม่เคยทำร้ายประเทศ ปัดดึงนายทุน 12 คณะ ไม่ได้มาตักตวงผลประโยชน์ แต่ให้มาดูผู้มีรายได้น้อย เหน็บอย่ามัวแต่แบมือแบเท้า จับตาหวยประยุทธ์งวด 17 ม.ค. นี้ ซื้อ 10 ใบ เลข 139383 แจกรัฐมนตรี วันที่ (6 ม.ค.) ที่ตลาดเลียบคลองผดุงกรุงเกษม ทำเนียบรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) เป็นประธานเปิดตลาด “พม. ตลาดน้ำใจ วิถีไทยผดุง” ภายใต้แนวคิดโอกาส เกียรติ กำลังใจ คนไทยรักกัน และเกื้อกูลกัน” ซึ่งเดือนนี้ทางกระทรวงพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ เป็นเจ้าภาพในการจัดงาน โดยมี พล.ต.อ.อดุลย์ แสงสิงห์แก้ว รมว.พัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์,พล.อ.อนุพงษ์เผ่าจินดารมว.มหาดไทยพร้อมคณะร่วมงานอย่างพร้อมเพรียง โดย พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า วันนี้เราพูดถึงศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์ สำคัญที่สุดไม่ว่าจะยากดีมีจน ก็เป็นมนุษย์ ซึ่งหน้าที่ที่เรามีก็ต่อมนุษยชาติทุกคนบนโลกใบนี้ ไม่ใช่เฉพาะประเทศไทย แต่เราต้องเผื่อแผ่ไปถึงทุกคน วันนี้รัฐบาลก็ทำอย่างเต็มที่ ที่จะให้โอกาส ให้เกียรติ ให้กำลังใจทุกคน ไม่ว่าจะยากดีมีจน พิการ หรือถูกทำร้ายมา เราต้องทำให้ทุกคนมีศักดิ์ศรีให้ได้ ก็ขอให้ทุกคนให้ความร่วมมือดูแลเขาบ้าง เขาเป็นผู้พิการแต่ก็ทำคุณประโยชน์มากมายกับสังคมได้โดยที่ไม่ไปทำร้ายสังคมไม่ทำร้ายประเทศในวันนี้ขอให้ดูตัวอย่างพวกเขา ปีนี้เป็นปีที่เริ่มเดินหน้าประเทศไทยอีกครั้ง และเราได้สรุปผลการทำงานไปแล้ววันนี้ขอให้พวกท่านช่วยตนทำงานในปีนี้เป็นพิเศษ ซึ่งปีนี้เป็นปีที่เราเข้าสู่ประชาคมอาเซียน บางคนถามว่าจะได้อะไร ต้องมองในภาพรวมว่าเราทำโครงสร้างอะไรไว้บ้างขณะนี้ ทั้งเรื่องศุลกากร ถนนเส้นทาง เรามีโอกาสอยู่แล้ว และคนของเราที่จะได้ประโยชน์จากประชาคมอาเซียนเตรียมตัวเองหรือยัง ความรู้ ความสามารถ ภาษา ความชำนาญ แรงงานฝีมือ นี่คือสิ่งที่จะได้ รัฐบาลคงไม่สามารถจะไปทำให้อยู่ดีๆ มีเงินมากขึ้นโดยไม่มีเหตุมีผล ไม่อย่างนั้นประเทศก็ถอยหลังลำบากแต่ตอนนี้ทุกอย่างกำลังฟื้นคืนความสุขให้ประชาชนตนก็ทำให้ได้ในเวลาที่ตนมีอยู่ นายกฯ กล่าวต่อว่า เรื่องสินค้าตนอยากให้สร้างนวัตกรรมใหม่ ๆ โดยนำของเดิมมาเพิ่มมูลค่าโดยจัดระเบียบให้ดี ใครจะทำอะไรตรงไหน จะเอาวัสดุสิ่งใดมาแปรรูป เพื่อเพิ่มมูลค่าในท้องถิ่นของตัวเอง พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงรับสั่งอยู่แล้วการเจริญเติบโตต้องเติบโตจากภายใน เริ่มจากชุมชนท้องถิ่น แต่การทำดีนั้นต้องเริ่มจากตัวเราเอง ซึ่งปีนี้เป็นปีแห่งความก้าวหน้าใครจะพูดถึงเรื่องเศรษฐกิจอะไรตนไม่สนใจ ตนทำทุกอย่างให้ดีที่สุดอยู่แล้ว ขึ้นอยู่กับความพึงพอใจของท่าน ท่านต้องการมากน้อยแค่ไหน ท่านมีส่วนร่วมกับตนหรือยัง อันนี้กลับไปทบทวนดู และเรื่องปฏิรูปจะไปได้แน่นอน แต่ถ้าให้ตนปฏิรูปคนเดียว รับผิดชอบคนเดียว มันทำไม่สำเร็จ มันเป็นไปไม่ได้ที่จะไปสั่งทุกอย่างต่อให้ใช้มาตรา44กี่ร้อยมาตราก็ทำไปไม่ได้ทุกท่านต้องมีส่วนร่วมทั้งสิ้น ทั้งนี้ เราให้ความสำคัญ กับการพัฒนาทรัพยากรมนุษย์ทุกกลุ่ม ซึ่งตนได้คุยกับ รมว.ยุติธรรม ไปแล้ว เพื่อที่จะดูกฎหมาย เพื่อดูแลคนทุกช่วงวัย ทั้งเด็กเยาวชน อุดมศึกษา ไปจนถึงคนชรา จะมีการพัฒนาตลอดช่วงวัย ซึ่งวันข้างหน้าจะมีสังคมผู้สูงอายุเพิ่มขึ้น ซึ่งตนเองก็เป็นคนสูงอายุเช่นกัน สิ่งที่อยากจะฝากไว้ รัฐบาลมีหน้าที่ส่งเสริมเรื่องกองทุน ให้ความรู้และให้เงินไปบางส่วนซึ่งจะทำให้ผู้ประกอบการ ดีขึ้นโดยมีการยกระดับพัฒนาฝีมือขึ้นมาทำให้เกิดความแข็งแรงขึ้นจากชุมชนเข้าไปสู่ธุรกิจเอสเอ็มอี “วันนี้สิ่งสำคัญขอให้เข้าใจว่า การที่รัฐบาลตั้งคณะทำงานจากภาคธุรกิจ 12 คณะมา จะมีรายชื่อของผู้ประกอบการรายใหญ่ทั้งสิ้น ผมเรียนอีกครั้งว่า ผมเรียกเขาเข้ามาไม่ใช่ให้มาตักตวงผลประโยชน์จากผม จากรัฐบาลมันไม่ใช่ ผมบอกให้เขามาคืนความสุขให้ประเทศไทย ให้มาช่วยรัฐบาลในการเข้ามาดูแลคนผู้น้อย ผมยังไม่เคยพูดกับเขาว่าจะเอื้อประโยชน์อะไรให้สักอย่าง เขายินดีเข้ามาทำอย่างนั้น ขอให้สื่อเข้าใจให้ถูกด้วย ถ้าไม่มีการค้าขนาดใหญ่ ขนาดเล็กจะอยู่ได้ไหม รายได้ประเทศมาจากตรงไหน ไอ้เรื่องผูกขาดไม่ผูกขาด ท่านต้องสร้างความเข้มแข็งของท่านให้ได้ อย่าไปแบบมือ แบเท้ารับมืออย่างเดียว นั่นแหละเขาเรียกยิ่งกว่าผูกขาดอีก คือผูกขาดชีวิตตัวเองให้คนอื่นไง”พล.อ.ประยุทธ์กล่าว บูธการแสดงศิลปะจากผู้พิการ สินค้านวัตกรรมสำหรับคนพิการและผู้สูงอายุ พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงรับสั่งความพอเพียง คือ การปลูกพืช อย่างแรกไว้กินไว้ใช้ อย่างที่สอง แบ่งปันเพื่อนบ้าน สาม ไว้จ่ายแลกเปลี่ยนกัน และ สี่ ไว้ลงทุนเพิ่มเติมให้เป็นธุรกิจขนาดใหญ่ขึ้น ซึ่งตนจะนำหลักการนี้ไปขับเคลื่อนในการเป็นประธานกลุ่ม จี 77 ที่ 134 ประเทศจะมีการประชุมในปีนี้ จากนั้น พล.อ.ประยุทธ์ และรัฐมนตรีได้เดินเยี่ยมชมร้านค้าและบูธต่าง ๆ ที่มาเปิดขายภายในงาน โดยเมื่อมาถึงบูธ “ชมรมลอตเตอรีลุงตู่” ที่จัดโดยกระทรวงพัฒนาสังคมและความมั่นคงมนุษย์ พล.อ.ประยุทธ์ ได้ซื้อสลากกินแบ่งรัฐบาลหมายเลข139383จำนวน10ใบแจกให้กับรัฐมนตรีที่ร่วมเดินเยี่ยมชมงาน โดยการจัดงานครั้งนี้ เพื่อสร้างโอกาสให้เกษตรกร และผู้ประกอบการรายย่อยได้มีแหล่งจำหน่ายสินค้า ภายใต้ “พม. ตลาดน้ำใจ วิถีไทยผดุง” ระหว่างวันที่ 6 - 26 ม.ค. 59 ระหว่างเวลา 10.00 - 19.00 น. สำหรับศุกร์ เสาร์ อาทิตย์ ขยายเวลาปิดไปจนถึง 20.00 น. มีวัตถุประสงค์ ที่จะมอบโอกาสให้กับประชาชนทุกกลุ่ม และสนับสนุนรายได้ให้กับกลุ่มเป้าหมาย ได้แก่กลุ่มเด็ก เยาวชน สตรี คนพิการผู้สูงอายุ และ ผู้ด้อยโอกาส สำหรับกิจกรรม จะแบ่งออกเป็น 4 โซน ประกอบด้วย โซนที่ 1 บ้านแห่งความสุข มีนิทรรศการรณรงค์ต่อต้านการค้ามนุษย์ การจองโครงการบ้านยั่งยืน การประมูลทรัพย์สินที่หลุดจำนำ โซนที่ 2 เป็นการแสดงศักยภาพผลงานที่สร้างสรรค์ เช่น การแสดงของนักดนตรีคนตาบอด การแสดงศิลปะจากผู้พิการ สินค้านวัตกรรมสำหรับคนพิการและผู้สูงอายุ โซนที่ 3 คุณค่าของคนทุกช่วงวัย ประกอบด้วยลงทะเบียนเงินอุดหนุนแรกเกิด การแสดงศิลปวัฒนธรรมจากเด็กและเยาวชน สินค้าผลิตภัณฑ์พื้นเมือง 4 ภาค และการจำหน่ายสินค้าราคาถูก สินค้านาทีทอง และโซนที่ 4 ความสุขจากการให้ มีการออกร้านจำหน่ายผลิตภัณฑ์แปรรูปจากอาสาสมัครกระทรวงพัฒนาสังคมฯ นิคมสร้างตนเอง ร้านอาหารชื่อดังมาจำหน่ายมากมาย ขอบคุณ... http://www.manager.co.th/Politics/ViewNews.aspx?NewsID=9590000001815
จัดฟอร์แม็ตข้อความและมัลติมีเดีย
รายละเอียดการใส่ ลิงค์ รูปภาพ วิดีโอ เพลง (Soundcloud)