สธ.สงขลา เตือนสังเกตอาการเสี่ยงโรคหลอดเลือดสมอง ให้รีบไปโรงพยาบาลฯเพื่อป้องกันความพิการ

สธ.สงขลา เตือนสังเกตอาการเสี่ยงโรคหลอดเลือดสมอง ให้รีบไปโรงพยาบาลฯเพื่อป้องกันความพิการ

สธ.สงขลา เตือนสังเกตอาการเสี่ยงโรคหลอดเลือดสมอง ให้รีบไปโรงพยาบาลฯเพื่อป้องกันความพิการภาวะแทรกซ้อนของโรคและรับการฟื้นฟูร่างกายเข้าสู่ภาวะปกติได้เร็ว

สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดสงขลาเตือนให้ประชาชนสังเกตอาการตนเอง ตามหลักการ F.A.S.T. : Face Arm Speech Time คือปากเบี้ยว/หน้าเบี้ยว แขนขาอ่อนแรง พูดไม่ชัด รีบไปโรงพยาบาล ภาย ใน 4 ชั่วโมงครึ่ง และรับการฟื้นฟูร่างกายให้เป็นปกติได้เร็วขึ้น เพราะหากเข้ารับการรักษาเร็วจะมีโอกาสหาย ผลแทรกซ้อนต่ำ และความพิการน้อยลง

นพ.สงกรานต์ ไหมชุม นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดสงขลา กล่าวว่าโรคหลอดเลือดสมองมีการเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องโดยพบว่าในกลุ่มประชากรของโลก 1 ใน 4 คน มีปัจจัยเสี่ยงในการเกิดโรคหลอดเลือดสมอง สำหรับประเทศไทย พบผู้ป่วยโรคหลอดเลือดสมองประมาณ 1,880 คนต่อประชากรจำนวนหนึ่งแสนคน หรือร้อยละ2ซึ่งถือเป็นสาเหตุการเสียชีวิตอันดับหนึ่งในเพศหญิงและอันดับ 3 ในเพศชาย รองจากอุบัติเหตุและโรคมะเร็ง

นอกจากนั้น โรคนี้ยังมีความพิการสูง การศึกษาในประเทศไทย พบว่า ในผู้ป่วย 100 คน ที่เข้าการรักษาในโรงพยาบาลจะเสียชีวิตร้อยละ 5 และพิการร้อยละ 70 ซึ่งนอกจากความพิการทางกายแล้ว ยังมีผลทำให้ความจำเสื่อมในภายหลังอีกด้วย ถ้าประชาชนขาดความรู้ด้านการป้องกันหรือรักษาอย่างถูกวิธี ดังนั้น เนื่องในโอกาสวันรณรงค์โรคหลอดเลือดสมองโลกหรือวันอัมพาตโลก (World Stroke Day) ปี 2565 ซึ่งตรงกับวันที่ 29 ตุลาคม ของทุกปี จังหวัดสงขลา จึงขอเชิญชวนชาวจังหวัดสงขลาร่วมสังเกตอาการ/สัญญาณเตือนของโรคหลอดเลือดสมองเพื่อรีบไปโรงพยาบาลให้เร็วที่สุด รวมทั้งการป้องกันตนเองให้ปลอดภัยจากโรคดังกล่าว

นพ.สงกรานต์ ไหมชุม ได้กล่าวเพิ่มเติมว่า สำหรับโรคหลอดเลือดสมอง (Stroke) หรืออัมพฤกษ์ อัมพาต คือภาวะสมองขาดเลือดที่เกิดจากหลอดเลือดสมองตีบ/อุดตัน หรือมีเลือดออกในสมองหรืออาการเส้นเลือดในสมองตีบทำให้เลือดไม่สามารถไปเลี้ยงสมองได้ ทำให้เซลล์สมองขาดออกซิเจน ส่งผลให้สมองตาย ทำให้เกิดอาการปากเบี้ยว แขนขาอ่อนแรง พูดไม่ชัด ซึ่งอาจจะทำให้เกิดความพิการ และเสียชีวิตได้ หากรับการรักษาไม่ทันเวลา ขอให้ประชาชนสังเกตอาการตนเอง

ตามหลักการ F.A.S.T. ดังนี้ F (Face) ใบหน้าชาหรืออ่อนแรง ปากเบี้ยว มุมปากตก ตามัวเห็นภาพซ้อน A(Arm) แขนหรือขาอ่อนแรงข้างใดข้างหนึ่งยกแขนหรือขาไม่ขึ้น S (Speech) พูดไม่ชัด พูดลำบาก มีปัญหาในการพูด T(Time) ต้องรีบไปโรงพยาบาลทันทีภายใน 4 ชั่วโมงครึ่ง หากพบอาการข้างต้น ควรรีบไปพบแพทย์ให้เร็วที่สุดหรือโทรสายด่วน 1669 เพื่อจะได้รับการรักษาและฟื้นฟูให้กลับมาเป็นปกติมากที่สุด ซึ่งจากสถิติผู้ป่วยโรคหลอดเลือดสมอง ประมาณร้อยละ 10 สามารถกลับมาเป็นปกติได้ และอีกส่วนหนึ่งอาจหลงเหลืออาการเล็กน้อย บางคนหลงเหลือความพิการปานกลางถึงรุนแรง เช่น มีภาวะเกร็ง อ่อนแรงที่ส่งผลต่อการเดิน และร้อยละ 30 จะเป็นกลุ่มที่มีผลลัพธ์ของการรักษาค่อนข้างแย่หรือเสียชีวิต

นพ.สงกรานต์ ไหมชุม นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดสงขลา ได้กล่าวเพิ่มเติมว่า โรคนี้สามารถป้องกันได้ด้วยการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมเพื่อลดความเสี่ยง โดยเริ่มตั้งแต่การตรวจวัดความดันโลหิตอย่างสม่ำเสมอ ควบคุมระดับความดันโลหิต ไขมันและระดับน้ำตาลในเลือดให้อยู่ในเกณฑ์ปกติ เลิกสูบบุหรี่ ไม่ดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ หลีกเลี่ยงอาหารหมักดอง อาหารรสเค็มจัด และอาหารที่มีไขมันสูง เช่น เนื้อสัตว์ติดมัน เครื่องในสัตว์ รับประทานผักและผลไม้ทุกวัน ควบคุมน้ำหนักให้เหมาะสม ออกกำลังกายสม่ำเสมอ หลีกเลี่ยงความเครียด และตรวจสุขภาพเป็นประจำทุกปีอย่างน้อยปีละ 1 ครั้ง พฤติกรรมเหล่านี้จะช่วยลดความเสี่ยงการเกิดโรคหลอดเลือดสมอง หากมีโรคร่วมอาจจะต้องได้รับคำปรึกษาจากแพทย์ผู้ดูแลอย่างใกล้ชิดมากขึ้น

ขอบคุณ... https://bit.ly/3gENS8A (ขนาดไฟล์: 149)

ที่มา: thainews.prd.go.th/มูลนิธิพัฒนาคนพิการไทย 28 ต.ค. 65
วันที่โพสต์: 28/10/2565 เวลา 11:27:39 ดูภาพสไลด์โชว์ สธ.สงขลา เตือนสังเกตอาการเสี่ยงโรคหลอดเลือดสมอง ให้รีบไปโรงพยาบาลฯเพื่อป้องกันความพิการ