ตรวจยีนจากน้ำลาย ทำนายสุขภาพวันหน้า

แสดงความคิดเห็น

ครอบครัวสุขสรรค์

คนสมัยนี้โชคดีเรื่องสุขภาพ เพราะมีเทคโนโลยีที่สามารถทำนายสุขภาพในอนาคตไว้ป้องกันล่วงหน้าตั้งแต่ก่อนเกิดโรคแต่ทั้งนี้ก็ขึ้นอยู่ว่าเราจะใช้ประโยชน์จากเทคโนโลยีนี้อย่างไรและคุ้มค่าหรือไม่

การทำนายสุขภาพในอนาคต สามารถทำได้จากการตรวจ ยีน (Gene) ค้นหาความผิดปกติ (SNP = Single nucleotide polymorphism) ซึ่งเป็นความผิดปกติของรหัส นิวคลีโอไทด์ (Nucleotide) ในแต่ละยีน โดย สนิป (SNPs) จะถูกถ่ายทอดทางพันธุกรรม ซึ่งความแตกต่างทางพันธุกรรมในแต่ละจุดจะทำให้คนแต่ละคนมีความแตกต่างกัน เช่น มีความสูงแตกต่างกัน สีผิวต่างกัน เป็นโรคต่างกัน ยกตัวอย่างโรคทางพันธุกรรมที่เรารู้จักและพบมากในคนไทย เช่น โรคธาลัสซีเมีย (ภาวะโลหิตจางชนิดหนึ่ง)โดยในปัจจุบันนี้การตรวจยีนสามารถประเมินสิ่งต่างๆได้ดังนี้

1. โรคทางพันธุกรรม ซึ่งสามารถตรวจได้ถึง 76 ชนิด - โรคที่เกี่ยวข้องกับความผิดปกติของการสร้างเม็ดเลือด เช่น โรคธาลัสซีเมีย- โรคพันธุกรรมที่รบกวนระบบเผาผลาญอาหารของร่างกายที่มักพบในเด็กแรกเกิด เช่น ฟีนิลคีโตนูเรีย (Phenylketonuria) หรือ โรคกาแลคโตซีเมีย (Galactosemia) - ภาวะหูพิการแต่กำเนิด 2. โรคที่พบได้บ่อยๆ ที่มีความซับซ้อนของโรค ถึง 24 โรค เช่น - โรคหลอดเลือดหัวใจ โรคกล้ามเนื้อหัวใจขาดเลือด หัวใจเต้นผิดปกติ - โรคเบาหวาน - โรคความดันโลหิตสูง - โรคหอบหืด - โรคมะเร็งลำไส้ มะเร็งปอด มะเร็งเต้านม มะเร็งต่อมลูกหมาก มะเร็งเม็ดเลือดขาว- โรคข้อเสื่อม โรคไขข้ออักเสบ- ภาวะโรคอ้วน - โรคอัลไซเมอร์ - โรคจอประสาทตาเสื่อม - โรคสะเก็ดเงิน - โรค SLE 3. ตรวจสอบการตอบสนองต่อยาที่ใช้ 11 ชนิด เช่น - คาเฟอีน- ยาลดไขมันกลุ่ม Statins - ยาละลายลิ่มเลือด (Warfarin) ยาต้านเกร็ดเลือด (Clopidogrel = Plavix) - ยากดภูมิคุ้มกัน (Methotrexate) ยารักษาโรคมะเร็ง (Tamoxifen) - ยากันชัก (Carbamazepine) การตรวจเพื่อประเมินการตอบสนองต่อการใช้ยานี้ มีประโยชน์ คือ ทำให้ทราบถึงความเสี่ยงต่อการแพ้ยา และประสิทธิภาพจากยาที่ได้รับ เพื่อปรับการใช้ยาให้เหมาะกับยีนของตัวเรา 4. การตรวจยีน ทำให้ทราบข้อมูลทางโภชนาการ ชนิดของอาหาร และวิตามินที่เหมาะสมกับตัวเรา ที่เรียกว่า Nutri-Check up เพื่อให้ได้ประโยชน์สูงสุดในการดูแลสุขภาพ การปรับเปลี่ยนอาหารที่รับประทาน พฤติกรรมการดำรงชีวิต การออกกำลังกายที่เหมาะกับพันธุกรรมของเรา

ขั้นตอนการตรวจ เก็บตัวอย่างจากน้ำลายเพื่อตรวจวิเคราะห์ ต้องเป็นน้ำลายที่เป็นน้ำ ไม่ใช่เป็นฟองจะดีที่สุด โดนให้เก็บตอนเช้าหลังตื่นนอน ยังไม่ต้องแปรงฟัน ดื่มน้ำหรือรับประทานอาหารใดๆ ให้บ้วนน้ำลายใส่หลอดที่จะส่งตรวจถึงขีดที่กำหนดไว้ข้างหลอด ถ้าตื่นมาแล้วคอแห้ง ไม่สามารถเก็บได้ทันที ให้แปรงฟันดื่มน้ำรับประทานอาหารก่อนแล้วรออีก1ชม.ค่อยเก็บน้ำลายใหม่

หลังจากนั้น ให้นำตัวอย่างจากน้ำลายมาส่งที่โรงพยาบาลซึ่งจะใช้ระยะเวลาวิเคราะห์รหัส พันธุกรรมประมาณ 1 เดือน โดยห้องปฏิบัติการที่ทำการตรวจวินิจฉัย ได้รับมาตรฐานจาก Clinical Laboratory Improvement Amendments หรือ CLIA เป็นมาตรฐานที่กำกับดูแลโดยรัฐบาลกลางสหรัฐอเมริกาเกี่ยวกับการทดลองทางห้อง ปฏิบัติการทางคลินิก โดยใช้เทคโนโลยีสำหรับการตรวจรหัสพันธุกรรมที่ทันสมัย

โดยสรุปแล้วการตรวจยีน ทำให้เรารู้ความเสี่ยง ต่อการเกิดโรคล่วงหน้า เมื่อผู้ตรวจทราบผลสามารถปรึกษาแพทย์เพื่อหาวิธีลดโอกาสเกิดโรคในอนาคต เช่น การปรับพฤติกรรมการรับประทานอาหารอย่างถูกต้อง การออกกำลังกาย การปรับสภาพแวดล้อมภายในบ้าน หรือที่ทำงาน รวมถึงการเฝ้าระวังการเกิดโรคอันไม่พึงประสงค์อย่างถูกต้อง และมีประสิทธิภาพสูงสุด พญ.ม.ล.ธัญญ์นภัส เทวกุล แพทย์เวชศาสตร์ชะลอวัย สอบถามเพิ่มเติมที่ คลินิกเวชศาสตร์ชะลอวัย โทร. 0 2734 0000 ต่อ 1164, 1182

ขอบคุณ... http://www.thairath.co.th/content/life/335577

ที่มา: ไทยรัฐออนไลน์/มูลนิธิพัฒนาคนพิการไทย 29 มี.ค.56
วันที่โพสต์: 30/03/2556 เวลา 01:54:58 ดูภาพสไลด์โชว์ ตรวจยีนจากน้ำลาย ทำนายสุขภาพวันหน้า

แสดงความคิดเห็น

รอตรวจสอบ
จัดฟอร์แม็ต ดูการแสดงผล

รอตรวจสอบ

รอตรวจสอบ

รอตรวจสอบ

ยกเลิก

รายละเอียดกระทู้

ครอบครัวสุขสรรค์ คนสมัยนี้โชคดีเรื่องสุขภาพ เพราะมีเทคโนโลยีที่สามารถทำนายสุขภาพในอนาคตไว้ป้องกันล่วงหน้าตั้งแต่ก่อนเกิดโรคแต่ทั้งนี้ก็ขึ้นอยู่ว่าเราจะใช้ประโยชน์จากเทคโนโลยีนี้อย่างไรและคุ้มค่าหรือไม่ การทำนายสุขภาพในอนาคต สามารถทำได้จากการตรวจ ยีน (Gene) ค้นหาความผิดปกติ (SNP = Single nucleotide polymorphism) ซึ่งเป็นความผิดปกติของรหัส นิวคลีโอไทด์ (Nucleotide) ในแต่ละยีน โดย สนิป (SNPs) จะถูกถ่ายทอดทางพันธุกรรม ซึ่งความแตกต่างทางพันธุกรรมในแต่ละจุดจะทำให้คนแต่ละคนมีความแตกต่างกัน เช่น มีความสูงแตกต่างกัน สีผิวต่างกัน เป็นโรคต่างกัน ยกตัวอย่างโรคทางพันธุกรรมที่เรารู้จักและพบมากในคนไทย เช่น โรคธาลัสซีเมีย (ภาวะโลหิตจางชนิดหนึ่ง)โดยในปัจจุบันนี้การตรวจยีนสามารถประเมินสิ่งต่างๆได้ดังนี้ 1. โรคทางพันธุกรรม ซึ่งสามารถตรวจได้ถึง 76 ชนิด - โรคที่เกี่ยวข้องกับความผิดปกติของการสร้างเม็ดเลือด เช่น โรคธาลัสซีเมีย- โรคพันธุกรรมที่รบกวนระบบเผาผลาญอาหารของร่างกายที่มักพบในเด็กแรกเกิด เช่น ฟีนิลคีโตนูเรีย (Phenylketonuria) หรือ โรคกาแลคโตซีเมีย (Galactosemia) - ภาวะหูพิการแต่กำเนิด 2. โรคที่พบได้บ่อยๆ ที่มีความซับซ้อนของโรค ถึง 24 โรค เช่น - โรคหลอดเลือดหัวใจ โรคกล้ามเนื้อหัวใจขาดเลือด หัวใจเต้นผิดปกติ - โรคเบาหวาน - โรคความดันโลหิตสูง - โรคหอบหืด - โรคมะเร็งลำไส้ มะเร็งปอด มะเร็งเต้านม มะเร็งต่อมลูกหมาก มะเร็งเม็ดเลือดขาว- โรคข้อเสื่อม โรคไขข้ออักเสบ- ภาวะโรคอ้วน - โรคอัลไซเมอร์ - โรคจอประสาทตาเสื่อม - โรคสะเก็ดเงิน - โรค SLE 3. ตรวจสอบการตอบสนองต่อยาที่ใช้ 11 ชนิด เช่น - คาเฟอีน- ยาลดไขมันกลุ่ม Statins - ยาละลายลิ่มเลือด (Warfarin) ยาต้านเกร็ดเลือด (Clopidogrel = Plavix) - ยากดภูมิคุ้มกัน (Methotrexate) ยารักษาโรคมะเร็ง (Tamoxifen) - ยากันชัก (Carbamazepine) การตรวจเพื่อประเมินการตอบสนองต่อการใช้ยานี้ มีประโยชน์ คือ ทำให้ทราบถึงความเสี่ยงต่อการแพ้ยา และประสิทธิภาพจากยาที่ได้รับ เพื่อปรับการใช้ยาให้เหมาะกับยีนของตัวเรา 4. การตรวจยีน ทำให้ทราบข้อมูลทางโภชนาการ ชนิดของอาหาร และวิตามินที่เหมาะสมกับตัวเรา ที่เรียกว่า Nutri-Check up เพื่อให้ได้ประโยชน์สูงสุดในการดูแลสุขภาพ การปรับเปลี่ยนอาหารที่รับประทาน พฤติกรรมการดำรงชีวิต การออกกำลังกายที่เหมาะกับพันธุกรรมของเรา ขั้นตอนการตรวจ เก็บตัวอย่างจากน้ำลายเพื่อตรวจวิเคราะห์ ต้องเป็นน้ำลายที่เป็นน้ำ ไม่ใช่เป็นฟองจะดีที่สุด โดนให้เก็บตอนเช้าหลังตื่นนอน ยังไม่ต้องแปรงฟัน ดื่มน้ำหรือรับประทานอาหารใดๆ ให้บ้วนน้ำลายใส่หลอดที่จะส่งตรวจถึงขีดที่กำหนดไว้ข้างหลอด ถ้าตื่นมาแล้วคอแห้ง ไม่สามารถเก็บได้ทันที ให้แปรงฟันดื่มน้ำรับประทานอาหารก่อนแล้วรออีก1ชม.ค่อยเก็บน้ำลายใหม่ หลังจากนั้น ให้นำตัวอย่างจากน้ำลายมาส่งที่โรงพยาบาลซึ่งจะใช้ระยะเวลาวิเคราะห์รหัส พันธุกรรมประมาณ 1 เดือน โดยห้องปฏิบัติการที่ทำการตรวจวินิจฉัย ได้รับมาตรฐานจาก Clinical Laboratory Improvement Amendments หรือ CLIA เป็นมาตรฐานที่กำกับดูแลโดยรัฐบาลกลางสหรัฐอเมริกาเกี่ยวกับการทดลองทางห้อง ปฏิบัติการทางคลินิก โดยใช้เทคโนโลยีสำหรับการตรวจรหัสพันธุกรรมที่ทันสมัย โดยสรุปแล้วการตรวจยีน ทำให้เรารู้ความเสี่ยง ต่อการเกิดโรคล่วงหน้า เมื่อผู้ตรวจทราบผลสามารถปรึกษาแพทย์เพื่อหาวิธีลดโอกาสเกิดโรคในอนาคต เช่น การปรับพฤติกรรมการรับประทานอาหารอย่างถูกต้อง การออกกำลังกาย การปรับสภาพแวดล้อมภายในบ้าน หรือที่ทำงาน รวมถึงการเฝ้าระวังการเกิดโรคอันไม่พึงประสงค์อย่างถูกต้อง และมีประสิทธิภาพสูงสุด พญ.ม.ล.ธัญญ์นภัส เทวกุล แพทย์เวชศาสตร์ชะลอวัย สอบถามเพิ่มเติมที่ คลินิกเวชศาสตร์ชะลอวัย โทร. 0 2734 0000 ต่อ 1164, 1182 ขอบคุณ... http://www.thairath.co.th/content/life/335577

จัดฟอร์แม็ตข้อความและมัลติมีเดีย

  1. เพิ่ม
  2. เพิ่ม ลบ
  3. เพิ่ม ลบ
  4. เพิ่ม ลบ
  5. เพิ่ม ลบ
  6. เพิ่ม ลบ
  7. เพิ่ม ลบ
  8. เพิ่ม ลบ
  9. เพิ่ม ลบ
  10. ลบ
เลือกการตกแต่งที่ต้องการ

ตกลง ยกเลิก

รายละเอียดการใส่ ลิงค์ รูปภาพ วิดีโอ เพลง (Soundcloud)

Waiting...