แชมป์ร้ายทำโลกมืด!! 'ภัยเงียบต้อหิน' ไม่เท่าทัน 'บอดถาวร'

แสดงความคิดเห็น

จักษุวิทยา ตรวจวัดสายตาผู้ป่วย

บรรดาโรคภัยไข้เจ็บที่คุกคามมนุษย์มาตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน แม้ว่าหลาย ๆ โรควิทยาการการแพทย์ของมนุษย์จะสามารถเอาชนะ หรือบรรเทาได้อย่างมีประสิทธิภาพ แต่ก็ยังมีหลาย ๆ โรคที่ยังไม่อาจจะเอาชนะได้ หรือ ไม่อาจเอาชนะได้หากรู้เมื่อสายเกิน ซึ่งกรณีหลังนี้ก็รวมถึงภัยจากโรคเกี่ยวกับดวงตาที่เรียกว่า ’ต้อหิน“

“ต้อหิน” เป็นโรคภัยที่ยังคุกคามมนุษย์ทั่วโลกในไทยเป็นภัยเบอร์ 1 ที่ทำให้ ’ตาบอดถาวร“ “เป็นสาเหตุนำอันดับหนึ่งของโรคตาบอดอย่างถาวรในประเทศไทย และเป็นปัญหาสาธารณสุขที่สำคัญของคนไทย” ...นี่เป็นการระบุของ รศ.นพ.ปริญญ์ โรจนพงศ์พันธุ์ หัวหน้าภาควิชาจักษุวิทยา คณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ในโอกาสที่โรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ ร่วมกับโรงพยาบาลอุดรธานี และบริษัท แอลเลอร์แกน (ประเทศไทย) จำกัด จัดมหกรรมตรวจสุขภาพตาเบื้องต้น “วันต้อหินโลก” โดยไม่เสียค่าใช้จ่าย โดยทีมแพทย์ผู้เชี่ยวชาญทั้งไทยและต่างประเทศ พร้อมทั้งจัดเสวนา “ต้อหิน ตรวจก่อน รู้ก่อน ป้องกันตาบอดได้” ด้วย

หัวหน้าภาควิชาจักษุวิทยา คณะแพทยศาสตร์ จุฬาฯ ระบุไว้ว่า...ต้อหินเป็นโรคที่รุนแรงและทำให้ตาบอดได้โดยไม่รู้ตัว รุนแรงกว่าต้อกระจก โรคเบาหวานขึ้นตา โดย ผู้ป่วย 9 ใน 10 ราย จะไม่รู้ว่าตัวเองเป็นต้อหิน อาการของผู้ป่วยคือจะค่อย ๆ สูญเสียการมองเห็น และเป็นสาเหตุสำคัญของการตาบอด ซึ่งในไทยปัจจุบันคาดว่ามีผู้เป็นต้อหินเกือบ 3 ล้านคน โดยพบมากที่สุดที่ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ น้อยที่สุดคือภาคใต้ กลุ่มเสี่ยงคือผู้มีอายุประมาณ 40 ปีขึ้นไป หรือมีคนในครอบครัวมีประวัติเป็นต้อหิน

แม้แต่ในกรุงเทพฯที่เข้าถึงบริการทางการแพทย์ได้สะดวกกว่าต่างจังหวัด ทาง รศ.นพ.ปริญญ์บอกไว้ว่า...ก็เป็นต้อหินกันมาก จากการสำรวจในกรุงเทพฯพบว่า แต่หากปล่อยไว้ก็อาจนำไปสู่โรคต้อหินถาวร อย่างไรก็ดี หากมีการตรวจพบก่อน และรีบทำการรักษา ก็จะสามารถป้องกันไม่ให้เป็นโรคนี้อย่างถาวรได้ แต่ปัญหาก็คือมักไม่รู้ตัว

“ปัญหาที่สำคัญที่สุดของต้อหินคือการไม่รู้ตัวว่าตนเองป่วยเป็นโรค เพราะในระยะแรกจะไม่มีอาการใด ๆ ซึ่งนี่เป็นสาเหตุทำให้ประสาทตาถูกทำลายไปมากแล้ว กว่าที่จะรู้ตัว และเมื่อโรคลุกลามไปมาก การรักษาก็มักไม่ได้ผล โรคต้อหินเป็นภัยเงียบที่น่ากลัว และทำลายคุณภาพชีวิตในระยะยาว นำมาซึ่งความทุกข์ และคุณภาพชีวิตที่ด้อยลงอย่างมากเมื่อสูญเสียการมองเห็น”...รศ.นพ.ปริญญ์ระบุไว้ พร้อมทั้งยังบอกไว้ด้วยว่า...ปัจจุบันมีคนไทยจำนวนมากที่ยังละเลยการดูแลใส่ใจสุขภาพดวงตาของตนเองและคนในครอบครัว จึงก่อให้เกิดปัญหาสุขภาพดวงตา และเกิดปัญหาทางสังคมตามมา ซึ่งการตรวจพบโรคต้อหินในระยะเริ่มแรกจะช่วยป้องกันไม่ให้ผู้ป่วยตาบอด ช่วยลดปัญหาทางสังคม และพัฒนาคุณภาพชีวิตของประชากรให้ดีขึ้น ดังนั้นจึงจำเป็นที่ทุกภาคส่วนจะต้องร่วมมือกันรณรงค์ให้ความรู้ กระตุ้นเตือนให้ประชาชนมีความรู้เกี่ยวกับโรค “ต้อหิน” เพื่อให้ประชาชนทราบ เท่าทัน และระวังป้องกันการ “ตาบอด” เพราะโรคต้อหิน

ทางด้าน นพ.ศิริวัฒน์ ไชยเอีย หัวหน้ากลุ่มงานจักษุวิทยา โรงพยาบาลอุดรธานี ระบุไว้ว่า... ปัจจุบันจำนวนผู้ป่วยด้วยโรคต้อหินในประเทศไทยมีแนวโน้มเพิ่มมากขึ้น ซึ่งสาเหตุสำคัญมาจากปัจจัยต่าง ๆ เช่น ความดันในลูกตา โรคเบาหวาน โรคหัวใจ โรคความดันโลหิตสูง การใช้ยาสเตียรอยด์ติดต่อกันเป็นเวลานาน ๆ และรวมถึงการที่สังคมไทยมีผู้สูงอายุมากขึ้น ซึ่งปัจจุบันก็ยังมีประชาชนอีกเป็นจำนวนมากที่ไม่สามารถเข้าถึงข้อมูลความรู้เรื่องต้อหิน ส่งผลให้มีผู้ป่วยเป็นจำนวนมากที่ต้องทนทุกข์ทรมานจากการ ’ตาบอดถาวรจากโรคต้อหิน“

“...จริง ๆ แล้วสามารถจะป้องกันได้ หากได้รับการวินิจฉัยรักษาแต่เนิ่น ๆ ดังนั้น การเผยแพร่ความรู้ความเข้าใจเรื่องการดูแลและเฝ้าระวังการเกิดโรคต้อหินไปสู่ประชาชนอย่างทั่วถึง จึงเป็นสิ่งสำคัญ” ...นพ.ศิริวัฒน์ ระบุไว้ พร้อมบอกว่า... การที่ภาครัฐ และภาคเอกชน ร่วมมือกันดำเนินการเรื่องนี้ นับเป็นเรื่องที่ดีขณะที่ ดร.มาร์กอต กูดคิน (Dr.Margot Goodkin) ผู้บริหารของบริษัท แอลเลอร์แกน ระบุไว้ว่า... ทางบริษัทฯมีนโยบายขยายการเข้าถึงของโครงการเกี่ยวกับต้อหินนี้ให้ครอบคลุมพื้นที่ต่าง ๆ ในไทยให้มากที่สุด เพื่อสนับสนุนภาครัฐในการส่งเสริมให้ประชาชนรู้เท่าทันโรคต้อหิน ช่วยให้เกิดการเข้าใจถึงปัญหาสุขภาพ ปัจจัยเสี่ยงต่าง ๆ อันเป็นสาเหตุของโรค ที่เกิดขึ้นในชุมชนต่างๆ เพื่อหาแนวทางแก้ปัญหาและรับมือได้อย่างถูกต้อง และทิ้งท้าย ผู้บริหารภาคเอกชนรายนี้บอกไว้ว่า... ’ทุกคนควรใส่ใจดูแลดวงตาของตนเองและคนรอบข้าง เพื่อรู้เท่าทัน รับคำแนะนำเพื่อปรับการดำรงชีวิตให้เหมาะสม เพื่อป้องกันต้อหินได้ทันท่วงที“ หลาย ๆ ฝ่ายก็ช่วยกันตรวจ และช่วยกันเตือน ประชาชนเองก็ ’อย่าได้ละเลยสุขภาพดวงตา“ ’ต้อหิน“ ทำตาบอดได้ ’ต้องกลัวก่อนโลกมืด“.

ขอบคุณ... http://www.dailynews.co.th/article/223/188897

ที่มา: เดลินิวส์ออนไลน์/มูลนิธิพัฒนาคนพิการไทย 8 มี.ค.56
วันที่โพสต์: 9/03/2556 เวลา 02:54:54 ดูภาพสไลด์โชว์ แชมป์ร้ายทำโลกมืด!! 'ภัยเงียบต้อหิน' ไม่เท่าทัน 'บอดถาวร'

แสดงความคิดเห็น

รอตรวจสอบ
จัดฟอร์แม็ต ดูการแสดงผล

รอตรวจสอบ

รอตรวจสอบ

รอตรวจสอบ

ยกเลิก

รายละเอียดกระทู้

จักษุวิทยา ตรวจวัดสายตาผู้ป่วย บรรดาโรคภัยไข้เจ็บที่คุกคามมนุษย์มาตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน แม้ว่าหลาย ๆ โรควิทยาการการแพทย์ของมนุษย์จะสามารถเอาชนะ หรือบรรเทาได้อย่างมีประสิทธิภาพ แต่ก็ยังมีหลาย ๆ โรคที่ยังไม่อาจจะเอาชนะได้ หรือ ไม่อาจเอาชนะได้หากรู้เมื่อสายเกิน ซึ่งกรณีหลังนี้ก็รวมถึงภัยจากโรคเกี่ยวกับดวงตาที่เรียกว่า ’ต้อหิน“ “ต้อหิน” เป็นโรคภัยที่ยังคุกคามมนุษย์ทั่วโลกในไทยเป็นภัยเบอร์ 1 ที่ทำให้ ’ตาบอดถาวร“ “เป็นสาเหตุนำอันดับหนึ่งของโรคตาบอดอย่างถาวรในประเทศไทย และเป็นปัญหาสาธารณสุขที่สำคัญของคนไทย” ...นี่เป็นการระบุของ รศ.นพ.ปริญญ์ โรจนพงศ์พันธุ์ หัวหน้าภาควิชาจักษุวิทยา คณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ในโอกาสที่โรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ ร่วมกับโรงพยาบาลอุดรธานี และบริษัท แอลเลอร์แกน (ประเทศไทย) จำกัด จัดมหกรรมตรวจสุขภาพตาเบื้องต้น “วันต้อหินโลก” โดยไม่เสียค่าใช้จ่าย โดยทีมแพทย์ผู้เชี่ยวชาญทั้งไทยและต่างประเทศ พร้อมทั้งจัดเสวนา “ต้อหิน ตรวจก่อน รู้ก่อน ป้องกันตาบอดได้” ด้วย หัวหน้าภาควิชาจักษุวิทยา คณะแพทยศาสตร์ จุฬาฯ ระบุไว้ว่า...ต้อหินเป็นโรคที่รุนแรงและทำให้ตาบอดได้โดยไม่รู้ตัว รุนแรงกว่าต้อกระจก โรคเบาหวานขึ้นตา โดย ผู้ป่วย 9 ใน 10 ราย จะไม่รู้ว่าตัวเองเป็นต้อหิน อาการของผู้ป่วยคือจะค่อย ๆ สูญเสียการมองเห็น และเป็นสาเหตุสำคัญของการตาบอด ซึ่งในไทยปัจจุบันคาดว่ามีผู้เป็นต้อหินเกือบ 3 ล้านคน โดยพบมากที่สุดที่ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ น้อยที่สุดคือภาคใต้ กลุ่มเสี่ยงคือผู้มีอายุประมาณ 40 ปีขึ้นไป หรือมีคนในครอบครัวมีประวัติเป็นต้อหิน แม้แต่ในกรุงเทพฯที่เข้าถึงบริการทางการแพทย์ได้สะดวกกว่าต่างจังหวัด ทาง รศ.นพ.ปริญญ์บอกไว้ว่า...ก็เป็นต้อหินกันมาก จากการสำรวจในกรุงเทพฯพบว่า แต่หากปล่อยไว้ก็อาจนำไปสู่โรคต้อหินถาวร อย่างไรก็ดี หากมีการตรวจพบก่อน และรีบทำการรักษา ก็จะสามารถป้องกันไม่ให้เป็นโรคนี้อย่างถาวรได้ แต่ปัญหาก็คือมักไม่รู้ตัว “ปัญหาที่สำคัญที่สุดของต้อหินคือการไม่รู้ตัวว่าตนเองป่วยเป็นโรค เพราะในระยะแรกจะไม่มีอาการใด ๆ ซึ่งนี่เป็นสาเหตุทำให้ประสาทตาถูกทำลายไปมากแล้ว กว่าที่จะรู้ตัว และเมื่อโรคลุกลามไปมาก การรักษาก็มักไม่ได้ผล โรคต้อหินเป็นภัยเงียบที่น่ากลัว และทำลายคุณภาพชีวิตในระยะยาว นำมาซึ่งความทุกข์ และคุณภาพชีวิตที่ด้อยลงอย่างมากเมื่อสูญเสียการมองเห็น”...รศ.นพ.ปริญญ์ระบุไว้ พร้อมทั้งยังบอกไว้ด้วยว่า...ปัจจุบันมีคนไทยจำนวนมากที่ยังละเลยการดูแลใส่ใจสุขภาพดวงตาของตนเองและคนในครอบครัว จึงก่อให้เกิดปัญหาสุขภาพดวงตา และเกิดปัญหาทางสังคมตามมา ซึ่งการตรวจพบโรคต้อหินในระยะเริ่มแรกจะช่วยป้องกันไม่ให้ผู้ป่วยตาบอด ช่วยลดปัญหาทางสังคม และพัฒนาคุณภาพชีวิตของประชากรให้ดีขึ้น ดังนั้นจึงจำเป็นที่ทุกภาคส่วนจะต้องร่วมมือกันรณรงค์ให้ความรู้ กระตุ้นเตือนให้ประชาชนมีความรู้เกี่ยวกับโรค “ต้อหิน” เพื่อให้ประชาชนทราบ เท่าทัน และระวังป้องกันการ “ตาบอด” เพราะโรคต้อหิน ทางด้าน นพ.ศิริวัฒน์ ไชยเอีย หัวหน้ากลุ่มงานจักษุวิทยา โรงพยาบาลอุดรธานี ระบุไว้ว่า... ปัจจุบันจำนวนผู้ป่วยด้วยโรคต้อหินในประเทศไทยมีแนวโน้มเพิ่มมากขึ้น ซึ่งสาเหตุสำคัญมาจากปัจจัยต่าง ๆ เช่น ความดันในลูกตา โรคเบาหวาน โรคหัวใจ โรคความดันโลหิตสูง การใช้ยาสเตียรอยด์ติดต่อกันเป็นเวลานาน ๆ และรวมถึงการที่สังคมไทยมีผู้สูงอายุมากขึ้น ซึ่งปัจจุบันก็ยังมีประชาชนอีกเป็นจำนวนมากที่ไม่สามารถเข้าถึงข้อมูลความรู้เรื่องต้อหิน ส่งผลให้มีผู้ป่วยเป็นจำนวนมากที่ต้องทนทุกข์ทรมานจากการ ’ตาบอดถาวรจากโรคต้อหิน“ “...จริง ๆ แล้วสามารถจะป้องกันได้ หากได้รับการวินิจฉัยรักษาแต่เนิ่น ๆ ดังนั้น การเผยแพร่ความรู้ความเข้าใจเรื่องการดูแลและเฝ้าระวังการเกิดโรคต้อหินไปสู่ประชาชนอย่างทั่วถึง จึงเป็นสิ่งสำคัญ” ...นพ.ศิริวัฒน์ ระบุไว้ พร้อมบอกว่า... การที่ภาครัฐ และภาคเอกชน ร่วมมือกันดำเนินการเรื่องนี้ นับเป็นเรื่องที่ดีขณะที่ ดร.มาร์กอต กูดคิน (Dr.Margot Goodkin) ผู้บริหารของบริษัท แอลเลอร์แกน ระบุไว้ว่า... ทางบริษัทฯมีนโยบายขยายการเข้าถึงของโครงการเกี่ยวกับต้อหินนี้ให้ครอบคลุมพื้นที่ต่าง ๆ ในไทยให้มากที่สุด เพื่อสนับสนุนภาครัฐในการส่งเสริมให้ประชาชนรู้เท่าทันโรคต้อหิน ช่วยให้เกิดการเข้าใจถึงปัญหาสุขภาพ ปัจจัยเสี่ยงต่าง ๆ อันเป็นสาเหตุของโรค ที่เกิดขึ้นในชุมชนต่างๆ เพื่อหาแนวทางแก้ปัญหาและรับมือได้อย่างถูกต้อง และทิ้งท้าย ผู้บริหารภาคเอกชนรายนี้บอกไว้ว่า... ’ทุกคนควรใส่ใจดูแลดวงตาของตนเองและคนรอบข้าง เพื่อรู้เท่าทัน รับคำแนะนำเพื่อปรับการดำรงชีวิตให้เหมาะสม เพื่อป้องกันต้อหินได้ทันท่วงที“ หลาย ๆ ฝ่ายก็ช่วยกันตรวจ และช่วยกันเตือน ประชาชนเองก็ ’อย่าได้ละเลยสุขภาพดวงตา“ ’ต้อหิน“ ทำตาบอดได้ ’ต้องกลัวก่อนโลกมืด“. ขอบคุณ... http://www.dailynews.co.th/article/223/188897

จัดฟอร์แม็ตข้อความและมัลติมีเดีย

  1. เพิ่ม
  2. เพิ่ม ลบ
  3. เพิ่ม ลบ
  4. เพิ่ม ลบ
  5. เพิ่ม ลบ
  6. เพิ่ม ลบ
  7. เพิ่ม ลบ
  8. เพิ่ม ลบ
  9. เพิ่ม ลบ
  10. ลบ
เลือกการตกแต่งที่ต้องการ

ตกลง ยกเลิก

รายละเอียดการใส่ ลิงค์ รูปภาพ วิดีโอ เพลง (Soundcloud)

Waiting...