‘จิตภัสร์’ชงโมเดลทางออกประเทศไทย 4.0 ผลักดันวาระแห่งชาติ

‘จิตภัสร์’ชงโมเดลทางออกประเทศไทย 4.0 ผลักดันวาระแห่งชาติ

‘จิตภัสร์’ชงโมเดลทางออกประเทศไทย 4.0 ผลักดันวาระแห่งชาติยกระดับคุณภาพชีวิตกลุ่มเปราะบาง

เมื่อวันที่ 5 ต.ค.นางสาวจิตภัสร์ ตั๊น กฤดากร รองเลขาธิการพรรคประชาธิปัตย์ และรองประธานคณะกรรมาธิการตำรวจ สภาผู้แทนราษฎร กล่าวว่า ในฐานะที่เป็นหนึ่งในคณะกรรมการเตรียมการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร พรรคประชาธิปัตย์ เล็งเห็นถึงความสำคัญของการเร่งแก้ไขปัญหาความเหลื่อมล้ำในสังคมไทย ซึ่งนับวันยิ่งทวีความรุนแรงจนเป็นปัญหาสังคมเชิงโครงสร้าง ขณะนี้กลุ่มที่น่าเป็นห่วงมากที่สุด คือ ประชากรกลุ่มเปราะบาง ซึ่งมีความเสี่ยงสูงกว่าคนทั่วไป ไม่ว่าจะเป็นผู้พิการ เด็ก เยาวชน ผู้สูงอายุ คนไร้บ้าน หรือแม้แต่ผู้ต้องขังที่พ้นโทษออกจากเรือนจำ คนเหล่านี้ต้องได้รับการดูแลเพื่อยกระดับคุณภาพชีวิต เพื่อลดช่องว่างความเหลื่อมล้ำทางสังคม

“ทุกวันนี้สิ่งที่ทำให้ประเทศไทยไม่สามารถปลดแอกจากประเทศกำลังพัฒนาได้ เพราะเรายังมีคนยากจน คนชายขอบ คนที่ถูกกดขี่และคนที่ไร้โอกาสทางสังคมอยู่เป็นจำนวนมาก และเราก็พูดถึงคนเหล่านี้มาโดยตลอด แต่ยังไม่มีนโยบายอะไรที่ชัดเจนและจะบอกว่าเราจะทำอะไรเพื่อพวกเขาอย่างเป็นรูปธรรมได้บ้าง “นางสาวจิตภัสร์ กล่าวและว่า ผลกระทบจากการแพร่ระบาดของโควิด 19 ตลอดระยะเวลา 2 ปีกว่าที่ผ่านมา เศรษฐกิจที่ตกต่ำ ได้ผลักให้คนธรรมดาๆต้องกลายเป็นคนชายขอบ คนชั้นกลางถูกลดระดับลงเป็นคนระดับล่างที่รายได้ไม่พอเลี้ยงครอบครัว และยิ่งถ้าเป็นกลุ่มเปราะบาง ก็ยิ่งถูกผลักให้เป็นคนจนซ้ำซาก คนจนข้ามพื้นที่ คนจนเมือง คนจนข้ามรุ่น ที่ไม่มีโอกาสที่จะยกระดับแม้แต่คุณภาพชีวิตของตนเอง

รองเลขาธิการพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวอีกว่า สิ่งสำคัญที่สุดที่จะทำให้ประเทศไทยเป็น 4.0 ไม่ใช่ 0.4 คือการผลักดันนโยบายแก้ไขปัญหาคุณภาพชีวิตกลุ่มเปราะบาง และสร้างโอกาสให้คนเหล่านี้ในทุกมิติเป็นวาระแห่งชาติ สร้างศักยภาพให้กับกลุ่มคนเหล่านี้ด้วยการเรียนรู้ในรูปแบบใหม่ ไม่ใช่แค่ในระบบโรงเรียน แต่เป็นการเรียนรู้ในบริบทการใช้ชีวิตของพวกเขา

“จากการได้ลงพื้นที่ การไปทำงานใกล้ชิดกับโรงเรียนตชด.ทั่วประเทศ ทำให้มองเห็นว่าถ้าเด็กไปโรงเรียนไม่ได้ มีความยากลำบากในการเดินทาง เราก็ต้องส่งครูไปหาเขา ไปสอน ไปเป็นโค้ชให้เขามีความรู้ มีทักษะการใช้ชีวิต นำโอกาสไปให้เขาไม่ใช่ให้เขานั่งรอโอกาส หรือถ้าคนป่วย ไปโรงพยาบาลลำบาก ก็ต้องมีหมอ มีแพทย์เวชศาสตร์ครอบครัวลงไปดูแล คนสูงอายุ ผู้ป่วยติดเตียง เราเข้าสู่ยุคโมบาย ยูนิต ยุคดิจิตัลมานานแล้ว ก็ต้องเอามนุษย์เป็นโมบายไปดูแลคนที่เขาไม่สามารถเคลื่อนไหวตนเองเพื่อเข้าถึงโอกาส นำโอกาสไปมอบให้เขา”นางสาวจิตภัสร์ กล่าว

นางสาวจิตภัสร์ กล่าวอีกว่า ทั้งนี้จากประสบการณ์ที่ได้ทำงานร่วมกับผู้พิการ กับเด็กๆในพื้นที่ห่างไกล จึงมองว่าปัญหาของกลุ่มคนเปราะบาง จำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องใช้กลไกทางการเมือง ควบคู่ไปกับกลไกของรัฐ เข้าไปจัดการแก้ไขอย่างจริงจังโดยเร่งด่วน จะได้นำเสนอแนวคิดดังกล่าวให้พรรคพิจารณาผลักดันเป็นนโยบายของพรรค เพื่อนำไปสู่การขับเคลื่อนอย่างเป็นระบบ และถือเป็นวาระแห่งชาติ เพื่อที่จะสามารถยกระดับคุณภาพชีวิตให้แก่คนกลุ่มเปราะบางได้อย่างแท้จริง

ขอบคุณ... https://www.naewna.com/local/684552

ที่มา: naewna.com/มูลนิธิพัฒนาคนพิการไทย 6 ต.ค.65
วันที่โพสต์: 6/10/2565 เวลา 13:55:55 ดูภาพสไลด์โชว์ ‘จิตภัสร์’ชงโมเดลทางออกประเทศไทย 4.0 ผลักดันวาระแห่งชาติ