หนูน้อยยอดกตัญญูวัย11ปีจูงแม่พิการตาบอด ขอข้าวก้นบาตรกิน

หนูน้อยยอดกตัญญูวัย11ปีจูงแม่พิการตาบอด ขอข้าวก้นบาตรกิน

สะเทือนใจ“น้องกฤษณ์”หนูน้อยวัย 11 ปี จูงแม่พิการตาบอดขอข้าวก้นบาตรกิน ลั่นจบ ป.6 ขอบวชตลอดชีวิต

เมื่อวันที่ 3 ก.ค. ที่วัดเขาพระทอง หมู่ 1 ต.เขาพระทอง อ.ชะอวด จ.นครศรีธรรมราช ในขณะที่พุทธศาสนิกชนทั้งในและต่างพื้นที่ เดินทางมากราบนมัสการหลวงพ่อองค์ใหญ่ พระพุทธรูปศักดิ์สิทธิ์เก่าแก่อายุกว่า 800 ปี และกราบไหว้ขอพรท้าวเวส สุวรรณ รวมทั้งมาถวายเทียนพรรษาให้วัดเขาพระทอง อย่างต่อเนื่องโดยมีพระมหาอารยนันต์ อานันโท เจ้าอาวาสและพระอาจารย์อานนท์ เตชะธัมโม พระเกจิดังสายเขาอ้อพระลูกวัดเขาพระทอง พร้อมพระภิกษุ และลูกศิษย์ให้การต้อนรับและอำนวยความสะดวกอย่างใกล้ชิดต่อเนื่อง

ขณะนั้นพระภิกษุและพุทธศาสนิกชนได้พบเห็นเด็กผู้ชายอายุประมาณ 10-11 ปี เดินจูงมือผู้หญิงอายุประมาณ 50 ปีเศษ คาดว่าเป็นแม่เข้ามาภายในวัด และสอบถามหาพระมหาอารยนันต์ เจ้าอาวาส เมื่อทราบว่าพระมหาอารยนันต์ ต้อนรับญาติโยมที่มาถวายเทียนพรรษาอยู่ในศาลาริมน้ำจึงเดินไปหาและกราบพระมหาอารยนันต์ ด้วยใบหน้าเศร้าสร้อย โดยเด็กผู้ชายคนดังกล่าวแจ้งว่าหิวข้าว ไม่ได้รับประทานอาหารเลย พระมหาอารยนันต์ จึงให้เจ้าหน้าที่จัดหาข้าวปลาอาหารให้สองแม่ลูกรับประทานอย่างเอร็ดอร่อยเป็นที่น่าเวทนาสงสารแก่ผู้พบเห็นยิ่งนัก

จากการสอบถามทราบชื่อ ด.ช.ธนฤกษณ์ จันสงค์ หรือ “น้องกฤษณ์ “อายุ 11 ปี เรียนชั้นป.5 โรงเรียนเจริญวิทยา อ.ทุ่งสง จ.นครศรีธรรมราช และนางกัญญาวีร์ พรหมดนตรี หรือ “เจี๊ยบ” อายุ 51 ปี แม่บังเกิดแกล้าของด.ช.ธนฤกษณ์ อาศัยอยู่บ้านเช่า ซึ่งพิการตาขวาบอดมองไม่เห็นตาซ้ายมองเห็นเลือนราง แขนขวามีพังผืดยึดได้รับความเจ็บปวดเคลื่อนไหวไม่ค่อยสะดวก และยังมีโรคประจำตัวทั้งเบาหวาน ความดัน และโรคไต และเคยไตวายเฉียบพลัน จนต้องหามส่งรพ.ทุ่งสง แพทย์ช่วยรอดชีวิตไว้ได้อย่างหวุดหวิด

นางกัญญาวีร์ กล่าวว่า ชีวิตตนหลังจากโรครุมเร้า และแยกทางกับสามีก็ต้องรับภาระเลี้ยงดูลูกชายด้วยตนเอง ในช่วงหลังเบาหวานขึ้นตาทำให้ตาขวาบอดสนิทไป1 ข้าง ตาซ้ายมองเห็นเลือนราง แขนขวาเป็นพังผืดยึดจนเจ็บปวดเคลื่อนไหวไม่สะดวก แพทย์นัดผ่าตัดพังผืดและตาข้างซ้ายในเร็ว ๆ นี้ ล่าสุดเกิดไตวายเฉียบพลันโชคดี ชาวบ้านช่วยนำส่งรพ.ทุ่งสง แพทย์ช่วยรอดตายมาได้อย่างหวุดหวิด ตนจึงตัดสินใจมาเช่าบ้านใกล้กับโรงพยาบาลทุ่งสง เดือนละ1,800 บาท เพื่อความสะดวก หากเกิดเหตุฉุกเฉินช่วงกลางคืน ในขณะที่ลูกชายทางโรงเรียนให้เรียนฟรี ปัจจุบันเรียนอยู่ ป.5 โดย ด.ช.ธนฤกษณ์ จะเป็นผู้ดูแลช่วยเหลือตนทุกอย่าง

นางกัญญาวีร์ กล่าวว่า ปกติตนและ ด.ช.ธนฤกษณ์ จะช่วยกันทำขนมง่าย ๆ ให้ตนนั่งขายมีรายได้เล็กน้อย ๆ และได้รับเงินช่วยเหลือเยียวยาผู้พิการเดือนละ 800 บาทอยู่กินกันอย่างยากลำบากแร้นแค้นสุด ๆ แต่จำต้องสู้ทนเพื่อให้ลูกชาย เติบโตสามารถเลี้ยงตัวเองได้ แต่โรคร้ายหลายโรคที่รุมเร้าตนหนักเพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ ไม่แน่ใจว่าจะมีชีวิตอยู่ต่อไปได้กี่ปี และยอมรับว่าเป็นห่วงอนาคตลูกชายมาก

“ที่สำคัญมีคนใจร้าย ใจดำดูถูก ดูแคลนเมื่อพบตนกับลูกชาย แสดงอาการไม่พอใจ ขยะแขยง มองเหมือนตนเองกับลูกไม่ใช่มนุษย์ แม้จะน้อยใจและเสียกำลังใจ แต่จำใจต้องอดทนต่อคำพูดดูถูกเหยียดหยามของคนเหล่านั้น ตนจึงไม่ค่อยกล้าที่จะไปขอความช่วยเหลือจากใครๆ แต่ล่าสุดถึงกำหนดจ่ายค่าเช่าบ้าน 1,800 บาทแต่ตนมีติดตัวแค่ไม่ถึง 200 บาทและเงินคนพิการในบัญชี 800 บาท จึงตัดสินใจเดินทางมาขอความช่วยเหลือพระมหาอารยนันต์ เพื่อขอความช่วยเหลือเรื่องค่าบ้าน และเมื่อหลายเดือนก่อนท่านเคยช่วยเหลือตนกับลูกมาแล้ว 2,000 บาท ตนเกรงใจพระมหาอารยนันต์มากแต่ไม่รู้จะหันหน้าไปพึ่งใคร”นางกัญญาวีร์ กล่าว

ด้าน ด.ช.ธนกฤษณ์ กล่าวว่า ตนเองรักแม่ และสงสารแม่มาก ๆ เมื่อไปโรงเรียนแม่ต้องอยู่บ้านคนเดียวตามองไม่ค่อยเห็น ร่างกายไม่แข็งแรงเป็นห่วงแม่มาก ๆ และตั้งใจเรียนหนังสือ จนมีผลการเรียนดีมาก อย่างไรก็ตามหลังจบ ป.6 สัญญาว่าจะมาบวชเป็นสามเณร ขอพึ่งใบบุญของพระอาจารย์พระมหาอารยนันต์อานันโท เจ้าอาวาสวัดเขาพระทอง เพราะท่านมีเมตตา กรุณากับตนและแม่มาตลอด ทั้งนี้เพื่ออุทิศตนช่วยเหลือท่านช่วยเหลือวัดและพระพุทธศาสนา โดยในขณะที่เป็นสามเณรหรือพระภิกษุ ตนจะเรียนไปด้วย พร้อมจะเลี้ยงดูแม่ให้ดี และมีชีวิตอยู่กับตนให้นานที่สุด หากแม่เสียชีวิตตนอาจจะบวชตลอดชีวิตไปสึกอีกเลย

พระมหาอารยนันต์อานันโท เจ้าอาวาสวัดเขาพระทอง กล่าวว่า อาตมาจะไม่ปฏิเสธการช่วยเหลือญาติโยมที่เดือดร้อนในทุกกรณี แต่จะช่วยเหลือได้มากน้อยแค่ไหนเป็นอีกเรื่องหนึ่ง เพราะอาตมาตั้งใจแล้วว่าจะอุทิศตนเพื่อพระพุทธศาสนาและประชาชนตลอดไป สำหรับการช่วยเหลือนางกัญญาวีร์ และด.ช.ธนกฤษณ์ อาตมาจะช่วยตลอดไป ส่วนเรื่องที่ ด.ช.ธนกฤษณ์ สัญญาว่าจบ ป.6 จะมาบวชเป็นสามเณรที่วัดและอยู่กับอาตมาตลอดไป หากเป็นไปได้อาตมาจะส่งเสียให้เล่าเรียนจนถึงขั้นสูงสุด ส่วนในอนาคตจะสึกออกไปหรือไม่ ขึ้นอยู่กับการตัดสินใจของเด็ก

ขอบคุณ... https://www.dailynews.co.th/news/1213249/

ที่มา: เดลินิวส์ออนไลน์/มูลนิธิพัฒนาคนพิการไทย 4 ก.ค.65
วันที่โพสต์: 4/07/2565 เวลา 11:10:29 ดูภาพสไลด์โชว์ หนูน้อยยอดกตัญญูวัย11ปีจูงแม่พิการตาบอด ขอข้าวก้นบาตรกิน