‘คีย์แมน’ ร้าน ‘สตรีทฟู้ดดีกรีมิชลิน’ ‘เชฟเอ-สมเจตน์ ชื่นแย้ม’ เจ้าของตำนานดัง ‘ผัดไทยไร้เสียง’

‘คีย์แมน’ ร้าน ‘สตรีทฟู้ดดีกรีมิชลิน’ ‘เชฟเอ-สมเจตน์ ชื่นแย้ม’ เจ้าของตำนานดัง ‘ผัดไทยไร้เสียง’

"เขาพิการทางการได้ยินและพูดไม่ได้มาตั้งแต่เกิด ทำให้ไปสมัครงานที่ไหนก็ไม่มีใครรับ แต่เขาก็ไม่เคยยอมแพ้โชคชะตา จึงหันมาฝึกหัดทำผัดไทยในแบบที่ชอบกินในวัยเด็ก จนสามารถเปิดร้าน และประสบความสำเร็จในเส้นทางนี้ได้ในวันนี้"

อ้น-กิตติชัย น้องชายของ “เชฟเอ-สมเจตน์” เจ้าของร้าน “บ้านใหญ่ผัดไทยเตาถ่าน” ที่ตั้งอยู่ในซอยอินทามระ 47 หรือที่รู้จักกันในฉายา “ผัดไทยไร้เสียง” ได้มาช่วยถ่ายทอดเรื่องราวแทนพี่ชาย เนื่องจาก “เชฟเอ” เป็นผู้พิการทางการได้ยิน และพูดไม่ได้มาตั้งแต่เกิด โดยอ้นเล่าว่า ครอบครัวของเขามีพี่น้องรวม 5 คน โดยเชฟเอเป็นลูกคนที่ 4 และตัวเขาเป็นลูกคนสุดท้อง ทำให้อายุจึงไม่ได้ห่างกันมาก และทำให้เขากับพี่ชายคนนี้สนิทกันมากมาตั้งแต่เด็ก ๆ ซึ่งสำหรับพื้นเพครอบครัวนั้น อ้นเล่าว่า คุณปู่มีอาชีพทำนาอยู่ทุ่งห้วยขวาง แต่ คุณพ่อ (เทวัญ ขวัญพนา) เป็นนักร้อง พอหลังจากเลิกอาชีพร้องเพลง คุณพ่อก็หันมาทำค่ายมวย ซึ่งครอบครัวก็พอจะมีฐานะอยู่ในระดับที่ไม่ได้ลำบากนัก จนมาเกิดวิกฤติ คุณพ่อคุณแม่ล้มป่วย ต้องใช้เงินรักษาตัวมาก จนต้องนำบ้านไปจำนองเพื่อนำเงินมารักษา “หลังจากคุณพ่อที่เป็นเหมือนเสาหลักครอบครัวเสียชีวิตลงไป ก็ทำให้สภาพการเงินของที่บ้านยิ่งสั่นคลอน และค่ายมวยก็ต้องขายให้คนอื่นไป ซึ่งพี่น้องทุกคนต้องช่วยกันหางานทำเพื่อหาเงินมาจุนเจือและพยุงครอบครัว อย่างตัวผมก็ไปทำงานเป็นลูกจ้างทั่วไป” อ้นเล่าถึง “จุดหักเหของครอบครัว” หลังจากที่คุณพ่อเสีย

พร้อมเล่าต่ออีกว่า ในขณะที่พี่น้องทุกคนหางานทำได้ แต่เชฟเอไม่สามารถหางานทำได้ เนื่องจากไปสมัครงานที่ไหนก็ไม่มีคนรับ เพราะมองว่าพี่ชายคนนี้ของเขาเป็นคนพิการพูดไม่ได้ จนมีเพื่อน ๆ ของพี่ชาย ซึ่งเป็นผู้พิการเหมือนกัน ได้มาแนะนำให้พี่ชายไปขายลอตเตอรี่ จากนั้นพี่ชายก็จึงเริ่มต้นทำอาชีพนี้มาเรื่อย ๆ แต่หลังจากยึดอาชีพเป็นคนขายลอตเตอรี่อยู่นานหลายปี พอมาถึงช่วงที่มีการเปลี่ยนแปลงรัฐบาล ก็ได้มีการกำหนดนโยบายที่บังคับให้ ห้ามขายลอตเตอรี่เกินราคา 80 บาท ซึ่งทำให้พี่ชายมองว่า ขายต่อไปก็คงไม่คุ้ม เพราะ ลอตเตอรี่ที่รับมาราคาทุนก็เกิน 80 บาทแล้ว จึงตัดสินใจเลิกอาชีพขายลอตเตอรี่ ซึ่งหลังจากไม่ทำอาชีพนี้แล้ว พี่ชายของเขาก็พยายามมองหาอาชีพอื่นเพื่อมาทดแทน จนมาลงตัวที่ “อาชีพทำผัดไทยขาย”

‘คีย์แมน’ ร้าน ‘สตรีทฟู้ดดีกรีมิชลิน’ ‘เชฟเอ-สมเจตน์ ชื่นแย้ม’ เจ้าของตำนานดัง ‘ผัดไทยไร้เสียง’

“พี่เอเขาชอบทำอาหาร ชอบกินผัดไทยมากอยู่แล้ว เขาก็เลยอยากทำอาชีพที่คิดว่าตัวเขานั้นถนัดที่สุด ซึ่งตอนแรกไม่ได้ขายผัดไทยเลย ขายอาหารตามสั่งก่อน แต่ก็ขายไม่ดี เราจึงมาช่วยกันคิดว่า ควรเปลี่ยนเมนูที่ขายไหม จนพี่เอเขาก็เกิดไอเดียว่า เขาเคยกินผัดไทยเจ้าหนึ่งแล้วชอบมาก ซึ่งเขาจำได้ทั้งหมดเลยว่า ในสูตรผัดไทยของร้านนั้นมีส่วนผสมอะไรบ้าง เขาก็เลยลองมาฝึกหัดทำดู โดยหัดทำอยู่ถึง 2 เดือน จนอร่อยได้ที่แล้ว พี่น้องจึงสนับสนุนให้เปิดร้าน แม้ตอนนั้นพี่เอเขาจะยังไม่มั่นใจก็ตามที ส่วนเงินทุนตั้งต้นเปิดร้าน พี่น้องทุกคนนำเงินกองกลางที่เหลืออยู่มาซื้อรถเข็นและอุปกรณ์ทำผัดไทยให้” น้องชาย “เชฟเอ” บอกเล่าเรื่องนี้

อ้นยังเล่าถึงช่วงที่พี่ชายเปิดร้านผัดไทยใหม่ ๆ ให้ฟังว่า ช่วงแรก ๆ จะขายอยู่ในซอยบ้าน โดยเริ่มจากไข่แค่ 1 แผง หลังจากนั้นประมาณ 2-3 เดือน ร้านก็เริ่มเป็นที่รู้จักของคนในละแวกบ้านมากขึ้น ซึ่งขายอยู่ได้ 2-3 ปี วันหนึ่งก็มียูทูบเบอร์คนหนึ่ง คือ “หม่อมถนัดแดก” มาเดินสายรีวิวร้านอาหารแถว ๆ ที่พี่ชายทำผัดไทยขายพอดี ซึ่งก็มีคนบอกกับเขาว่า มีร้านผัดไทยอร่อยอยู่ร้านหนึ่ง แถมคนทำยังเป็นใบ้ด้วย เขาก็เลยลองแวะเข้ามาชิมดู ซึ่งปรากฏหม่อมถนัดแดกเขาชอบรสชาติผัดไทยของที่ร้านมาก จึงแวะกลับมาอีก 3 รอบ รวมทั้งช่วยรีวิวให้ และก็เป็น หม่อมถนัดแดก นี่เองที่เป็น “คนตั้งฉายา” ให้กับร้านนี้ว่าเป็น “ผัดไทยไร้เสียง” เพราะเห็นว่าคนทำขายเป็นผู้พิการทางการได้ยินและพูดไม่ได้ หลังจากนั้นไม่นาน ก็ทำให้ร้านเริ่มเป็นที่รู้จักมากขึ้น

ภายหลังจากที่มีคนมารีวิวร้าน จนทำให้ร้านเป็นที่รู้จักมากขึ้นแล้ว ต่อมา “ร้านผัดไทยไร้เสียง” ของพี่ชายเขาก็ยัง “ได้รับรางวัลจากมิชลินไกด์” มาแบบไม่ได้ตั้งตัว ทั้ง ๆ ที่ร้านผัดไทยร้านนี้เป็นเพียงแค่ “ร้านรถเข็นข้างทาง” โดย อ้น น้องชาย เชฟเอ เล่าถึงเรื่องราวในจุดนี้ให้ฟังว่า ตอนที่ได้รางวัลจากมิชลินมานั้น ทุกคนที่บ้านและที่ร้านไม่มีใครรู้ตัวมาก่อนเลย และตอนนั้นที่ร้านก็เป็นรถเข็นขายผัดไทยแค่เพียงกระทะเดียว โดยถ้าเดาไม่ผิด ตอนช่วงปลายปี 2018 ช่วงนั้นจะมีลูกค้าต่างชาติมากินอยู่บ่อย ๆ วัน ๆ หนึ่ง ก็จะมีเข้ามากินผัดไทยที่ร้านประมาณ 1-2 คน ซึ่งตอนนั้นทุกคนที่ร้านก็คิดว่าคงเป็นลูกค้าทั่วไป แต่ปรากฏผ่านไปไม่นาน ทางหลานก็ได้ส่งข่าวมาให้ดูว่า ร้านผัดไทยของพี่เอได้รับรางวัลมิชลิน ซึ่งตอนนั้นเขาเองก็ยังไม่รู้ด้วยซํ้าว่า รางวัลมิชลินคืออะไร? จนเมื่อไปค้นหาข้อมูลก็ยิ่งตกใจ เมื่อพบว่า รางวัลนี้เป็นรางวัลระดับโลกที่ร้านอาหารทุกแห่งอยากจะได้รางวัลนี้

“ที่พวกเราทุกคนงงก็คือ เขาแอบมาชิมตอนไหน? ซึ่งหลังจากข่าวที่ร้านได้รางวัลมิชลินออกไป ปรากฏหลังจากนั้น ทำให้ลูกค้ายิ่งมาที่ร้านกันมากขึ้น แต่ตอนนั้นที่ร้านก็ยังเป็นร้านรถเข็นผัดแค่เตาเดียว จนบางครั้งทำให้ลูกค้าต้องรอถึง 3 ชั่วโมงก็มี ขนาดผมเลิกงานกลับมายังตกใจเลยว่าทำไมมีคนรอคิวเยอะมาก” น้องชายเชฟเอกล่าว

ภายหลังจากที่มีคนมารีวิวร้าน จนทำให้ร้านเป็นที่รู้จักมากขึ้นแล้ว ต่อมา “ร้านผัดไทยไร้เสียง” ของพี่ชายเขาก็ยัง “ได้รับรางวัลจากมิชลินไกด์” มาแบบไม่ได้ตั้งตัว ทั้ง ๆ ที่ร้านผัดไทยร้านนี้เป็นเพียงแค่ “ร้านรถเข็นข้างทาง” โดย อ้น น้องชาย เชฟเอ เล่าถึงเรื่องราวในจุดนี้ให้ฟังว่า ตอนที่ได้รางวัลจากมิชลินมานั้น ทุกคนที่บ้านและที่ร้านไม่มีใครรู้ตัวมาก่อนเลย และตอนนั้นที่ร้านก็เป็นรถเข็นขายผัดไทยแค่เพียงกระทะเดียว โดยถ้าเดาไม่ผิด ตอนช่วงปลายปี 2018 ช่วงนั้นจะมีลูกค้าต่างชาติมากินอยู่บ่อย ๆ วัน ๆ หนึ่ง ก็จะมีเข้ามากินผัดไทยที่ร้านประมาณ 1-2 คน ซึ่งตอนนั้นทุกคนที่ร้านก็คิดว่าคงเป็นลูกค้าทั่วไป แต่ปรากฏผ่านไปไม่นาน ทางหลานก็ได้ส่งข่าวมาให้ดูว่า ร้านผัดไทยของพี่เอได้รับรางวัลมิชลิน ซึ่งตอนนั้นเขาเองก็ยังไม่รู้ด้วยซํ้าว่า รางวัลมิชลินคืออะไร? จนเมื่อไปค้นหาข้อมูลก็ยิ่งตกใจ เมื่อพบว่า รางวัลนี้เป็นรางวัลระดับโลกที่ร้านอาหารทุกแห่งอยากจะได้รางวัลนี้

‘คีย์แมน’ ร้าน ‘สตรีทฟู้ดดีกรีมิชลิน’ ‘เชฟเอ-สมเจตน์ ชื่นแย้ม’ เจ้าของตำนานดัง ‘ผัดไทยไร้เสียง’

“ที่พวกเราทุกคนงงก็คือ เขาแอบมาชิมตอนไหน? ซึ่งหลังจากข่าวที่ร้านได้รางวัลมิชลินออกไป ปรากฏหลังจากนั้น ทำให้ลูกค้ายิ่งมาที่ร้านกันมากขึ้น แต่ตอนนั้นที่ร้านก็ยังเป็นร้านรถเข็นผัดแค่เตาเดียว จนบางครั้งทำให้ลูกค้าต้องรอถึง 3 ชั่วโมงก็มี ขนาดผมเลิกงานกลับมายังตกใจเลยว่าทำไมมีคนรอคิวเยอะมาก” น้องชายเชฟเอกล่าว

“เบื้องหลัง” ความสำเร็จของ “ผัดไทยไร้เสียง” ร้านนี้ นอกจาก “รสชาติ” แล้ว อีกคีย์เวิร์ดที่ช่วยผลักดันให้ร้านนี้ก้าวมาถึงจุดนี้ได้ก็คือ “พลังครอบครัว” โดย อ้น-กิตติชัย บอกว่า ครอบครัวเติบโตกันมาแบบอบอุ่น คุณพ่อคุณแม่จะคอยสอนให้พี่น้องรักกันและคอยช่วยเหลือกัน อย่างร้านผัดไทยของพี่เอที่ประสบความสำเร็จมาจนถึงทุกวันนี้ได้ ก็มาจากครอบครัวพี่น้องเราไม่เคยทิ้งกัน ทุกคนพร้อมจะช่วยเหลือและสนับสนุนกันตลอด โดยอ้นยังบอกเล่าเรื่องนี้ไว้ด้วยว่า “ช่วงแรก ๆ ที่พี่เอจะเปิดร้าน เขาก็จะกังวลว่าจะขายได้หรือไม่ แต่พวกเราพี่น้องก็พยายามให้กำลังใจ จนเขากล้าที่จะเปิดร้านนี้ ซึ่งถ้าวันนั้นไม่สร้างความมั่นใจให้เขา เขาอาจจะไม่กล้าเปิดร้าน และอาจจะไม่ได้พบกับความเปลี่ยนแปลงและความสำเร็จแบบนี้ก็ได้”

ขอบคุณ... https://www.dailynews.co.th/articles/1067124/

ที่มา: เดลินิวส์ออนไลน์/มูลนิธิพัฒนาคนพิการไทย 22 พ.ค.65
วันที่โพสต์: 23/05/2565 เวลา 10:26:46 ดูภาพสไลด์โชว์ ‘คีย์แมน’ ร้าน ‘สตรีทฟู้ดดีกรีมิชลิน’ ‘เชฟเอ-สมเจตน์ ชื่นแย้ม’ เจ้าของตำนานดัง ‘ผัดไทยไร้เสียง’