"หญิงพิการ" สุดช้ำน้ำท่วมปีนี้ทุกข์หนักเกือบคิดสั่น

"หญิงพิการ" สุดช้ำน้ำท่วมปีนี้ทุกข์หนักเกือบคิดสั่น

"หญิงพิการ" ลพบุรีเครียดหนักเลี้ยงลูกคนเดียวมีรายได้จากเงินคนพิการ 800 บาทเกือบคิดฆ่าตัวตาย หน่ำซ่ำน้ำท่วมบ้าน

นางวัชรี ชิณบุตร อายุ 48 ปี ชาวบ้านหมู่ 7 ตำบลหินปัก อำเภอบ้านหมี่ จังหวัดลพบุรี เปิดเผยถึงชีวิตที่สุดรันทดช่วงน้ำท่วมกับ คมชัดลึก ว่า ตอนนี้สิ้นหวังหมดแรงและกำลังใจ เพราะชีวิตพังทุกอย่าง น้ำท่วมในปีนี้ บ้านที่พักอาศัยอยู่ที่ทรุดโทรมอยู่ แล้วเจอน้ำท่วมหนักเลยเครียดไม่รู้จะทำยังไง เงินทองไม่เคยมีติดตัว เพราะตัวเองเป็นคนพิการ ไม่สามารถทำงานได้อยู่กับลูกสาวสองคนเพียงลำพัง มีเพียงรายได้ในแต่ละเดือนคือเงินคนพิการที่ได้มาเพียงเดือนละ 800 บาท ซึ่งในแต่ละเดือนไม่เคยพอใช้หักจากค่าน้ำค่าไฟ และค่าใช้จ่ายในบ้านแล้ว

วันที่ 27 กันยายน ที่ผ่านตนอยู่กับลูกในบ้านแต่ด้วยความแรงของน้ำไม่สามารถเก็บของในบ้านได้ทันน้ำสูงเพิ่มขึ้นเกือบเมตร ของใช้ในบ้านที่มีอยู่ก็ได้รับความเสียหายเพราะตังเองเดินไม่ได้เหมือนคนปกติ ต้องขอให้ป้าพอตัวเองกับลูกไปอยู่ที่บ้านด้วยเพราะสงสารลูก หลังน้ำลดได้กลับมาที่บ้าน น้ำตาก็ต้องไหลเมื่อเห็นภาพบ้านที่ถูกน้ำท่วมแต่ก็ไม่สามารถเข้ามาอยู่ได้เพราะยังมีน้ำขังอยู่ ซึ่งบ้านหลังนี้เป็นสมบัติชิ้นเดียวที่เหลืออยู่เอาไว้พักอาศัย หลายครั้งเคยคิดน้อยเนื้อต่ำใจจนคิดอยากฆ่าตัวตาย แต่ก็คิดถึงลูกว่าจะอยู่อย่างไรคนเดียว ตอนนี้ไม่รู้จะหาเงินที่ไหนมาซ้อมบ้านเพราะทุกวันนี้มีเงินเดือนเพียง 800 บาทจากเงินผู้พิการ บางวันต้องอด ขนาดมาม่ายังไม่มีกิน มีเพียงแค่ข้าวสารต้มใส่หม้อกินกับน้ำปลา บางครั้งเพื่อนบ้าน และหลวงพ่อที่วัดสงสารก็แบ่งกับข้าวมาให้กิน แม้ตัวเองจะอดแต่อยากให้ลูกได้กินอิ่ม

นางวัชรี เปิดเผยถึงสาเหตุที่ถูกตัดขาว่า เมื่อ 10 กว่าปีที่ผ่านมาตนอยู่กับสามีซึ่งสามีก็ทำงานรับจ้างต่อมามีลูกด้วยกันไม่กี่เดือนสามีได้ทอดทิ้งไปอยู่กับผู้หญิงคนใหม่ทิ้งตนกับลูกสาวไว้ ในช่วงนั้นต้องอุ้มลูกไปทำงานด้วยไม่ว่าจะเป็นงานก่อสร้าง ร้านอาหาร จะรับจ้างทำทุกอย่างที่ทำได้เพราะสงสารลูก ต่อมาพบว่าเป็นโรคเบาหวานช่วงแรกก็ไปหาหมอแต่ตอนหลังต้องทำงาน กลัวว่าลูกจะอด รวมทั้งค่าเดินทางสูงไม่มีเงินเพราะอยากเก็บไว้ให้ลูก จนกระทั่งผ่านไป 5 ปีอาการเริ่มหนักหมอบอกต้องตัดขา เพราะถ้าไม่ตัดมันจะเป็นอันตรายจึงตัดสินใจตัด ทำให้ไม่สามารถออกไปทำงานหาเงินได้ ทุกวันนี้มือและขาแทบไม่มีแรงหยิบจับอะไรก็ไม่ค่อยจะได้ ดวงตาตอนนี้ฝ้ามัวมองไม่ค่อยเห็น ยิ่งเกิดน้ำท่วมยิ่งทำให้เครียดไปอีก

เมื่อทีมข่าวคมชัดลึกถามถึงเงินจากส่วนอื่นของรัฐ นางวัชรี บอกว่ามีเพียง 800 บาทของบัตรคนพิการอย่างเดียวเพราะก่อนหน้านี้เคยไปขอทำบัตรกับผู้นำชุมชนในหมู่บ้านเขาบอกตอนนี้เอกสารหมดไม่มีเดียวจะติดตามให้แต่จนถึงวันนี้ก็ไม่เคยได้ ทุกวันนี้ท้อมากแต่ที่อยู่เพราะสงสารลูกหากเป็นอะไรไปก็ไม่รู้ชะตาชีวิตว่าลูกจะเป็นอย่างไร ขออยู่กับลูกแม้จะมีเวลาที่เหลืออยู่น้อยก็ตาม

ด้านนางสาว ยุพาภรณ์ ลายน้ำเงิน ชาวบ้านในอำเภอบ้านหมี่ บอวว่าหลงทราบข่าวก็รวบเงินจากเพื่อนๆ ข้าวสารซื้ออาหารแห้ง มาให้เพราะเห็นว่าเป็นคนบ้านเดียวกันแม้มันจะไม่มากมายแต่ก็พอที่จะประทังชีวิตอยู่ได้หลายวัน เมื่อเห็นสภาพบ้านแล้วรู้สึกสงสารหดหู่ มากแต่ก็ช่วยอะไรไม่ได้มากนัก กรณีของบัตรสวัสดิการแห่งรัฐที่คนจนจะได้ก็งงอยู่ว่าทำไมสภาพแบบนี้ไม่ได้ทั้งพิการยากจน บ้านก็ทรุดโทรมขนาดนี้ คนอื่นที่มีรายได้ใช้ชีวิตปกติยังมีบัตรสวัสดิการของรัฐ ทำไมแบบนี้ถึงไม่ได้จึงอยากให้ผู้นำชุมชนหรือผู้ที่มีอำนาจเข้ามาให้ความช่วยเหลือ

ขอบคุณ... https://www.komchadluek.net/news/487337

ที่มา: komchadluek.net /มูลนิธิพัฒนาคนพิการไทย 8 ต.ค.64
วันที่โพสต์: 12/10/2564 เวลา 11:23:43 ดูภาพสไลด์โชว์ "หญิงพิการ" สุดช้ำน้ำท่วมปีนี้ทุกข์หนักเกือบคิดสั่น