เพื่อนติดทีมชาติ ตัวเองตัดขา คิดฆ่าตัวตาย สุดท้ายติดธง

เพื่อนติดทีมชาติ ตัวเองตัดขา คิดฆ่าตัวตาย สุดท้ายติดธง

เส้นทางความฝันของทุกคนแตกต่างกัน จะเดินไปถึงฝันดั่งตั้งใจหรือไม่ขึ้นอยู่กับสิ่งที่ต้องเผชิญและหัวใจความเป็นนักสู้ที่จะบุกล่าฝ่าฟัน ก้าวไปถึงฝันแบบไหน? นักกีฬาบางคนเต็มไปด้วยพรสวรรค์แต่ถูกความสำราญด้านมืดดึงไปสู่เส้นทางที่ไม่จรรโลงโยงไปสู่ความสำเร็จได้ พรสวรรค์อย่างเดียวคงไม่เพียงพอความตั้งใจจึงถูกคะยั้นคะยอสานต่อสู่เป้าหมายปลายทาง เพื่อค้นคำตอบจะออกหัวหรือก้อยสุดท้ายอยู่ที่เราลิขิตพิชิตมันด้วยตัวเอง

จรูญ ยอดสุวรรณ อดีตนักเตะเยาวชนระดับจังหวัดพิษณุโลก ที่เคยผ่านสังเวียนฟุตบอลโค้กคัพ รอบคัดเลือกภาคเหนือ ใช้ชีวิตวัยเด็กกับการไล่เรียงความฝันด้านฟุตบอลและเรื่องของการเรียนเพื่อต่อยอดอาชีพในอนาคต วิ่งหวดฝันตะบันเกมลูกหนังด้วยความเบิกบาน หวังว่าสักวันจะมีโอกาสไปเล่นสโมสรฟุตบอลชั้นนำในกรุงเทพ ตามรอยเพื่อนรุ่นพี่ “ไรอันกุ้ง”สุชิน พันธ์ประภาส ดาวดังทีมชาติไทยยุคดรีมทีม ที่เป็นเพื่อนสมัยเรียนรวมไปถึงคู่พาร์ทเนอร์ในสนามแข่งขัน

เพื่อนติดทีมชาติ ตัวเองตัดขา คิดฆ่าตัวตาย สุดท้ายติดธง

หลัง จบ ม.6 สุชิน เริ่มไต่ฝันฟุตบอลด้วยการเป็นเด็กเก็บบอลให้สโมสรตำรวจ และต่อฝันที่ท่าเรือ ก่อนที่จะโยกไปเล่นให้กับราชประชา พร้อมกับทยอยเดินหน้าติดทีมชาติชุดเยาวชนจนถึงชุดดรีมทีม ขณะเดียวกัน จรูญ ยอดสุวรรณ จำเป็นต้องพิงชีวิตตัวเองให้เดินได้ด้วยการหางานประจำทำก่อนเพื่อเดินหน้าต่อฝันด้านฟุตบอลหลังจบ ม.6 ที่ ร.ร.อินทุภูติพิทยา อ.พรหมพิราม จ.พิษณุโลก ความตั้งใจยังคงเป้าหมายเดิม แต่ปัญหาคงเป็นเรื่องของเวลาที่เริ่มฉีกขาดออกฟุตบอลเรื่อยๆเนื่องจากภาวะรับผิดชอบงานมีมากขึ้น

ดาวเตะที่อุดมไปด้วยฝันเหมือนเด็กทั่วๆไปจาก ต่างจังหวัดหวังเปลี่ยนชีวิตด้วยฟุตบอลเพ่งทบทวนชีวิตตัวเองเป็นระยะยามใช้ชีวิตในเมืองกรุง โอกาสของฟุตบอลเริ่มฉีกห่างเข้าไปทุกที ความฝันที่จะเล่นให้กับสโมสรฟุตบอลชื่อดังอย่างทหารบกในยุคนั้นก็เริ่มขาดวิ่นปลิ้นใจออกไป ซ้ำร้ายไปกว่านั้น จรูญ ต้องประสบกับอุบัติเหตุครั้งสำคัญทางรถยนต์ เมื่อวันที่ 6 มี.ค.2536 พร้อมกับเพื่อนอีก 2 คน

เพื่อนติดทีมชาติ ตัวเองตัดขา คิดฆ่าตัวตาย สุดท้ายติดธง

เหตุการณ์นี้ จรูญ ยอดสุวรรณ ยังโชคดีอยู่บ้างที่รอดชีวิตมาได้ ในขณะที่เพื่อนอีก 2 รายเสียชีวิตไปแบบไม่มีวันกลับ ให้หลังอีก 3 วันแม้ว่าข่าวดีก่อนหน้านี้อาจจะทำให้เจ้าตัวใจชื้นแต่สุดท้ายข่าวร้ายที่แทรกเข้ามา คือ แพทย์ต้องตัดขาสองข้างที่ได้รับผลกระทบหนักจากอุบัติเหตุทิ้ง เพื่อไม่ให้เกิดการอันตรายต่ออวัยวะส่วนอื่น เวลานั้น จรูญ ครุ่นคิดในทุกเรื่องตั้งแต่ชีวิตหลังจากนี้การดูแลพ่อแม่ที่ส่งเล่าเรียนหวังพึ่งพาในอนาคต รวมไปถึงฝันของฟุตบอลที่รักคงไม่มีโอกาสได้ก้าวไปสัมผัสมันดั่งใจหวัง

หลังแพทย์ตัดขาสองข้างออก อดีตเยาวชนลูกหนังสองแควรายนี้กลับไปฟื้นฟูดูแลตัวเอง ยามที่ไม่มีพ่อแม่ดูแลออกไปทำงานหรือว่าคอยพูดคุยด้วย บางครั้งคิดฆ่าตัวตายเพราะคิดว่าทุกอย่างมันไม่เหมือนเดิมอาจจะเป็นภาระของคนอื่น แต่ช่วงเวลานั้นยังใช้รถเข็นไม่เก่งจึงไม่สามารถพาร่างกายของตัวเองไปหยิบสิ่งของได้ ให้หลังอีก 2 เดือนจรูญไม่อยากทนอยู่กับการต้องคิดคนเดียวอยู่คนเดียวในบางเวลาจึงขอครอบครัวให้ไปส่งที่ศูนย์ฟื้นฟูอาชีพคนพิการหยาดฝน จ.เชียงใหม่ พอไปถึงที่นั่นกลับได้พบเจอกับคนพิการมากมายที่แสดงให้เห็นถึงความหวังของชีวิตทุกอย่างไม่ใช่ไม่มีหนทางเพียงแต่ใจสู้เรียนรู้สิ่งรอบข้างก็ทำให้หายเครียดรวมไปถึงเริ่มมองเห็นช่องทางทำมาหากินของชีวิตในอนาคตข้างหน้า

เพื่อนติดทีมชาติ ตัวเองตัดขา คิดฆ่าตัวตาย สุดท้ายติดธง

จรูญ มุ่งมั่นกับการเรียนคอมพิวเตอร์ที่อาชีวะมหาไถ่พัทยา จ.ชลบุรี จนถึงขั้นสุดได้ความรู้ถึงขั้นเป็นโปรแกรมเมอร์ได้ พร้อมกลับหวนสู่เส้นทางสายกีฬาอีกครั้งด้วยการเริ่มเล่นวีลแชร์เทนนิสเล่นจนคว้าแชมป์ประเทศไทยในประเภทมือใหม่ การย้ายมาอยู่ที่ ชลบุรี ทำให้วิถีของกีฬาเปลี่ยนเจ้าตัวเลือกหันหน้าเดินบนเส้นทางวีลแชร์บาสเกตบอลจนก้าวขึ้นมาติดทีมชาติไทย ลากยาวตั้งแต่ปี 2538-2549 ช่วงเดียวกับ สุชิน พันธ์ประภาส กำลังโด่งดังบนถนนสายทีมชาติไทย

ฟ้าหลังฝนครั้งนี้สดใสอย่างไม่คาดคิดจากความฝันอยากเป็นนักฟุตบอลระดับสโมสร แต่อุบัติเหตุครั้งนั้นทำลายทุกอย่างลงแบบไม่มีปี่มีขลุ่ย ใจที่เข้มแข็งเติมเต็มจากคนรอบข้างทำให้ชีวิตหลังเสียขา 2 ข้างของ จรูญ ยอดสุวรรณ มีความหวังนอกจากติดทีมชาติไทยวีลแชร์ลงแข่งขันรายการระดับทวีป,ภูมิภาค แล้ว ยังได้มีหน่วยงานต่างๆยื่นงานประจำให้ทำตั้งแต่ยังเรียนไม่จบช่วงฟื้นฟูเพราะความสามารถที่มีติดตัวรวมไปถึงการแสดงออก จรูญ ถูกเลือกให้ไปเป็นครูสอนบัญชีและคอมพิวเตอร์ก่อนที่จะขยับสู่โปรแกรมเมอร์ในที่สุด ช่วงปี 2539 เงินเดือนตอนนั้นอาจจะไม่เยอะ 6.5-7.5 พันบาท แต่มีที่พักอาหารให้ก็ทำให้เก็บเงินส่งให้พ่อแม่ได้เป็นกอบเป็นกำ

เพื่อนติดทีมชาติ ตัวเองตัดขา คิดฆ่าตัวตาย สุดท้ายติดธง

เพื่อนติดทีมชาติ ตัวเองตัดขา คิดฆ่าตัวตาย สุดท้ายติดธง

เพื่อนติดทีมชาติ ตัวเองตัดขา คิดฆ่าตัวตาย สุดท้ายติดธง

ที่สุดแล้ว จรูญ ยอดสุวรรณ บอกว่าทุกอย่างคงเป็นเรื่องของฟ้าที่ลิขิตชีวิตเรามา แต่เหนือคำว่าพรมลิขิตมันอยู่ที่ตัวเราเองด้วยว่าจะสู้แค่ไหนกับปัญหาอุปสรรคที่เจอยิ่งคนที่ไม่ได้พิการมาตั้งแต่กำเนิดด้วยแล้วเป็นเรื่องที่ทำใจยาก ทุกอย่างต้องตั้งสติทบทวนทุกเรื่องเพื่อไปต่อ ทุกวันนี้ก็ทำใจได้กับสิ่งที่เกิดขึ้นแต่ไม่เคยยอมแพ้กับสิ่งที่เกิดขึ้นก่อนหน้านี้โชคดีแค่ไหนแล้วที่วันนั้นฆ่าตัวตายไม่สำเร็จ โลกนี้ยังมีอะไรให้เราได้เรียนรู้อีกมากมายจงภูมิใจที่เราเกิดมาเป็นเราสู้ปัญหาอุปสรรคให้เต็มที่วันหนึ่งมันก็ถึงฝัน เอง เหตุการณ์นี้กีฬาช่วยบำบัดหลายอย่างในชีวิตได้เยอะ

ปัจจุบัน จรูญ ยอดสุวรรณ มีครอบครัวที่น่ารัก ซื้อบ้านใช้ชีวิตอยู่ที่ พัทยา จ.ชลบุรี พร้อมกับทำงานเก็บหอมรอมริบปลูกความมั่นคงให้กับครอบครัวอีกทั้งยังดูแลพ่อแม่ได้เป็นอย่างดี นอกจากนั้น ก็ยังรับหน้าที่เป็นโค้ชวีลแชร์บาสเกตบอลให้กับ จ.ชลบุรี ที่กำลังลงแข่งขันกีฬาคนพิการที่ จ.เชียงราย 18-22 ม.ค.62

ขอบคุณ... http://www.siamsport.co.th/football/thaiotherleague/view/111024

ที่มา: siamsport.co.th/มูลนิธิพัฒนาคนพิการไทย 17 ม.ค.62
วันที่โพสต์: 21/01/2562 เวลา 10:46:35 ดูภาพสไลด์โชว์ เพื่อนติดทีมชาติ ตัวเองตัดขา คิดฆ่าตัวตาย สุดท้ายติดธง