ศาลให้ประกันตัวหนุ่มพิการ คดีข่มขืนสาว 17 ปี
ศรีสะเกษ ศาลให้ประกันตัวหนุ่มพิการข่มขืนสาว 17 ปี พ่อเปิดใจไม่เชื่อว่าลูกชายพิการทำผิด เนื่องจากว่าพิการช่วยเหลือตนเองยังไม่ได้เลยพร้อมสู้เพื่อความยุติธรรมอย่างเต็มที่
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากกรณีที่ พ่อแม่ของ น.ส.เอ เข้าแจ้งความร้องทุกข์กับพนักงานสอบสวน สภ.เมือง ศรีสะเกษ จ.ศรีสะเกษ กล่าวหาว่า นายสุรสิทธิ์ พลศักดิ์ อายุ 40 ปี อยู่บ้านเลขที่ 180 หมู่ 9 ต.ละลาย อ.กันทรารมย์ จ.ศรีสะเกษ ซึ่งสภาพร่างกายป่วยพิการ เป็นโรคโปลิโอ ช่วยเหลือตนเองไม่ได้มาตั้งแต่เกิดและเป็นผู้อ้างตัวว่า เป็นฤาษีตาไฟ ข่มขืนกระทำชำเราถึง 4 ครั้งในรีสอร์ตแห่งหนึ่งริมถนนสายศรีสะเกษ – ขุขันธ์ ในระหว่างวันที่ 26 -27 ส.ค. 61 เนื่องจาก น.ส.เอ เชื่อว่าตนเองมีเคราะห์ จึงให้นายสุรสิทธิ์ ทำการสะเดาะเคราะห์ให้ ล่าสุด นางวนิดา พลศักดิ์ อายุ 62 ปี ซึ่งเป็นแม่พร้อมด้วยญาติพี่น้องได้พากันอุ้มตัว ผู้ต้องหาคดีนี้ ไปมอบตัวกับ ร.ต.อ.สง่า สมสุข และ ร.ต.ท.หญิง ศิริทรา บุญธรรม ทีมพนักงานสอบสวนคดีนี้ เพื่อเข้ามอบตัวสู้คดีที่ถูกกล่าวหา ซึ่งพนักงานสอบสวนได้แจ้งข้อกล่าวหาจำนวน 2 ข้อหาคือ พรากผู้เยาว์เด็กอายุเกิน 15 ปีแต่ไม่เกิน 18 ปี ไปเสียจากบิดามารดา และข่มขืนกระทำชำเราแม้ว่าจะเต็มใจหรือไม่ก็ตาม ซึ่งนายสุรสิทธิ์ ได้ให้การปฏิเสธทุกข้อกล่าวหา ตามข่าวที่ได้นำเสนอไปแล้วนั้น
ความคืบหน้าเกี่ยวกับคดีนี้ เมื่อเวลา 16.45 น. วันที่ 31 ส.ค.61 ร.ต.ท.หญิง ศิริทรา บุญธรรม ร้อยเวรเจ้าของคดีนี้ ได้ทำเรื่องส่งตัวนายสุรสิทธิ์ พลศักดิ์ อายุ 40 ปี หนุ่มพิการผู้ต้องหาคดีนี้ไปฝากขังผลัดที่ 1 ที่ศาลจังหวัดศรีสะเกษ ซึ่งญาติพี่น้องได้อุ้มนายสุรสิทธิ์ ไปขึ้นศาลโดยเจ้าหน้าที่ได้ให้นายสุรสิทธิ์ มาพักรออยู่ที่ห้องควบคุมผู้ต้องหา ด้านหลังศาล จากนั้น ญาติพี่น้องได้ยื่นหลักทรัพย์ เป็นโฉนดที่ดิน เนื้อที่ 12 ไร่ เพื่อประกันตัวนายสุรสิทธิ์ ซึ่งศาลจังหวัดศรีสะเกษ ได้อนุญาตให้ประกันตัวนายสุรสิทธิ์ ได้ สร้างความดีใจให้กับนายสุรสิทธิ์ พ่อแม่และญาติพี่น้องทุกคนเป็นอย่างมาก จากนั้น ญาติได้อุ้มนายสุรสิทธิ์ ขึ้นหลังพาเดินออกมาจากศาลเพื่อเดินทางกลับไปบ้านที่บ้านละทาย ต.ละทาย อ.กันทรารมย์ จ.ศรีสะเกษ
นายสุรสิทธิ์ พลศักดิ์ อายุ 40 ปี หนุ่มพิการที่ถูกกล่าวหาว่า ข่มขืนเด็กสาวอายุ 17 ปี กล่าว ด้วยเสียงกระท่อนกระแท่นว่า ตนรู้สึกดีใจมากที่ศาลอนุญาตให้ประกัน เพราะว่า หากตนเองเข้าไปอยู่ในเรือนจำคงจะลำบากมาก เพราะว่าช่วยเหลือตนเองไม่ได้ จะต้องเป็นภาระให้กับคนอื่นที่ไม่ใช่ญาติพี่น้องมาดูแล ซึ่งจนกระทั่งบัดนี้ ตนขอยืนยันว่า ตนไม่ได้กระทำผิดตามที่ถูกกล่าวหา เพราะว่า ตนช่วยเหลือตนเองยังไม่ได้เลยแล้วจะไปข่มขืนเด็กสาวอายุ 17 ปี ได้อย่างไร ตนไม่ทราบว่า เพราะเหตุใดจึงมีการแจ้งความกล่าวหาตนแบบนี้ ตนเพียงทำพิธีสะเดาะเคราะห์ให้เท่านั้น ไม่ได้ข่มขืน น.ส.เอ แต่อย่างใด
นายเหรียญ พลศักดิ์ อายุ 70 ปี อยู่บ้านเลขที่ 180 หมู่ 9 ต.ละลาย อ.กันทรารมย์ จ.ศรีสะเกษ ซึ่งเป็นพ่อของนายสุรสิทธิ์ ร่างทรงฤาษีตาไฟ ผู้ต้องหาคดีนี้ กล่าวว่า นายสุรสิทธิ์ พิการมาแต่กำเนิด ตนและภรรยาต้องคอยช่วยดูแล อาบน้ำ เปลี่ยนเสื้อผ้า ป้อนข้าวป้อนน้ำมาตลอดระยะเวลา 40 ปี ที่นายสุรสิทธิ์ เกิดมา ช่วงอยู่ที่บ้านตนจะให้นายสุรสิทธิ์ นอนเล่นอยู่กับพื้นบ้าน เพราะหากว่านำเอาไปไว้ที่นอนหรือว่าบนแคร่ นายสุรสิทธิ์จะพลัดตกลงมาได้รับอันตรายได้ หากว่าจะให้นั่งจะต้องมีคนคอยช่วยประคองตัวเอาไว้เพื่อไม่ให้ล้มหัวฟาดพื้น หากจะให้กินข้าวเอง นายสุรสิทธิ์ จะกินข้าวไม่ได้ จะเหมือนไก่กินข้าวเพราะว่า นิ้วมือของนายสุรสิทธิ์ จะหงิกงอ จะไม่สามารถจับช้อนกินข้าวหรือเอามือกินข้าวได้เลย ส่วนเวลาทำพิธีช่วยเหลือคนป่วยนั้น นายสุรสิทธิ์ จะมีพิธีการของเขาเอง ซึ่งตนไม่ทราบว่า เขาได้เรียนรู้มาจากที่ใด แต่คนที่มารักษาโรคต่าง ๆ จะหายขาดจากโรคภัยไข้เจ็บจำนวนมาก ทำให้มีคนมาขอให้ช่วยรักษาอาการป่วยอย่างต่อเนื่อง ซึ่งนายสุรสิทธิ์ จะไม่เรียกร้องเงินทอง เพียงแค่มีขัน 5 และค่าครู 6 บาท 12 บาท มานิมนต์ขอให้รักษาโรคให้เท่านั้น แต่ว่าพอรักษาโรคหายแล้ว ชาวบ้านเขาก็จะมีน้ำใจนำเอาเงินมาให้บ้างเล็ก ๆ น้อย ตามประสาชาวบ้านทั่วไป ซึ่งจนกระทั่งบัดนี้ ตนก็ยังไม่เชื่อว่า นายสุรสิทธิ์ ลูกชายพิการของตนที่มีบัตรคนพิการช่วยเหลือตนเองไม่ได้จะไปข่มขืนเด็กสาว อายุ 17 ปีได้อย่างไร ตนจะต่อสู้คดีจนถึงที่สุดเพื่อพิสูจน์ความบริสุทธิ์ของลูกชายพิการคนนี้ ซึ่งเป็นลูกชายคนเล็ก จากลูกทั้งหมด 3 คนของตน
ที่มา: banmuang.co.th /มูลนิธิพัฒนาคนพิการไทย 31 ส.ค.61
วันที่โพสต์: 4/09/2561 เวลา 09:10:39 
