วุ่น! คนตาบอดพิจิตรขอฝ่ายปกครองตรวจสอบเงินสมาคมฯ ก่อนเลือกนายกสมาคมฯ คนใหม่พรุ่งนี้

สมาชิกสมาคมคนตาบอดจังหวัดพิจิตรทำหนังสือร้องฝ่ายปกครองขอให้เข้าตรวจสอบงบการเงินของสมาคมฯ

พิจิตร - สมาชิกสมาคมคนตาบอดจังหวัดพิจิตรทำหนังสือร้องฝ่ายปกครองขอให้เข้าตรวจสอบงบการเงินของสมาคมฯ ที่เข้าออกเป็นล้าน เกรงไม่โปร่งใส ขอฝ่ายปกครองเข้าเคลียร์ก่อนมีการเลือกตั้งนายกสมาคมฯคนใหม่

ผู้สื่อข่าวรายงานจากจังหวัดพิจิตรว่า ขณะนี้มีสมาชิกของสมาคมคนตาบอดจังหวัดพิจิตร โดย นางผิวพรรณ กลักเพชร อายุ 53 ปี (เป็นคนตาบอด) นายสมพงษ์ ทองอร่าม อายุ 56 ปี (คนตาบอด) มีอาชีพนวดแผนไทย, นายฉ้อน วีระพันธ์ อายุ 56 ปี (คนตาบอด) อาชีพนวดแผนไทย, นายสมศักดิ์ อังกุลคุปต์ อายุ 36 ปี (คนตาบอด) จบการศึกษาปริญญาตรีสาขาวิทยาศาสตร์คอมพิวเตอร์ ทำธุรกิจส่วนตัว ซึ่งได้ร่วมกันร้องทุกข์ ร้องเรียน พร้อมกับแสดงหลักฐานเป็นหนังสือร้องเรียนที่ส่งถึงฝ่ายปกครองจังหวัดพิจิตร ว่า ขอให้ตรวจสอบรายรับ-รายจ่าย ของสมาคมคนตาบอดจังหวัดพิจิตร โดยชี้เหตุผลว่าเกิดความไม่โปร่งใสในการใช้เงินที่เป็นงบประมาณสนับสนุนมาจากทางราชการที่รวมแล้วเป็นเงินนับล้านบาท โดยที่ผ่านมาสมาชิกไม่เคยได้รับรู้เรื่องรายรับ-รายจ่าย รวมถึงสิทธิที่ควรจะได้รับ จึงอยากให้มีการตรวจสอบ อีกทั้งในวันที่ 9 ส.ค. 2560 ก็จะมีการจัดให้การเลือกตั้งนายกสมาคมคนตาบอดพิจิตร แต่ดูเหมือนพฤติกรรมจะไม่โปร่งใสจึงเรียกร้องให้ฝ่ายปกครองรวมถึงฝ่ายทหารด้านความมั่นคงขอให้มาช่วยทำเรื่องจริงให้กระจ่าง

ซึ่งก่อนที่จะมีการลงคะแนน อยากให้มีการประชุมชี้แจงให้โปร่งใสเสียก่อน เพื่อที่สมาชิกที่เป็นคนตาบอดจะได้รู้ข้อเท็จจริง เพราะที่ผ่านมาเมื่อมีเรื่องเงินเข้ามาเกี่ยวข้องทำให้ทั้งคนตาดีและคนตาบอดต้องตกเป็นผู้ถูกกล่าวหา จึงอยากให้ทางราชการรวมถึงฝ่ายทหารให้ช่วยทำเรื่องจริงให้คนตาบอดได้รู้แจ้งเห็นจริงถึงความโปร่งใสด้วยเพราะที่ผ่านมาหลายปีทุกอย่างดูมืดมิดไปหมด

สมาชิกสมาคมคนตาบอดจังหวัดพิจิตรฝึกอบรมเรียนรู้ให้กับสมาชิกที่เป็นคนตาบอดได้เรียนในวิชานวดแผนไทย

ด้าน น.ส.การะเกตุ พันธ์มี (คนตาบอด) รักษาการนายกสมาคมคนตาบอดจังหวัดพิจิตร ได้ชี้แจงว่า สมาคมคนตาบอดจังหวัดพิจิตรมีรายรับที่เป็นเงินอุดหนุนจากส่วนราชการและสมาคมคนตาบอดแห่งประเทศไทย ซึ่งที่ผ่านมาเมื่อวันที่ 26-27 ก.ค. 2560 ก็ได้นำเอาบัญชีไปชี้แจงและให้ปลัดอำเภอโพธิ์ประทับช้างตรวจสอบในทุกโครงการอย่างโปร่งใส ซึ่งก็มี 7 โครงการที่มีเงินให้มากบ้างน้อยบ้าง แต่โครงการต้นกล้าอาชีพมี 4 โครงการ โครงการละ 300,000 บาท ให้ดำเนินการอบรมเรียนรู้ให้กับสมาชิกที่เป็นคนตาบอดได้เรียนในวิชานวดแผนไทย วิชาการใช้ไม้เท้า วิชาการใช้อักษรเบรลล์ ซึ่งต้องใช้เวลาเรียน 90 วัน ใช้เงินเป็นค่าวิทยากร ค่าน้ำ ค่าไฟ ค่าอาหารทุกอย่างตรวจสอบได้ตามระเบียบของราชการ

น.ส.การะเกตุ (คนตาบอด) รักษาการนายกสมาคมคนตาบอดจังหวัดพิจิตร ยอมรับว่า เป็นเรื่องจริงที่มีเงินผ่านมือนับล้านบาท แต่เงินที่ได้มาต้องใช้ทำโครงการไม่ใช่เงินได้เพื่อเก็บสะสมจึงต้องหมดไปตามปีงบประมาณ ส่วนวันที่ 9 ส.ค. 2560 จะมีการลงคะแนนเลือกนายกสมาคมคนตาบอดจังหวัดพิจิตรนั้นก็ได้ดำเนินการอย่างโปร่งใส จะมีตัวแทนจาก สมาคมคนตาบอดแห่งประเทศไทย, สนง.คณะกรรมการการเลือกตั้ง จ.พิจิตร, ฝ่ายปกครอง และจาก สนง.พัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ ฯลฯ ที่จะมาร่วมสังเกตการณ์และจัดการเลือกตั้งนายกสมาคมคนตาบอดจังหวัดพิจิตรในครั้งนี้ ซึ่งก็มีผู้ลงสมัครแข่งขันที่เป็นคนตาบอด 4 คนด้วยกัน ส่วนสมาชิกผู้มีสิทธิลงคะแนนมีทั้งสิ้น 141 คน

ขอบคุณ... http://www.manager.co.th/Local/ViewNews.aspx?NewsID=9600000080566 (ขนาดไฟล์: 166)

ที่มา: manager.co.thออนไลน์/มูลนิธิพัฒนาคนพิการไทย 8 ส.ค.60
วันที่โพสต์: 9/08/2560 เวลา 10:07:46 ดูภาพสไลด์โชว์ วุ่น! คนตาบอดพิจิตรขอฝ่ายปกครองตรวจสอบเงินสมาคมฯ ก่อนเลือกนายกสมาคมฯ คนใหม่พรุ่งนี้