เพื่อนปิดประตูโดนนิ้วลูกขาดแม่แจ้งตร.ไม่พอใจร.ร.ใช้จยย.พาส่งรพ.

แสดงความคิดเห็น

ด.ช.โบ๊ท (นามสมมติ) อายุ 8 ปี ถูกประตูปิดโดนนิ้วขาด

เด็ก 8 ขวบ ถูกเพื่อนปิดประตูโดนนิ้วขาด แม่แจ้งความ ไม่พอใจ ร.ร. ให้ภารโรงขี่ จยย. มาส่งลูกที่โรงพยาบาล บอกหวั่นเกิดอุบัติเหตุซ้ำ อีกทั้งขณะเกิดเหตุ ไม่มีการเก็บชิ้นเนื้อมาให้แพทย์ต่อได้ทัน ...เมื่อเวลา 21.30 น. ของวันที่ 20 มิ.ย. ร.ต.อ.เลิศศักดิ์ วังคีรี รองสารวัตร (สอบสวน) สภ.เมืองระยอง ได้รับแจ้งจาก น.ส.ศิริมาส เพ็งระกา อายุ 35 ปี พักอยู่ อ.เมือง จ.ระยอง เป็นครูอยู่โรงเรียนอนุบาลแห่งหนึ่ง และนายจตุพร ผาสุข อายุ 37 ปี สามี เข้าแจ้งความว่า เมื่อเวลา 14.00 น. วันเดียวกัน ตนได้รับแจ้งจากทางโรงเรียนแห่งหนึ่งในพื้นที่ อ.เมือง จ.ระยอง ว่า ด.ช.โบ๊ท (นามสมมติ) อายุ 8 ปี บุตรชายเรียนอยู่ชั้น ป.3 เกิดอุบัติเหตุระหว่างเข้าห้องน้ำของโรงเรียน ถูกเพื่อนร่วมชั้นเรียนปิดประตูห้องน้ำหนีบนิ้วนางด้านซ้าย จนขาดกระเด็น แล้วนำตัวส่ง รพ.จุฬารัตน์รวมแพทย์

น.ส.ศิริมาส กล่าวต่อว่า ที่ตนมาแจ้งความ เพราะติดใจว่า ทำไมขณะเกิดเหตุไม่มีรถยนต์ หรือรถพยาบาลมาส่งบุตรชายเลย ทางโรงเรียนกลับให้ภารโรงของโรงเรียนขี่รถจักรยานยนต์มาส่งเอง ถ้าเกิดอุบัติเหตุซ้ำสองจะทำอย่างไร และขณะที่นำตัวบุตรชายส่งโรงพยาบาล ทำไมไม่นำชิ้นเนื้อที่ขาด มาให้ทางแพทย์ต่อด้วย ซึ่งตนรู้สึกสงสารลูก และอยากให้ทางโรงเรียนรับผิดชอบบ้าง ซึ่งต่อมา ครูได้นำชิ้นเนื้อส่วนที่ตกอยู่บริเวณห้องน้ำมาให้แพทย์ต่อแต่ไม่สามารถต่อได้เนื่องจากเซลล์เนื้อตายไปแล้ว

ต่อมาเวลา 08.00 น. วันที่ 21 มิ.ย. ครูประจำชั้น พร้อมรอง ผอ.โรงเรียน ได้มาเยี่ยมบุตรชาย และว่าทางโรงเรียนจะ ช่วยเหลือเด็ก 10,000 บาท ซึ่งค่ารักษาทั้งหมดอยู่ที่ 40,000 บาท ที่เหลือต้องใช้ประกันของแม่ เข้ามาเป็นค่าใช้จ่ายทั้งหมด โดยทางแพทย์บอกว่า แนวทางการรักษานั้น ต้องตัดเนื้อที่ใต้ท้องนิ้ว เอามาแปะส่วนของนิ้วที่ขาดหายไป วันนี้ให้กลับบ้านได้ และต้องมาล้างแผลทุกๆ วัน และอีก 1 สัปดาห์ ต้องมีการเอกซเรย์อีกครั้งหนึ่งในส่วนค่าใช้จ่ายที่ต้องล้างแผลทุกๆวันจะใช้เงินประกันของโรงเรียน

โดย น.ส.ศิริมาส กล่าวทั้งน้ำตาว่าอยากให้เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นนี้ เป็นอุทาหรณ์กับทุกๆ คน ว่าถ้าเกิดเหตุแบบนี้ ไม่ควรที่จะให้เด็กนั่งซ้อนท้ายรถจักรยานยนต์มาส่งที่โรงพยาบาลเอง และในส่วนของทางโรงเรียนนั้น แม่จะไม่เข้าไปพูดคุยซึ่งทางโรงเรียนจะต้องมาคุยกับครอบครัวเอง.

ขอบคุณ... https://www.thairath.co.th/content/979502

ที่มา: ไทยรัฐออนไลน์/มูลนิธิพัฒนาคนพิการไทย 21 มิ.ย.60
วันที่โพสต์: 23/06/2560 เวลา 10:53:13 ดูภาพสไลด์โชว์ เพื่อนปิดประตูโดนนิ้วลูกขาดแม่แจ้งตร.ไม่พอใจร.ร.ใช้จยย.พาส่งรพ.

แสดงความคิดเห็น

รอตรวจสอบ
จัดฟอร์แม็ต ดูการแสดงผล

รอตรวจสอบ

รอตรวจสอบ

รอตรวจสอบ

ยกเลิก

รายละเอียดกระทู้

ด.ช.โบ๊ท (นามสมมติ) อายุ 8 ปี ถูกประตูปิดโดนนิ้วขาด เด็ก 8 ขวบ ถูกเพื่อนปิดประตูโดนนิ้วขาด แม่แจ้งความ ไม่พอใจ ร.ร. ให้ภารโรงขี่ จยย. มาส่งลูกที่โรงพยาบาล บอกหวั่นเกิดอุบัติเหตุซ้ำ อีกทั้งขณะเกิดเหตุ ไม่มีการเก็บชิ้นเนื้อมาให้แพทย์ต่อได้ทัน ...เมื่อเวลา 21.30 น. ของวันที่ 20 มิ.ย. ร.ต.อ.เลิศศักดิ์ วังคีรี รองสารวัตร (สอบสวน) สภ.เมืองระยอง ได้รับแจ้งจาก น.ส.ศิริมาส เพ็งระกา อายุ 35 ปี พักอยู่ อ.เมือง จ.ระยอง เป็นครูอยู่โรงเรียนอนุบาลแห่งหนึ่ง และนายจตุพร ผาสุข อายุ 37 ปี สามี เข้าแจ้งความว่า เมื่อเวลา 14.00 น. วันเดียวกัน ตนได้รับแจ้งจากทางโรงเรียนแห่งหนึ่งในพื้นที่ อ.เมือง จ.ระยอง ว่า ด.ช.โบ๊ท (นามสมมติ) อายุ 8 ปี บุตรชายเรียนอยู่ชั้น ป.3 เกิดอุบัติเหตุระหว่างเข้าห้องน้ำของโรงเรียน ถูกเพื่อนร่วมชั้นเรียนปิดประตูห้องน้ำหนีบนิ้วนางด้านซ้าย จนขาดกระเด็น แล้วนำตัวส่ง รพ.จุฬารัตน์รวมแพทย์ น.ส.ศิริมาส กล่าวต่อว่า ที่ตนมาแจ้งความ เพราะติดใจว่า ทำไมขณะเกิดเหตุไม่มีรถยนต์ หรือรถพยาบาลมาส่งบุตรชายเลย ทางโรงเรียนกลับให้ภารโรงของโรงเรียนขี่รถจักรยานยนต์มาส่งเอง ถ้าเกิดอุบัติเหตุซ้ำสองจะทำอย่างไร และขณะที่นำตัวบุตรชายส่งโรงพยาบาล ทำไมไม่นำชิ้นเนื้อที่ขาด มาให้ทางแพทย์ต่อด้วย ซึ่งตนรู้สึกสงสารลูก และอยากให้ทางโรงเรียนรับผิดชอบบ้าง ซึ่งต่อมา ครูได้นำชิ้นเนื้อส่วนที่ตกอยู่บริเวณห้องน้ำมาให้แพทย์ต่อแต่ไม่สามารถต่อได้เนื่องจากเซลล์เนื้อตายไปแล้ว ต่อมาเวลา 08.00 น. วันที่ 21 มิ.ย. ครูประจำชั้น พร้อมรอง ผอ.โรงเรียน ได้มาเยี่ยมบุตรชาย และว่าทางโรงเรียนจะ ช่วยเหลือเด็ก 10,000 บาท ซึ่งค่ารักษาทั้งหมดอยู่ที่ 40,000 บาท ที่เหลือต้องใช้ประกันของแม่ เข้ามาเป็นค่าใช้จ่ายทั้งหมด โดยทางแพทย์บอกว่า แนวทางการรักษานั้น ต้องตัดเนื้อที่ใต้ท้องนิ้ว เอามาแปะส่วนของนิ้วที่ขาดหายไป วันนี้ให้กลับบ้านได้ และต้องมาล้างแผลทุกๆ วัน และอีก 1 สัปดาห์ ต้องมีการเอกซเรย์อีกครั้งหนึ่งในส่วนค่าใช้จ่ายที่ต้องล้างแผลทุกๆวันจะใช้เงินประกันของโรงเรียน โดย น.ส.ศิริมาส กล่าวทั้งน้ำตาว่าอยากให้เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นนี้ เป็นอุทาหรณ์กับทุกๆ คน ว่าถ้าเกิดเหตุแบบนี้ ไม่ควรที่จะให้เด็กนั่งซ้อนท้ายรถจักรยานยนต์มาส่งที่โรงพยาบาลเอง และในส่วนของทางโรงเรียนนั้น แม่จะไม่เข้าไปพูดคุยซึ่งทางโรงเรียนจะต้องมาคุยกับครอบครัวเอง. ขอบคุณ... https://www.thairath.co.th/content/979502

จัดฟอร์แม็ตข้อความและมัลติมีเดีย

  1. เพิ่ม
  2. เพิ่ม ลบ
  3. เพิ่ม ลบ
  4. เพิ่ม ลบ
  5. เพิ่ม ลบ
  6. เพิ่ม ลบ
  7. เพิ่ม ลบ
  8. เพิ่ม ลบ
  9. เพิ่ม ลบ
  10. ลบ
เลือกการตกแต่งที่ต้องการ

ตกลง ยกเลิก

รายละเอียดการใส่ ลิงค์ รูปภาพ วิดีโอ เพลง (Soundcloud)

Waiting...