วอนช่วยหนุ่มพิการสู้ชีวิต พร้อมเตือนสติ เมาอย่าขับช่วงสงกรานต์

แสดงความคิดเห็น

เหล่ากาชาด จ.สกลนคร เข้าช่วยเหลือนายสุรเดช ไชยวังราช อายุ 31 ปี

วอนช่วยหนุ่มพิการสู้ชีวิต ร่างกายพิการมา 11 ปี เหตุเพราะเมาแล้วขับ หนำซ้ำ หลังจากนั้น ต้องมาสูญเสียพ่อและแม่ ต้องไปอาศัยยู่กับน้าและมรดกสุดท้าย ที่ดิน 1 ผืน บ้าน 1 หลัง พร้อมฝากสื่อเตือนเมาแล้วอย่าขับช่วงสงกรานต์...

วันที่ 13 มี.ค.57 ผู้สื่อข่าว จ.สกลนคร เดินทางไปที่ บ้านเลขที่ 203 ม.ที่ 8 ต.เหล่าปอแดง อ.เมือง จ.สกลนคร สภาพบ้านไม้ 2 ชั้น ยกสูง แต่เดิมเคยเป็นที่พักอาศัยของ 4 ชีวิต ของครอบครัว ไชยวังราช ปัจจุบันคงเหลือแต่ นายสุรเดช ไชยวังราช อายุ 31 ปี เป็นผู้อาศัยอยู่คนเดียว แต่ก็ต้องพิการไปไหนมาไหนลำบาก ต้องอาศัยผู้เป็นน้าสาวซึ่งบ้านติดกันมาคอยดูแล ขณะที่น้องสาวมีครอบครัวแล้ว ก็มาหาดูแลพี่ชายอยู่เป็นครั้งคราว

ทั้ง นี้ สนง.กาชาด จ.สกลนคร โดย นางอรองค์ เตชะมณีสถิตย์ นายกเหล่ากาชาด จ.สกลนคร พร้อมด้วย นายสัมฤทธิ์ พุฒศรี นายอำเภอเมือง จ.สกลนคร ก็เดินทางออกมาเยี่ยมด้วย โดยได้นำรถเข็น พร้อมด้วย เครื่องอุปโภค บริโภค และเงินจำนวนหนึ่งมาช่วยเหลือ เพราะเห็นว่า นายสุรเดช ซึ่งมีสภาพร่างกายพิการต้องได้รับการช่วยเหลือในด้านรถเข็นเพราะพิการตั้งแต่ขาลงไป

โดยหนุ่มพิการรายนี้ แม้จะสนทนาไม่ค่อยชัด ได้เปิดเผยถึงเหตุการณ์ที่ทำให้ตนเองต้องมาตกอยู่ในสภาพเช่นนี้ว่า เมื่อ 11 ปีที่ผ่านมาว่า ตนได้ไปสมัครรับราชการทหาร ที่ จังหวัดทหารบกสกลนคร แต่เมื่อปลดประจำการก็มีการเลี้ยงฉลองกันในตัวเมือง เมื่อเลี้ยงสังสรรค์ได้ที่ ก็เดินทางกลับจากตัวเมืองซึ่งห่างจากบ้านพักกว่า 15 กิโลเมตร แต่ระหว่างทางที่ขับขี่รถ จยย.กลับบ้าน ด้วยความเมาอยากจะกลับไปหาเพื่อนอีก เลยตัดสินใจเลี้ยวรถในทันทีโดยไม่ทันสังเกต ทำให้รถกระบะที่วิ่งตามมาด้านหลังชนเข้าอย่างจัง จนบาดเจ็บสาหัสถูกนำตัว ที่ รพ.รักษ์สกล ก่อนส่งรักษาตัว ที่ จ.ขอนแก่น เพราะได้รับการกระทบกระเทือนที่สมองอย่างแรง ทำให้ต้องพิการช่วงล่างลงไป ระหว่างนั้น มีพ่อแม่ คอยดูแลรักษาที่โรงพยาบาลกว่า 3 เดือนก่อนจะนำตัวกลับมาพักรักษาที่บ้าน

“จากนั้น ชีวิตวัยหนุ่ม ที่ควรจะได้รับก็มีอันมลายไป จากหน้ามือก็เป็นหลังมือในทันที ต้องมีสภาพร่างกายพิการ อยากไปไหนมาไหนก็ไม่ได้ แม้แต่จะทำงานบ้าน ดูแลไร่นาของพ่อแม่ก็ไม่มีโอกาส ตอนนั้นยอมรับว่าท้อแท้กลายเป็นภาระลำบากให้คนอื่น แต่พ่อแม่ก็ไม่เคยทอดทิ้ง ท่านยังรักเอาใจใส่ จนทำให้ตน กลับมีกำลังใจขึ้นมาใหม่ ด้วยการฝืนใจสู้กับชะตาตนเอง ด้วยการพยายามทำกายภาพบำบัด หวังว่าสักวันจะกลับมาเดินได้ปกติ แม้จะไม้เต็มร้อยเหมือนคนปกติทั่วไปก็ตาม แต่ไม่นาน 3-4 ปีต่อมา ผู้เป็นพ่อและแม่ ต้องทยอยเสียชีวิต จากนั้นมา ตนต้องอยู่คนเดียวกับมรดกสุดท้ายที่ดิน 1 ผืน บ้าน 1 หลัง และเบี้ยพิการอันน้อยนิดประทังชีวิตและมีน้าในวัยบั้นปลายคอยมาดูแล”

นาย สุรเดช กล่าวต่อว่า ทุกครั้งที่เห็นข่าวการเกิดอุบัติเหตุเมาแล้วขับในจอทีวี ก็มักจะพูดเสมอว่า อยากให้ทุกคนที่ดื่มแล้วไม่ขับโดยเด็ดขาด ไม่ว่าตนเองจะบอกว่าขับไหวแค่ไหนก็ตาม เพราะการดื่มแล้วขับเพียงเสี้ยววินาที เท่านั้น ก็สามารถเปลี่ยนชีวิตตนเอง และมีผลกระทบไปยังบุคคลอื่นที่อาจจะโชคร้ายบาดเจ็บล้มตาย ร่างกายพิการ เพราะเพียงว่าเราเมาแล้วขับ และขอพื้นที่สื่อฝาก ถึงทุกๆ คนที่คิดว่า “ถ้าเมาแล้วขับให้คิดใหม่ถ้าไม่อยากเป็นเหมือนสภาพของตน”เพราะใกล้เทศกาลสงกรานต์แล้ว

อย่างไรก็ตาม นางอรองค์ เตชะมณีสถิตย์ นายกเหล่ากาชาด จ.สกลนคร ฝากขอความเมตตาผู้ใจบุญเรื่องเสื้อผ้า โดยเฉพาะกางเกง ที่ต้องใช้มาก เพราะขาดบ่อยจากการใช้สะโพกขยับเขยื้อนไปมา รวมถึงใครอยากจะให้กำลังใจหรือช่วยเหลือเป็นทรัพย์ในเรื่องค่าใช้จ่ายเข้ามา ก็ช่วยเหลือได้ เพราะไม่มีรายได้ใดนอกจากเบี้ยยังชีพ สามารถติดต่อ เข้ามาได้ที่คุณประพร หาญมนตรี 085-466-0765 ซึ่งเป็นน้าสาว

โดย: ทีมข่าวภูมิภาค

ขอบคุณ... http://m.thairath.co.th/content/region/409631

ไทยรัฐออนไลน์/มูลนิธิพัฒนาคนพิการไทย 13 มี.ค.57

ที่มา: ไทยรัฐออนไลน์/มูลนิธิพัฒนาคนพิการไทย 13 มี.ค.57
วันที่โพสต์: 14/03/2557 เวลา 02:40:03 ดูภาพสไลด์โชว์ วอนช่วยหนุ่มพิการสู้ชีวิต พร้อมเตือนสติ เมาอย่าขับช่วงสงกรานต์

แสดงความคิดเห็น

รอตรวจสอบ
จัดฟอร์แม็ต ดูการแสดงผล

รอตรวจสอบ

รอตรวจสอบ

รอตรวจสอบ

ยกเลิก

รายละเอียดกระทู้

เหล่ากาชาด จ.สกลนคร เข้าช่วยเหลือนายสุรเดช ไชยวังราช อายุ 31 ปี วอนช่วยหนุ่มพิการสู้ชีวิต ร่างกายพิการมา 11 ปี เหตุเพราะเมาแล้วขับ หนำซ้ำ หลังจากนั้น ต้องมาสูญเสียพ่อและแม่ ต้องไปอาศัยยู่กับน้าและมรดกสุดท้าย ที่ดิน 1 ผืน บ้าน 1 หลัง พร้อมฝากสื่อเตือนเมาแล้วอย่าขับช่วงสงกรานต์... วันที่ 13 มี.ค.57 ผู้สื่อข่าว จ.สกลนคร เดินทางไปที่ บ้านเลขที่ 203 ม.ที่ 8 ต.เหล่าปอแดง อ.เมือง จ.สกลนคร สภาพบ้านไม้ 2 ชั้น ยกสูง แต่เดิมเคยเป็นที่พักอาศัยของ 4 ชีวิต ของครอบครัว ไชยวังราช ปัจจุบันคงเหลือแต่ นายสุรเดช ไชยวังราช อายุ 31 ปี เป็นผู้อาศัยอยู่คนเดียว แต่ก็ต้องพิการไปไหนมาไหนลำบาก ต้องอาศัยผู้เป็นน้าสาวซึ่งบ้านติดกันมาคอยดูแล ขณะที่น้องสาวมีครอบครัวแล้ว ก็มาหาดูแลพี่ชายอยู่เป็นครั้งคราว ทั้ง นี้ สนง.กาชาด จ.สกลนคร โดย นางอรองค์ เตชะมณีสถิตย์ นายกเหล่ากาชาด จ.สกลนคร พร้อมด้วย นายสัมฤทธิ์ พุฒศรี นายอำเภอเมือง จ.สกลนคร ก็เดินทางออกมาเยี่ยมด้วย โดยได้นำรถเข็น พร้อมด้วย เครื่องอุปโภค บริโภค และเงินจำนวนหนึ่งมาช่วยเหลือ เพราะเห็นว่า นายสุรเดช ซึ่งมีสภาพร่างกายพิการต้องได้รับการช่วยเหลือในด้านรถเข็นเพราะพิการตั้งแต่ขาลงไป โดยหนุ่มพิการรายนี้ แม้จะสนทนาไม่ค่อยชัด ได้เปิดเผยถึงเหตุการณ์ที่ทำให้ตนเองต้องมาตกอยู่ในสภาพเช่นนี้ว่า เมื่อ 11 ปีที่ผ่านมาว่า ตนได้ไปสมัครรับราชการทหาร ที่ จังหวัดทหารบกสกลนคร แต่เมื่อปลดประจำการก็มีการเลี้ยงฉลองกันในตัวเมือง เมื่อเลี้ยงสังสรรค์ได้ที่ ก็เดินทางกลับจากตัวเมืองซึ่งห่างจากบ้านพักกว่า 15 กิโลเมตร แต่ระหว่างทางที่ขับขี่รถ จยย.กลับบ้าน ด้วยความเมาอยากจะกลับไปหาเพื่อนอีก เลยตัดสินใจเลี้ยวรถในทันทีโดยไม่ทันสังเกต ทำให้รถกระบะที่วิ่งตามมาด้านหลังชนเข้าอย่างจัง จนบาดเจ็บสาหัสถูกนำตัว ที่ รพ.รักษ์สกล ก่อนส่งรักษาตัว ที่ จ.ขอนแก่น เพราะได้รับการกระทบกระเทือนที่สมองอย่างแรง ทำให้ต้องพิการช่วงล่างลงไป ระหว่างนั้น มีพ่อแม่ คอยดูแลรักษาที่โรงพยาบาลกว่า 3 เดือนก่อนจะนำตัวกลับมาพักรักษาที่บ้าน “จากนั้น ชีวิตวัยหนุ่ม ที่ควรจะได้รับก็มีอันมลายไป จากหน้ามือก็เป็นหลังมือในทันที ต้องมีสภาพร่างกายพิการ อยากไปไหนมาไหนก็ไม่ได้ แม้แต่จะทำงานบ้าน ดูแลไร่นาของพ่อแม่ก็ไม่มีโอกาส ตอนนั้นยอมรับว่าท้อแท้กลายเป็นภาระลำบากให้คนอื่น แต่พ่อแม่ก็ไม่เคยทอดทิ้ง ท่านยังรักเอาใจใส่ จนทำให้ตน กลับมีกำลังใจขึ้นมาใหม่ ด้วยการฝืนใจสู้กับชะตาตนเอง ด้วยการพยายามทำกายภาพบำบัด หวังว่าสักวันจะกลับมาเดินได้ปกติ แม้จะไม้เต็มร้อยเหมือนคนปกติทั่วไปก็ตาม แต่ไม่นาน 3-4 ปีต่อมา ผู้เป็นพ่อและแม่ ต้องทยอยเสียชีวิต จากนั้นมา ตนต้องอยู่คนเดียวกับมรดกสุดท้ายที่ดิน 1 ผืน บ้าน 1 หลัง และเบี้ยพิการอันน้อยนิดประทังชีวิตและมีน้าในวัยบั้นปลายคอยมาดูแล” นาย สุรเดช กล่าวต่อว่า ทุกครั้งที่เห็นข่าวการเกิดอุบัติเหตุเมาแล้วขับในจอทีวี ก็มักจะพูดเสมอว่า อยากให้ทุกคนที่ดื่มแล้วไม่ขับโดยเด็ดขาด ไม่ว่าตนเองจะบอกว่าขับไหวแค่ไหนก็ตาม เพราะการดื่มแล้วขับเพียงเสี้ยววินาที เท่านั้น ก็สามารถเปลี่ยนชีวิตตนเอง และมีผลกระทบไปยังบุคคลอื่นที่อาจจะโชคร้ายบาดเจ็บล้มตาย ร่างกายพิการ เพราะเพียงว่าเราเมาแล้วขับ และขอพื้นที่สื่อฝาก ถึงทุกๆ คนที่คิดว่า “ถ้าเมาแล้วขับให้คิดใหม่ถ้าไม่อยากเป็นเหมือนสภาพของตน”เพราะใกล้เทศกาลสงกรานต์แล้ว อย่างไรก็ตาม นางอรองค์ เตชะมณีสถิตย์ นายกเหล่ากาชาด จ.สกลนคร ฝากขอความเมตตาผู้ใจบุญเรื่องเสื้อผ้า โดยเฉพาะกางเกง ที่ต้องใช้มาก เพราะขาดบ่อยจากการใช้สะโพกขยับเขยื้อนไปมา รวมถึงใครอยากจะให้กำลังใจหรือช่วยเหลือเป็นทรัพย์ในเรื่องค่าใช้จ่ายเข้ามา ก็ช่วยเหลือได้ เพราะไม่มีรายได้ใดนอกจากเบี้ยยังชีพ สามารถติดต่อ เข้ามาได้ที่คุณประพร หาญมนตรี 085-466-0765 ซึ่งเป็นน้าสาว โดย: ทีมข่าวภูมิภาค ขอบคุณ... http://m.thairath.co.th/content/region/409631 ไทยรัฐออนไลน์/มูลนิธิพัฒนาคนพิการไทย 13 มี.ค.57

จัดฟอร์แม็ตข้อความและมัลติมีเดีย

  1. เพิ่ม
  2. เพิ่ม ลบ
  3. เพิ่ม ลบ
  4. เพิ่ม ลบ
  5. เพิ่ม ลบ
  6. เพิ่ม ลบ
  7. เพิ่ม ลบ
  8. เพิ่ม ลบ
  9. เพิ่ม ลบ
  10. ลบ
เลือกการตกแต่งที่ต้องการ

ตกลง ยกเลิก

รายละเอียดการใส่ ลิงค์ รูปภาพ วิดีโอ เพลง (Soundcloud)

Waiting...