สาวพิการเลี้ยงพ่อตาบอดถูกญาติข่มขืน

แสดงความคิดเห็น

ชีวิตบัดซบของครอบครัวอนาถา พ่ออายุ 75 ปี แขนขาด ตาบอด อาศัยอยู่กับลูกสาวที่ตาก็บอดเกือบสนิท ซ้ำร้ายถูกญาติและวินจักรยานยนต์ข่มขืน ประทังชีวิตด้วยเงินสงเคราะห์เดือนละพันกว่าบาท ต้องอาศัยข้าววัดต่อลมหายใจ วอนหน่วยงานที่เกี่ยวข้องช่วยเหลือ

ผู้สื่อข่าวได้รับแจ้งจากชาวบ้านว่า มี 2 พ่อลูกตาบอด ชีวิตยากลำบาก ต้องขอข้าววัดกิน ไร้คนเหลียวแล อาศัยอยู่บ้านเลขที่ 64/62 หมู่ที่ 1 ซอยบางศรีเมือง 1 ต.บางกร่าง อ.เมือง จ.นนทบุรี จึงได้เดินทางไปตรวจสอบ พบบ้านหลังดังกล่าวเป็นบ้านไม้ 2 ชั้น สภาพผุพัง ชั้นล่างมีน้ำครำท่วมขังส่งกลิ่นเหม็น ชั้นบนมีข้าวของและเสื้อผ้าสกปรกกองอยู่ตามพื้นรอบๆ บ้าน ส่งกลิ่นสาบไปทั่ว ภายในบ้านไม่มีห้องน้ำ ต้องขับถ่ายใส่ถุงแล้วนำไปโยนทิ้ง โดยมีนายอลิน มุกดาร์ อายุ 75 ปี พิการแขนซ้ายขาด ตาบอดทั้ง 2 ข้าง และนางสาวอมรรัตน์ หรืออ้น มุกดาร์ อายุ 35 ปี ลูกสาว ตาบอดเกือบสนิทมองเห็นรางๆ อาศัยอยู่ในบ้าน

จากการสอบถามนางสาวอมรรัตน์ทราบว่า ขณะนี้ตนและพ่อมีชีวิตลำบากมาก งานไม่มีทำเนื่องจากตาบอด และมีโรคประจำตัวหลายโรครุมเร้า มีแต่เงินเบี้ยยังชีพผู้สูงอายุของพ่อ 700 บาท และเงินสงเคราะห์คนพิการของตนอีก 500 บาท ทุกวันต้องไปขอข้าววัดกินเพื่อประทังชีวิตไปวันๆ ซ้ำร้ายตนยังถูกพี่ชายซึ่งเป็นลูกของป้า อายุ 37 ปี อยู่หมู่บ้านรัตนาธิเบศร์ ข่มขืนอีกเวลาที่มาหาที่บ้านบ่อยครั้ง โดยทำทีมาเยี่ยมแล้วให้ผู้เป็นพ่อกินอาหาร กระทั่งนอนหลับสนิท จึงลงมือข่มขืนตน ซึ่งก่อนหน้านี้ตนได้ถูกผู้ขับขี่วินรถจักรยานยนต์รับจ้างย่านท่าน้ำนนท์ข่ม ขืนกระทำชำเรา ขณะนี้คดีอยู่ในชั้นศาล ชีวิตตอนนี้ท้อแท้ อยากฆ่าตัวตายพร้อมกันพ่อ เพราะสิ้นหนทาง แต่พ่อได้ห้ามไว้ อยากวิงวอนขอความช่วยเหลือจากผู้ใจบุญให้ช่วยสงเคราะห์ สำหรับ 2 พ่อลูกคู่นี้ แจ้งความประสงค์ให้หน่วยงานราชการที่เกี่ยวข้อง หรือมูลนิธิปวีณาหงสกุลฯ เข้ามาช่วยเหลือดูแลชีวิตความเป็นอยู่ให้ดีขึ้น เพราะทั้ง 2 อยู่แบบนี้มานานหลายปีจนไม่รู้จะอยู่อย่างไรต่อไป.

ขอบคุณ... http://www.thaipost.net/x-cite/300913/80001

ไทยโพสต์ออนไลน์/มูลนิธิพัฒนาคนพิการไทย 30 ก.ย.56

ที่มา: ไทยโพสต์ออนไลน์/มูลนิธิพัฒนาคนพิการไทย 30 ก.ย.56
วันที่โพสต์: 30/09/2556 เวลา 03:37:31

แสดงความคิดเห็น

รอตรวจสอบ
จัดฟอร์แม็ต ดูการแสดงผล

รอตรวจสอบ

รอตรวจสอบ

รอตรวจสอบ

ยกเลิก

รายละเอียดกระทู้

ชีวิตบัดซบของครอบครัวอนาถา พ่ออายุ 75 ปี แขนขาด ตาบอด อาศัยอยู่กับลูกสาวที่ตาก็บอดเกือบสนิท ซ้ำร้ายถูกญาติและวินจักรยานยนต์ข่มขืน ประทังชีวิตด้วยเงินสงเคราะห์เดือนละพันกว่าบาท ต้องอาศัยข้าววัดต่อลมหายใจ วอนหน่วยงานที่เกี่ยวข้องช่วยเหลือ ผู้สื่อข่าวได้รับแจ้งจากชาวบ้านว่า มี 2 พ่อลูกตาบอด ชีวิตยากลำบาก ต้องขอข้าววัดกิน ไร้คนเหลียวแล อาศัยอยู่บ้านเลขที่ 64/62 หมู่ที่ 1 ซอยบางศรีเมือง 1 ต.บางกร่าง อ.เมือง จ.นนทบุรี จึงได้เดินทางไปตรวจสอบ พบบ้านหลังดังกล่าวเป็นบ้านไม้ 2 ชั้น สภาพผุพัง ชั้นล่างมีน้ำครำท่วมขังส่งกลิ่นเหม็น ชั้นบนมีข้าวของและเสื้อผ้าสกปรกกองอยู่ตามพื้นรอบๆ บ้าน ส่งกลิ่นสาบไปทั่ว ภายในบ้านไม่มีห้องน้ำ ต้องขับถ่ายใส่ถุงแล้วนำไปโยนทิ้ง โดยมีนายอลิน มุกดาร์ อายุ 75 ปี พิการแขนซ้ายขาด ตาบอดทั้ง 2 ข้าง และนางสาวอมรรัตน์ หรืออ้น มุกดาร์ อายุ 35 ปี ลูกสาว ตาบอดเกือบสนิทมองเห็นรางๆ อาศัยอยู่ในบ้าน จากการสอบถามนางสาวอมรรัตน์ทราบว่า ขณะนี้ตนและพ่อมีชีวิตลำบากมาก งานไม่มีทำเนื่องจากตาบอด และมีโรคประจำตัวหลายโรครุมเร้า มีแต่เงินเบี้ยยังชีพผู้สูงอายุของพ่อ 700 บาท และเงินสงเคราะห์คนพิการของตนอีก 500 บาท ทุกวันต้องไปขอข้าววัดกินเพื่อประทังชีวิตไปวันๆ ซ้ำร้ายตนยังถูกพี่ชายซึ่งเป็นลูกของป้า อายุ 37 ปี อยู่หมู่บ้านรัตนาธิเบศร์ ข่มขืนอีกเวลาที่มาหาที่บ้านบ่อยครั้ง โดยทำทีมาเยี่ยมแล้วให้ผู้เป็นพ่อกินอาหาร กระทั่งนอนหลับสนิท จึงลงมือข่มขืนตน ซึ่งก่อนหน้านี้ตนได้ถูกผู้ขับขี่วินรถจักรยานยนต์รับจ้างย่านท่าน้ำนนท์ข่ม ขืนกระทำชำเรา ขณะนี้คดีอยู่ในชั้นศาล ชีวิตตอนนี้ท้อแท้ อยากฆ่าตัวตายพร้อมกันพ่อ เพราะสิ้นหนทาง แต่พ่อได้ห้ามไว้ อยากวิงวอนขอความช่วยเหลือจากผู้ใจบุญให้ช่วยสงเคราะห์ สำหรับ 2 พ่อลูกคู่นี้ แจ้งความประสงค์ให้หน่วยงานราชการที่เกี่ยวข้อง หรือมูลนิธิปวีณาหงสกุลฯ เข้ามาช่วยเหลือดูแลชีวิตความเป็นอยู่ให้ดีขึ้น เพราะทั้ง 2 อยู่แบบนี้มานานหลายปีจนไม่รู้จะอยู่อย่างไรต่อไป. ขอบคุณ... http://www.thaipost.net/x-cite/300913/80001 ไทยโพสต์ออนไลน์/มูลนิธิพัฒนาคนพิการไทย 30 ก.ย.56

จัดฟอร์แม็ตข้อความและมัลติมีเดีย

  1. เพิ่ม
  2. เพิ่ม ลบ
  3. เพิ่ม ลบ
  4. เพิ่ม ลบ
  5. เพิ่ม ลบ
  6. เพิ่ม ลบ
  7. เพิ่ม ลบ
  8. เพิ่ม ลบ
  9. เพิ่ม ลบ
  10. ลบ
เลือกการตกแต่งที่ต้องการ

ตกลง ยกเลิก

รายละเอียดการใส่ ลิงค์ รูปภาพ วิดีโอ เพลง (Soundcloud)

Waiting...