หนุ่มพิการร้องสื่อ ขอความเป็นธรรม โดนเจ้าหน้าที่เขตสัมพันธวงศ์โวย

แสดงความคิดเห็น

เมื่อวันที่ 2 เมษายน ที่ศาลาว่าการกรุงเทพมหานคร (กทม.) นายฐกลภัค เชื้อสมชาติ อายุ 38 ปี ผู้พิการด้านการเคลื่อนไหว ได้เข้าร้องเรียนต่อสื่อมวลชน เพื่อขอความเป็นธรรม ว่า เมื่อวันที่ 29 มีนาคมที่ผ่านมา ตนได้ไปสมัครงานที่อาคาร 2 ชั้น 4 ฝ่ายพัฒนาชุมชนและสวัสดิการสังคม สำนักงานเขตสัมพันธ์วงศ์ เนื่องจากทราบข่าวจากทางหนังสือพิมพ์ว่าสำนักพัฒนาสังคม กรุงเทพมหานคร (กทม.) มีโครงการอาสาสมัครคนพิการ เพื่อรับคนพิการเข้าทำงาน ในสำนักงานเขต ทั้ง 50 เขต เขตละ 1 คน ซึ่งเหลืออีก 10 เขต ที่ยังว่างอยู่ ดังนั้นจึงนำเอกสารบัตรประชาชน ทะเบียนบ้าน วุฒิการศึกษาและบัตรคนพิการไปสมัคร โดยระหว่างที่อยู่ภายในสำนักงานเขตสัมพันธ์วงศ์ ก็ได้รับการบริการจากเจ้าหน้าที่เป็นอย่างดี จากนั้นจึงได้กรอกเอกสารในการสมัครงาน หลังจากที่กรอกเอกสารเสร็จเรียบร้อย น.ส.สุกันยา วงศ์พันธุ์ หัวหน้าฝ่ายพัฒนาชุมชนและสวัสดิการสังคม ได้เรียกตนเข้าไปพูดคุยและสอบถามด้วยน้ำเสียงแข็งและดังอยู่ตลอดเวลา ว่า คุณรู้ได้อย่างไงว่าเขตฯเปิดรับสมัคร ใครฝากคุณมา ทำไมไม่สมัครเขตที่อยู่ใกล้เคียงกับที่อยู่อาศัย หลังจากนั้นน.ส.สุกันยา ได้อธิบายและชี้แจงรายละเอียด เกี่ยวกับการทำงานด้านสังคมสงเคราะห์และสวัสดิการให้กับชุมชน พร้อมกับขอดูบัตรคนพิการ ซึ่งตนก็ให้บัตรคนพิการที่เป็นสมาท์การ์ดให้ แต่น.ส.สุกันยา ระบุว่าจะเอาเอกสารที่ยืนยันว่าเป็นผู้พิการที่มีลักษณะเป็นสมุด ซึ่งเป็นเอกสารรุ่นเก่า จนเจ้าหน้าที่ต้องระบุว่าบัตรสมาท์การ์ดดังกล่าวสามารถใช้ได้เช่นเดียวกัน น.ส.สุกันยา จึงยอมรับเอกสาร พร้อมกับระบุด้วยว่าจะแจ้งผลกลับไปอีกครั้ง

นาย ฐกลภัค กล่าวต่อว่า ตนเห็นว่าการกระทำของเจ้าหน้าที่เขตฯ เป็นสิ่งที่ไม่เหมาะสมและไม่เป็นธรรม เพราะเป็นผู้พิการและไม่ได้เป็นที่ยอมรับทางสังคมมากนัก การมาสมัครงานครั้งนี้ เห็นว่าโอกาสที่ดีที่จะได้มีงานทำ เพื่อช่วยเหลือครอบครัว ซึ่งตนมีความพิการด้านการเคลื่อนไหว ตนสามารถทำงานได้ทุกอย่าง เพียงแต่จะทำได้ช้าเท่านั้น การมาร้องเรียนในวันนี้ เพื่อขอความเป็นธรรมและความเมตตา เพราะตนไม่ได้ไปแสดงท่าทีขึงขัง แต่เข้าไปสมัครด้วยความสุภาพเรียบร้อยและมีสัมมาคาราวะ ก็ไม่คิดว่าจะเจอกับเหตุการณ์ในลักษณะนี้ อย่างไรก็ตาม อยากฝากไปยังเจ้าหน้าที่เขตฯทุกคน ว่าควรจะมีความประพฤติที่ดี ไม่เลือกปฏิบัติเพราะคนปกติหรือคนพิการก็มีหัวใจและมีความรู้สึก

“ผมไม่ได้เป็นคนพิการตั้งแต่กำเนิด แต่เมื่อปี 2550 ประสบอุบัติเหตุ จึงทำให้เป็นคนพิการ ที่ผ่านมาผมเคยไปสมัครฝึกอบรมวิชาชีพที่จังหวัดเชียงใหม่ แต่ก็ไม่ได้รับการเรียกตัว ผมไม่อยากรอและไม่อยากเป็นภาระให้กับครอบครัว อยากหางานทำ เพื่อใช้ชีวิตที่เหลืออยู่ให้มีประโยชน์และมีคุณค่ามากที่สุด จึงเดินมาสมัครที่เขต หวังว่าจะได้รับความเมตตา แต่เมื่อมาเจอแบบนี้ ก็เสียความรู้สึกและรู้สึกเสียใจ คิดว่าสังคมควรจะเปิดโอกาสให้คนพิการให้มากกว่านี้” นายฐกลภัค กล่าว

ขอบคุณ... http://www.matichon.co.th/news_detail.php?newsid=1364886737&grpid=03&catid=19

ที่มา: มติชนออนไลน์/มูลนิธิพัฒนาคนพิการไทย 2 เม.ย.56
วันที่โพสต์: 3/04/2556 เวลา 04:22:10

แสดงความคิดเห็น

รอตรวจสอบ
จัดฟอร์แม็ต ดูการแสดงผล

รอตรวจสอบ

รอตรวจสอบ

รอตรวจสอบ

ยกเลิก

รายละเอียดกระทู้

เมื่อวันที่ 2 เมษายน ที่ศาลาว่าการกรุงเทพมหานคร (กทม.) นายฐกลภัค เชื้อสมชาติ อายุ 38 ปี ผู้พิการด้านการเคลื่อนไหว ได้เข้าร้องเรียนต่อสื่อมวลชน เพื่อขอความเป็นธรรม ว่า เมื่อวันที่ 29 มีนาคมที่ผ่านมา ตนได้ไปสมัครงานที่อาคาร 2 ชั้น 4 ฝ่ายพัฒนาชุมชนและสวัสดิการสังคม สำนักงานเขตสัมพันธ์วงศ์ เนื่องจากทราบข่าวจากทางหนังสือพิมพ์ว่าสำนักพัฒนาสังคม กรุงเทพมหานคร (กทม.) มีโครงการอาสาสมัครคนพิการ เพื่อรับคนพิการเข้าทำงาน ในสำนักงานเขต ทั้ง 50 เขต เขตละ 1 คน ซึ่งเหลืออีก 10 เขต ที่ยังว่างอยู่ ดังนั้นจึงนำเอกสารบัตรประชาชน ทะเบียนบ้าน วุฒิการศึกษาและบัตรคนพิการไปสมัคร โดยระหว่างที่อยู่ภายในสำนักงานเขตสัมพันธ์วงศ์ ก็ได้รับการบริการจากเจ้าหน้าที่เป็นอย่างดี จากนั้นจึงได้กรอกเอกสารในการสมัครงาน หลังจากที่กรอกเอกสารเสร็จเรียบร้อย น.ส.สุกันยา วงศ์พันธุ์ หัวหน้าฝ่ายพัฒนาชุมชนและสวัสดิการสังคม ได้เรียกตนเข้าไปพูดคุยและสอบถามด้วยน้ำเสียงแข็งและดังอยู่ตลอดเวลา ว่า คุณรู้ได้อย่างไงว่าเขตฯเปิดรับสมัคร ใครฝากคุณมา ทำไมไม่สมัครเขตที่อยู่ใกล้เคียงกับที่อยู่อาศัย หลังจากนั้นน.ส.สุกันยา ได้อธิบายและชี้แจงรายละเอียด เกี่ยวกับการทำงานด้านสังคมสงเคราะห์และสวัสดิการให้กับชุมชน พร้อมกับขอดูบัตรคนพิการ ซึ่งตนก็ให้บัตรคนพิการที่เป็นสมาท์การ์ดให้ แต่น.ส.สุกันยา ระบุว่าจะเอาเอกสารที่ยืนยันว่าเป็นผู้พิการที่มีลักษณะเป็นสมุด ซึ่งเป็นเอกสารรุ่นเก่า จนเจ้าหน้าที่ต้องระบุว่าบัตรสมาท์การ์ดดังกล่าวสามารถใช้ได้เช่นเดียวกัน น.ส.สุกันยา จึงยอมรับเอกสาร พร้อมกับระบุด้วยว่าจะแจ้งผลกลับไปอีกครั้ง นาย ฐกลภัค กล่าวต่อว่า ตนเห็นว่าการกระทำของเจ้าหน้าที่เขตฯ เป็นสิ่งที่ไม่เหมาะสมและไม่เป็นธรรม เพราะเป็นผู้พิการและไม่ได้เป็นที่ยอมรับทางสังคมมากนัก การมาสมัครงานครั้งนี้ เห็นว่าโอกาสที่ดีที่จะได้มีงานทำ เพื่อช่วยเหลือครอบครัว ซึ่งตนมีความพิการด้านการเคลื่อนไหว ตนสามารถทำงานได้ทุกอย่าง เพียงแต่จะทำได้ช้าเท่านั้น การมาร้องเรียนในวันนี้ เพื่อขอความเป็นธรรมและความเมตตา เพราะตนไม่ได้ไปแสดงท่าทีขึงขัง แต่เข้าไปสมัครด้วยความสุภาพเรียบร้อยและมีสัมมาคาราวะ ก็ไม่คิดว่าจะเจอกับเหตุการณ์ในลักษณะนี้ อย่างไรก็ตาม อยากฝากไปยังเจ้าหน้าที่เขตฯทุกคน ว่าควรจะมีความประพฤติที่ดี ไม่เลือกปฏิบัติเพราะคนปกติหรือคนพิการก็มีหัวใจและมีความรู้สึก “ผมไม่ได้เป็นคนพิการตั้งแต่กำเนิด แต่เมื่อปี 2550 ประสบอุบัติเหตุ จึงทำให้เป็นคนพิการ ที่ผ่านมาผมเคยไปสมัครฝึกอบรมวิชาชีพที่จังหวัดเชียงใหม่ แต่ก็ไม่ได้รับการเรียกตัว ผมไม่อยากรอและไม่อยากเป็นภาระให้กับครอบครัว อยากหางานทำ เพื่อใช้ชีวิตที่เหลืออยู่ให้มีประโยชน์และมีคุณค่ามากที่สุด จึงเดินมาสมัครที่เขต หวังว่าจะได้รับความเมตตา แต่เมื่อมาเจอแบบนี้ ก็เสียความรู้สึกและรู้สึกเสียใจ คิดว่าสังคมควรจะเปิดโอกาสให้คนพิการให้มากกว่านี้” นายฐกลภัค กล่าว ขอบคุณ... http://www.matichon.co.th/news_detail.php?newsid=1364886737&grpid=03&catid=19

จัดฟอร์แม็ตข้อความและมัลติมีเดีย

  1. เพิ่ม
  2. เพิ่ม ลบ
  3. เพิ่ม ลบ
  4. เพิ่ม ลบ
  5. เพิ่ม ลบ
  6. เพิ่ม ลบ
  7. เพิ่ม ลบ
  8. เพิ่ม ลบ
  9. เพิ่ม ลบ
  10. ลบ
เลือกการตกแต่งที่ต้องการ

ตกลง ยกเลิก

รายละเอียดการใส่ ลิงค์ รูปภาพ วิดีโอ เพลง (Soundcloud)

Waiting...