‘ซาฟีนา กูโน’ สาวน้อยในโลกมืด ผู้มีลุกหนังเป็นเพื่อน...ท่ามกลางไฟใต้
ท่ามกลางสถานการณ์ความไม่สงบตั้งแต่ปี 2547 เป็นต้นมา ได้ส่งผลกระทบต่อบรรยากาศในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้แปรเปลี่ยนไปจากเดิมที่เคยเป็นชนิดหน้ามือเป็นหลังมือ ประชาชนจำนวนมากบาดเจ็บและเสียชีวิตจากผลพวงแห่ง “ความรุนแรง” บางรายต้องย้ายอพยพถิ่นฐานเพื่อเอาชีวิตรอด แต่ยังมีคนในพื้นที่อีกจำนวนไม่น้อยที่เฝ้าคอยการกลับคืนมาของสันติสุขอีกครั้ง เช่นเดียวกันกับ ด.ญ.ซาฟีโน กูโน วัย 14 ปี อยู่บ้านเลขที่ 90/3 ถนนมะกรูด ต.สะบารัง อ.เมือง จ.ปัตตานี
ด.ญ.ซาฟีโน มีชีวิตเหมือนกับเด็กทั่วๆไป มีอาการครบ 32 ประการตั้งแต่กำเนิด กระทั้งอายุ 4 ขวบ เกิดป่วย โดยมีอาการไข้ขึ้นสูง ก่อนถูกนำตัวเข้ารับการรักษาในห้วงเวลาดังกล่าวได้ปรากฏอาการข้างเคียงกับร่างกายดวงตาเริ่มมองเห็นภาพพร่ามัว จากนั้นค่อยๆ มืดลงทุกวัน กระทั้งไม่สามารถมองเห็นเหมือนคนปกติทั่วไปนับแต่นั้นเป็นต้นมา ครอบครัวของ ด.ญ.ซาฟีนา พยายามเยียวยาและรักษามาตลอดหลายปี แต่ไม่มีวี่แววว่าอาการจะดีขึ้นกระทั้งพวกเขาก็ไม่สิ้นหวัง พยายามเสาะหาหนทางคืนความสนใสในโลกแห่งการมองเห็นให้แก่บุตรสาวอย่างต่อเนื่อง
แม้โลกของ ด.ญ.ซาฟีนา จะมืดมิด ทว่าคนรอบข้างของเธอรู้ดีว่า เด็กสาวมีความเข้มแข็ง และบนใบหน้ายังเปี่ยมล้นด้วยรอยยิ้ม อีกทั้งยังเป็นเด็กมีนิสัยมองโลกในแง่ดี ไม่เคยท้อแท้ ไม่มีแม้เสียงพร่ำบ่นอย่างสิ้นกำลังใจ โดยสิ่งเดียวที่ช่วยให้เจ้าตัวยังมีหวัง และยังคงมุ่งมั่นเดินทางพบจักษุแพทย์ นั้นคือ “ฟุตบอล” ด้วยหวังว่าวันหนึ่งจะกลับมามีดวงตาที่มองเห็นเพื่อรอชมลุกหนังที่ชื่นชอบให้ได้
“วันนี้ชีวิตประจำวันรอฟังข่าว 2 อย่างคือ เรื่องแรกขอให้ไม่มีข่าวเหตุการณ์รุนแรงในพื้นที่ชายแดนภาคใต้โดยเฉพาะที่ปัตตานีบ้านเกิด และเรื่องที่สองคือ ฟังข่าวฟุตบอล ทั้งฟุตบอลในประเทศและต่างประเทศ จะฟังจากข่าวกีฬาทางโทรทัศน์ โดยแม่และน้าจะเป็นคนเปิดโทรทัศน์ในช่วงข่าวประจำวันให้ฟัง ส่วนช่วงเช้าและค่ำจะให้น้องสาวที่กลับจากโรงเรียนเปิดอินเตอร์เน็ตเพื่อดูเว็บไซต์กีฬา เพื่ออ่านความเคลื่อนไหวในโลกลุกหนังให้ฟังทุกวัน โดยชีวิตเป็นเช่นนี้ทุกวันตั้งแต่ปี 2551” ด.ญ.ซาฟีน่าเล่า
ย้อนกลับไปเมื่อปี 2551 ด.ญ.ซาฟีนาบอกว่า บังเอิญตื่นมาตอนดึกและได้ฟังการแข่งขันฟุตบอลยูฟ่าแชมป์เปี้ยนส์ลีก รอบชิงชนะเลิศระหว่าง แมนฯยูในเต็ดพบกับเชลซี ซึ่งมีการถ่ายทอดทางโทรทัศน์ ความประทับใจครั้งนั้นได้กลายเป็นความชื่นชอบฟุตบอลมาจนถึงทุกวันนี้
ถึงฟุตบอลต่างประเทศเป็นแรงบันดาลใจให้เกิดความสุขในโลกของลูกหนังท่ามกลางการใช้ชีวิตในโลกมืด สิ่งนี้เป็นแรงจูงใจที่ทำให้เด็กสาวเริ่มเชียร์ฟุตบอลไทย โดยมี 3 ทีมที่ตามให้กำลังใจนั้นคือ บุรีรัมย์ ยูไนเต้ด, เอสซีจี เมืองทอง และปัตตานี เอฟซี ซึ่งเป็นสโมสรฟุตบอลบ้านเกิดของตัวเอง
“ชอบบุรีรัมย์ เพราะได้ฟังข่าวทุกวัน ทำให้รู้ว่านี่เป็นสโมสรที่มีสนามที่ดีที่สุดในภูมิภาคนี้ และมีรูปแบบเชียร์ที่ดุดัน แถมมีนักฟุตบอลที่ชอบนั้นคือ ธีราทร บุญมาทัน แบ็คซ้ายที่ดีที่สุดของประเทศไทยในเวลานี้ ส่วนเมืองทองเหตุผลที่ชื่นชอบ เพราะนี่คือทีมฟุตบอลที่ไต่จากดิวิชั่นต่ำสุดจนถึงไทยลีกภายใน 3 ปี ทำทีมแบบมืออาชีพมากและตามเชียร์ตั้งแต่ยุคที่มี ซูมาโฮโร ยาย่า กระทั่งถึงวันนี้ โดยชอบ ธีรศิลป์ แดงดา ศูนย์หน้าดีกรีทีมชาติไทย มากที่สุด ส่วนอีกคนที่ชอบคือ มาริโอ รูยอฟกี”
ส่วนทีมปัตตานี เอฟซี ตามเชียร์มา 3 ปีแล้วโดยฟังข่าวจากคนรอบข้าง และให้น้องสาวอ่านข่าวจากหนังสือพิมพ์ อินเทอรเน็ตให้ฟัง เคยพยายามเดินทางไปดูที่สนามหลายครั้ง เพราะอยากสัมผัสบรรยากาศการเชียร์ฟุตบอล รวมถึงอยากสัมผัสสนามเรนโบว์สเตเดี้ยม ว่าวกันว่าสวยไม่เป็นรองที่ใดในประเทศ แต่สภาพร่างกายไม่เอื้ออำนวย
“ทุกวันนี้จะเจียดเงินซื้อหนังสือพิมพ์กีฬารวมถึงซื้อหนังสือฟุตบอลสยามสัปดาห์ละเล่ม ราคา 20 บาท โดยให้น้องสาวอ่านให้ฟังทุกครั้ง วันนี้หนังสือฟุตบอลกลายเป็นของสะสมเต็มบ้านแล้ว” ด.ญ.ซาฟีนา เล่าอีกว่า มีโอกาสตามฝันสำเร็จด้วยการเดินทางมาสนามฟุตบอลเรนโบว์ สเตเดี้ยมของปัตตานี เอฟซี ชมการแข่งขันระหว่างบุรีรัมย์ ยูไนเต้ด กับปัตตานี เมื่อไม่นานมานี้ และได้รับโอกาสพูดคุยกับนักฟุตบอลของบุรีรัมย์โดยเฉพาะนักแตะอย่าง “ธีราทร บุญมาทัน” แต่เสียดายไม่มีดโอกาสได้เห็นหน้าตานักเตะที่ชื่นชอบเท่านั้นเอง
“แค่นี้มีความสุขแล้ว แม้ยังมองไม่เห็น แต่ได้ยินเสียงจากการพุดคุยทำให้เชื่อว่าเขาเป็นนักฟุตบอลนิสัยดีคนหนึ่ง ได้แต่หวังว่า วันหนึ่งคงได้มีโอกาสเห็นตัวจริง รวมทั้งผู้เล่น 11 คนของบุรีรัมย์” เหนือสิ่งอื่นใด...สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ ทรงรับ ด.ญ.ซาฟีนา ไว้เป็นคนไข้ในราชานุเคราะห์ โดยได้เดินทางไปรักษาดวงตาที่โรงพยาบาลศิริราชล่าสุดจักษุแพทย์ที่รักษาแจ้งข่าวดีว่าอาการมีทิศทางดีขึ้นหากถึงเวลาเหมาะสมจะได้รับการผ่าดัดรักษา ซึ่งจะมีโอกาสกลับมามองเห็นได้ตามปกติอีกครั้ง
“สิ่งที่หนูฝันคือ การได้เห็นบ้านเกิดไม่มีคนเสียใจและร้องไห้จากความรุนแรง อีกอย่างคือ หนูจะได้ชมการแข่งขันฟุตบอลให้เต็มสองตาสักที เพราะเป็นกีฬาชนิดเดียวที่ทำให้หนูมีกำลังใจสู้ชีวิตในโลกมืดมาถึงทุกวันนี้” ด.ญ.ซาฟานีกล่าวถึงความฝัน
นายประมุข ลมุล ผู้ว่าราชการจังหวัดปัตตานี ระบุว่า ตั้งแต่ทราบข่าวของ ด.ญ.ซาฟานี ได้เข้าไปดูแลอย่างใกล้ชิดโดยมอบหมายให้พัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์จังหวัดปัตตานี เข้ามาให้ความช่วยเหลือในเรื่องต่างๆ ส่วนเรื่องของความชื่นชอบฟุตบอลได้เตรียมพาเช้าชมการแข่งขันที่สนามเรนโบว์ สเตเดี้ยมในวันที่ปัตตานีลงแข่ง เป็นเจ้าบ้าน โดยเป็นแขกวีไอพีของผู้ว่าราชการจังหวัด สามารถเลือกที่นั่งใกล้แฟนบอล หรือใกล้ซุ้มผู้เล่น หรือที่นั่งวีไอพีตามใจชอบ
นอกจากนี้มีข่าวดีที่แจ้งให้ ด.ญ.ซาฟานี ทราบคือ ประธานสโมสรบุรีรัมย์ ยูไนเต็ด เตรียมเชิญสาวน้อยคนนี้ไปที่สนามของทีมนักรบปราสาทสายฟ้า และสัมผัสกับผู้เล่นของทีมทุกคนในเร็วๆนี้ ส่วนสโมสรอื่นจะเตรียมประสานเพื่อช่วยเติมเต็มความฝันให้แก่เด็กหญิงคนนี้ให้สำเร็จให้ได้ ขณะเดียวกันจังหวัดปัตตานีได้เข้าไปสนับสนุนและดุแลในการจัดหาหนังสือและนิตยสารฟุตบอลส่งให้ถึงบ้านเจ้าตัวอย่างต่อเนื่องอีกด้วย
“ผมเจอครั้งแรก ทึ่งในทักษะความสามารถของเด็กที่มองไม่เห็น แต่รู้ข้อมูลนักฟุตบอลอย่างละเอียดได้ลองภูมิรู้หลายครั้งและเจ้าตัวตอบได้อย่างละเอียดแม้กระทั้งผู้เล่นบุรีรัมย์ที่เดินทางมาแข่งที่ปัตตานี ได้พบกับ ด.ญ.ซาฟานี ยังตกอยู่ในอาการทึ่งเช่นเดียวกับผม” ผู้ว่าปัตตานีกล่าว
ด้าน นายธานินทร์ สมบูรณ์สาร พัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์จังหวัดปัตตานี กล่าวว่า ได้เข้ามาดูแลและอำนวยความสะดวกในเรื่องต่างๆ โดยเฉพาะการใช้ชีวิตประจำวันที่ ด.ญ.ซาฟีนา มีความชื่นชอบกีฬาฟุตบอล เช่น อยากเดินทางไปดุการแข่งขันจังหวัดจะดำเนินการดูแล รวมถึงทำกิจกรรมอื่นๆ เช่นเดียวกับการเดินทางไปรักษาดวงตาที่โรงพยาบาลศิริราช จะมีเจ้าหน้าที่คอยดุแลใกล้ชิด
ขณะที่ นายกมล บุญเทพ นักฟุตบอลทีมปัตตานี เอฟซี ซึ่งเป็นผู้เล่นขวัญใจของ ด.ญ.ซาฟานี กล่าวว่า รู้สึกประทับใจมากในทันทีที่ได้รู้จักกันที่สนามแข่งเพราะรู้ประวัติส่วนตัวของเราอย่างละเอียดยิบ และสนใจกีฬาฟุตบอลถึงขั้นบอกเทคนิคการเล่น รูปแบบเกมการแข่งขันเป็นอย่างดี ในโอกาสนี้จึงมอบเสื้อฟุตบอลที่ใช้ทำการแข่งขันพร้อมลายเซ็นให้เจ้าตัว เพื่อเป็นกำลังใจและขอให้สู้เพื่อกลับมามองเห็นให้ได้อีกครั้ง นี่เป็นเพียงส่วนหนึ่งของ “ด.ญ.ซาฟานี กูโน” เด็กสาวในโลกมืด...ทว่า “หัวใจเธอสว่างมาก” : สุพิชฌาย์ รัตนะ
แสดงความคิดเห็น
รายละเอียดกระทู้
ด.ญ.ซาฟีโน ได้รับเสื้อฟุตบอลเป็นของที่ระลึก ท่ามกลางสถานการณ์ความไม่สงบตั้งแต่ปี 2547 เป็นต้นมา ได้ส่งผลกระทบต่อบรรยากาศในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้แปรเปลี่ยนไปจากเดิมที่เคยเป็นชนิดหน้ามือเป็นหลังมือ ประชาชนจำนวนมากบาดเจ็บและเสียชีวิตจากผลพวงแห่ง “ความรุนแรง” บางรายต้องย้ายอพยพถิ่นฐานเพื่อเอาชีวิตรอด แต่ยังมีคนในพื้นที่อีกจำนวนไม่น้อยที่เฝ้าคอยการกลับคืนมาของสันติสุขอีกครั้ง เช่นเดียวกันกับ ด.ญ.ซาฟีโน กูโน วัย 14 ปี อยู่บ้านเลขที่ 90/3 ถนนมะกรูด ต.สะบารัง อ.เมือง จ.ปัตตานี ด.ญ.ซาฟีโน มีชีวิตเหมือนกับเด็กทั่วๆไป มีอาการครบ 32 ประการตั้งแต่กำเนิด กระทั้งอายุ 4 ขวบ เกิดป่วย โดยมีอาการไข้ขึ้นสูง ก่อนถูกนำตัวเข้ารับการรักษาในห้วงเวลาดังกล่าวได้ปรากฏอาการข้างเคียงกับร่างกายดวงตาเริ่มมองเห็นภาพพร่ามัว จากนั้นค่อยๆ มืดลงทุกวัน กระทั้งไม่สามารถมองเห็นเหมือนคนปกติทั่วไปนับแต่นั้นเป็นต้นมา ครอบครัวของ ด.ญ.ซาฟีนา พยายามเยียวยาและรักษามาตลอดหลายปี แต่ไม่มีวี่แววว่าอาการจะดีขึ้นกระทั้งพวกเขาก็ไม่สิ้นหวัง พยายามเสาะหาหนทางคืนความสนใสในโลกแห่งการมองเห็นให้แก่บุตรสาวอย่างต่อเนื่อง แม้โลกของ ด.ญ.ซาฟีนา จะมืดมิด ทว่าคนรอบข้างของเธอรู้ดีว่า เด็กสาวมีความเข้มแข็ง และบนใบหน้ายังเปี่ยมล้นด้วยรอยยิ้ม อีกทั้งยังเป็นเด็กมีนิสัยมองโลกในแง่ดี ไม่เคยท้อแท้ ไม่มีแม้เสียงพร่ำบ่นอย่างสิ้นกำลังใจ โดยสิ่งเดียวที่ช่วยให้เจ้าตัวยังมีหวัง และยังคงมุ่งมั่นเดินทางพบจักษุแพทย์ นั้นคือ “ฟุตบอล” ด้วยหวังว่าวันหนึ่งจะกลับมามีดวงตาที่มองเห็นเพื่อรอชมลุกหนังที่ชื่นชอบให้ได้ ด.ญ.ซาฟีโน ถ่ายรูปคู่กับ นายกมล บุญเทพ นักฟุตบอลทีมปัตตานี เอฟซี “วันนี้ชีวิตประจำวันรอฟังข่าว 2 อย่างคือ เรื่องแรกขอให้ไม่มีข่าวเหตุการณ์รุนแรงในพื้นที่ชายแดนภาคใต้โดยเฉพาะที่ปัตตานีบ้านเกิด และเรื่องที่สองคือ ฟังข่าวฟุตบอล ทั้งฟุตบอลในประเทศและต่างประเทศ จะฟังจากข่าวกีฬาทางโทรทัศน์ โดยแม่และน้าจะเป็นคนเปิดโทรทัศน์ในช่วงข่าวประจำวันให้ฟัง ส่วนช่วงเช้าและค่ำจะให้น้องสาวที่กลับจากโรงเรียนเปิดอินเตอร์เน็ตเพื่อดูเว็บไซต์กีฬา เพื่ออ่านความเคลื่อนไหวในโลกลุกหนังให้ฟังทุกวัน โดยชีวิตเป็นเช่นนี้ทุกวันตั้งแต่ปี 2551” ด.ญ.ซาฟีน่าเล่า ย้อนกลับไปเมื่อปี 2551 ด.ญ.ซาฟีนาบอกว่า บังเอิญตื่นมาตอนดึกและได้ฟังการแข่งขันฟุตบอลยูฟ่าแชมป์เปี้ยนส์ลีก รอบชิงชนะเลิศระหว่าง แมนฯยูในเต็ดพบกับเชลซี ซึ่งมีการถ่ายทอดทางโทรทัศน์ ความประทับใจครั้งนั้นได้กลายเป็นความชื่นชอบฟุตบอลมาจนถึงทุกวันนี้ ถึงฟุตบอลต่างประเทศเป็นแรงบันดาลใจให้เกิดความสุขในโลกของลูกหนังท่ามกลางการใช้ชีวิตในโลกมืด สิ่งนี้เป็นแรงจูงใจที่ทำให้เด็กสาวเริ่มเชียร์ฟุตบอลไทย โดยมี 3 ทีมที่ตามให้กำลังใจนั้นคือ บุรีรัมย์ ยูไนเต้ด, เอสซีจี เมืองทอง และปัตตานี เอฟซี ซึ่งเป็นสโมสรฟุตบอลบ้านเกิดของตัวเอง “ชอบบุรีรัมย์ เพราะได้ฟังข่าวทุกวัน ทำให้รู้ว่านี่เป็นสโมสรที่มีสนามที่ดีที่สุดในภูมิภาคนี้ และมีรูปแบบเชียร์ที่ดุดัน แถมมีนักฟุตบอลที่ชอบนั้นคือ ธีราทร บุญมาทัน แบ็คซ้ายที่ดีที่สุดของประเทศไทยในเวลานี้ ส่วนเมืองทองเหตุผลที่ชื่นชอบ เพราะนี่คือทีมฟุตบอลที่ไต่จากดิวิชั่นต่ำสุดจนถึงไทยลีกภายใน 3 ปี ทำทีมแบบมืออาชีพมากและตามเชียร์ตั้งแต่ยุคที่มี ซูมาโฮโร ยาย่า กระทั่งถึงวันนี้ โดยชอบ ธีรศิลป์ แดงดา ศูนย์หน้าดีกรีทีมชาติไทย มากที่สุด ส่วนอีกคนที่ชอบคือ มาริโอ รูยอฟกี” ส่วนทีมปัตตานี เอฟซี ตามเชียร์มา 3 ปีแล้วโดยฟังข่าวจากคนรอบข้าง และให้น้องสาวอ่านข่าวจากหนังสือพิมพ์ อินเทอรเน็ตให้ฟัง เคยพยายามเดินทางไปดูที่สนามหลายครั้ง เพราะอยากสัมผัสบรรยากาศการเชียร์ฟุตบอล รวมถึงอยากสัมผัสสนามเรนโบว์สเตเดี้ยม ว่าวกันว่าสวยไม่เป็นรองที่ใดในประเทศ แต่สภาพร่างกายไม่เอื้ออำนวย “ทุกวันนี้จะเจียดเงินซื้อหนังสือพิมพ์กีฬารวมถึงซื้อหนังสือฟุตบอลสยามสัปดาห์ละเล่ม ราคา 20 บาท โดยให้น้องสาวอ่านให้ฟังทุกครั้ง วันนี้หนังสือฟุตบอลกลายเป็นของสะสมเต็มบ้านแล้ว” ด.ญ.ซาฟีนา เล่าอีกว่า มีโอกาสตามฝันสำเร็จด้วยการเดินทางมาสนามฟุตบอลเรนโบว์ สเตเดี้ยมของปัตตานี เอฟซี ชมการแข่งขันระหว่างบุรีรัมย์ ยูไนเต้ด กับปัตตานี เมื่อไม่นานมานี้ และได้รับโอกาสพูดคุยกับนักฟุตบอลของบุรีรัมย์โดยเฉพาะนักแตะอย่าง “ธีราทร บุญมาทัน” แต่เสียดายไม่มีดโอกาสได้เห็นหน้าตานักเตะที่ชื่นชอบเท่านั้นเอง “แค่นี้มีความสุขแล้ว แม้ยังมองไม่เห็น แต่ได้ยินเสียงจากการพุดคุยทำให้เชื่อว่าเขาเป็นนักฟุตบอลนิสัยดีคนหนึ่ง ได้แต่หวังว่า วันหนึ่งคงได้มีโอกาสเห็นตัวจริง รวมทั้งผู้เล่น 11 คนของบุรีรัมย์” เหนือสิ่งอื่นใด...สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ ทรงรับ ด.ญ.ซาฟีนา ไว้เป็นคนไข้ในราชานุเคราะห์ โดยได้เดินทางไปรักษาดวงตาที่โรงพยาบาลศิริราชล่าสุดจักษุแพทย์ที่รักษาแจ้งข่าวดีว่าอาการมีทิศทางดีขึ้นหากถึงเวลาเหมาะสมจะได้รับการผ่าดัดรักษา ซึ่งจะมีโอกาสกลับมามองเห็นได้ตามปกติอีกครั้ง “สิ่งที่หนูฝันคือ การได้เห็นบ้านเกิดไม่มีคนเสียใจและร้องไห้จากความรุนแรง อีกอย่างคือ หนูจะได้ชมการแข่งขันฟุตบอลให้เต็มสองตาสักที เพราะเป็นกีฬาชนิดเดียวที่ทำให้หนูมีกำลังใจสู้ชีวิตในโลกมืดมาถึงทุกวันนี้” ด.ญ.ซาฟานีกล่าวถึงความฝัน นายประมุข ลมุล ผู้ว่าราชการจังหวัดปัตตานี ระบุว่า ตั้งแต่ทราบข่าวของ ด.ญ.ซาฟานี ได้เข้าไปดูแลอย่างใกล้ชิดโดยมอบหมายให้พัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์จังหวัดปัตตานี เข้ามาให้ความช่วยเหลือในเรื่องต่างๆ ส่วนเรื่องของความชื่นชอบฟุตบอลได้เตรียมพาเช้าชมการแข่งขันที่สนามเรนโบว์ สเตเดี้ยมในวันที่ปัตตานีลงแข่ง เป็นเจ้าบ้าน โดยเป็นแขกวีไอพีของผู้ว่าราชการจังหวัด สามารถเลือกที่นั่งใกล้แฟนบอล หรือใกล้ซุ้มผู้เล่น หรือที่นั่งวีไอพีตามใจชอบ นอกจากนี้มีข่าวดีที่แจ้งให้ ด.ญ.ซาฟานี ทราบคือ ประธานสโมสรบุรีรัมย์ ยูไนเต็ด เตรียมเชิญสาวน้อยคนนี้ไปที่สนามของทีมนักรบปราสาทสายฟ้า และสัมผัสกับผู้เล่นของทีมทุกคนในเร็วๆนี้ ส่วนสโมสรอื่นจะเตรียมประสานเพื่อช่วยเติมเต็มความฝันให้แก่เด็กหญิงคนนี้ให้สำเร็จให้ได้ ขณะเดียวกันจังหวัดปัตตานีได้เข้าไปสนับสนุนและดุแลในการจัดหาหนังสือและนิตยสารฟุตบอลส่งให้ถึงบ้านเจ้าตัวอย่างต่อเนื่องอีกด้วย “ผมเจอครั้งแรก ทึ่งในทักษะความสามารถของเด็กที่มองไม่เห็น แต่รู้ข้อมูลนักฟุตบอลอย่างละเอียดได้ลองภูมิรู้หลายครั้งและเจ้าตัวตอบได้อย่างละเอียดแม้กระทั้งผู้เล่นบุรีรัมย์ที่เดินทางมาแข่งที่ปัตตานี ได้พบกับ ด.ญ.ซาฟานี ยังตกอยู่ในอาการทึ่งเช่นเดียวกับผม” ผู้ว่าปัตตานีกล่าว ด้าน นายธานินทร์ สมบูรณ์สาร พัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์จังหวัดปัตตานี กล่าวว่า ได้เข้ามาดูแลและอำนวยความสะดวกในเรื่องต่างๆ โดยเฉพาะการใช้ชีวิตประจำวันที่ ด.ญ.ซาฟีนา มีความชื่นชอบกีฬาฟุตบอล เช่น อยากเดินทางไปดุการแข่งขันจังหวัดจะดำเนินการดูแล รวมถึงทำกิจกรรมอื่นๆ เช่นเดียวกับการเดินทางไปรักษาดวงตาที่โรงพยาบาลศิริราช จะมีเจ้าหน้าที่คอยดุแลใกล้ชิด ขณะที่ นายกมล บุญเทพ นักฟุตบอลทีมปัตตานี เอฟซี ซึ่งเป็นผู้เล่นขวัญใจของ ด.ญ.ซาฟานี กล่าวว่า รู้สึกประทับใจมากในทันทีที่ได้รู้จักกันที่สนามแข่งเพราะรู้ประวัติส่วนตัวของเราอย่างละเอียดยิบ และสนใจกีฬาฟุตบอลถึงขั้นบอกเทคนิคการเล่น รูปแบบเกมการแข่งขันเป็นอย่างดี ในโอกาสนี้จึงมอบเสื้อฟุตบอลที่ใช้ทำการแข่งขันพร้อมลายเซ็นให้เจ้าตัว เพื่อเป็นกำลังใจและขอให้สู้เพื่อกลับมามองเห็นให้ได้อีกครั้ง นี่เป็นเพียงส่วนหนึ่งของ “ด.ญ.ซาฟานี กูโน” เด็กสาวในโลกมืด...ทว่า “หัวใจเธอสว่างมาก” : สุพิชฌาย์ รัตนะ
จัดฟอร์แม็ตข้อความและมัลติมีเดีย
รายละเอียดการใส่ ลิงค์ รูปภาพ วิดีโอ เพลง (Soundcloud)