ซัดรัฐบาลไม่จริงใจลดอุบัติเหตุ...ทั้งที่มี ส.ส.ต้องตาบอดจากอุบัติเหตุบนท้องถนน
ที่กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) วันที่ 11 เม.ย. พล.ต.ท.ชัจจ์ กุลดิลก รมช.มหาด ไทย เป็นประธานเปิดศูนย์อำนวยการป้องกันและลดอุบัติเหตุทางถนน (ศปถ.) ช่วงเทศกาลสงกรานต์ปี 2556 เพื่อทำหน้าที่ประสานข้อมูลสถิติอุบัติเหตุทางถนนระดับพื้นที่ในแต่ละวัน ช่วงควบคุมเข้มข้นใน 7 วัน ระหว่างวันที่ 11-17 เม.ย.255
พล.ต.ท.ชัจจ์กล่าวว่า รัฐบาลให้ความสำคัญกับการลดอุบัติเหตุทางถนนโดยถือเป็นวาระแห่งชาติ และกำหนดเป็นนโยบายสำคัญที่ต้องดำเนินการอย่างเข้มข้นในทุกพื้นที่ โดยตั้งแต่มีการตั้งศูนย์อำนวยการดังกล่าว ทำให้สถิติผู้เสียชีวิตในช่วงเทศกาลสงกรานต์ลดลง โดยในปีที่ผ่านมามีผู้เสียชีวิต 320 ราย เมื่อเทียบกับ 10 ปีที่ผ่านมาที่ยังไม่ได้มีการจัดตั้งศูนย์ดังกล่าว มีผู้เสียชีวิตกว่า 600 ราย
"ได้มีการจัดโซนนิ่งจำกัดพื้นที่ในการเล่นน้ำสงกรานต์ รวมทั้งมีการบังคับใช้กฎหมายอย่างเข้มงวด โดยเชื่อว่าจากมาตรการที่เข้มงวดในปีนี้จะสามารถลดการเกิดอุบัติเหตุได้ โดยในการจัดโซนนิ่งพื้นที่เล่นน้ำสงกรานต์ท้องถิ่น กำนัน ผู้ใหญ่บ้านจะเป็นผู้กำหนดพื้นที่และจะเสนอให้ผู้ว่าฯ ออกมาตรการกำหนดเขตพื้นที่ต่างๆ อย่างไรก็ตาม จะไม่มีการคาดโทษจังหวัดที่มีผลการปฏิบัติงานไม่เป็นไปตามเป้าหมาย ที่กำหนดไว้ แต่จะขอความร่วมมือในการรณรงค์ป้องกันและลดอุบัติเหตุมากกว่า" รมช.มหาดไทยกล่าว
ที่รัฐสภา นายยุทธนา ยุพ ฤทธิ์ ส.ว.ยโสธร ในฐานะประ ธานคณะอนุกรรมาธิการตรวจสอบและติดตามการปฏิบัติงานด้านการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย ในคณะกรรมาธิการปกครอง วุฒิสภา พร้อม นพ. แท้จริง ศิริพานิช เลขาธิการมูลนิธิเมาไม่ขับ แถลงถึงผลการสัมมนาเชิงยุทธศาสตร์เพื่อแก้ไขปัญหาอุบัติภัย ลดการตายบนท้องถนน ว่า ข้อสรุปของการสัมมนาดังกล่าวมีข้อเสนอต่อรัฐบาลให้ 1.จัดงบประมาณจำนวน 2 หมื่นล้านบาท ซึ่งถือเป็น 10% มูลค่าความเสียหายทางเศรษฐกิจจากอุบัติเหตุทางถนนในประเทศที่เสียหาย ปีละ 2 แสนล้านบาท 2.กำหนดมาตรการป้องกันและลดอุบัติเหตุทางถนนต่อ เนื่องตลอดทั้งปี ไม่ใช่รณรงค์แค่ช่วง 7 วันอันตรายในช่วงเทศกาล 3.รัฐบาลต้องกำหนดยุทธศาสตร์เชิงรุก โดยนายกรัฐมนตรีต้องลงมากำกับเรื่องนี้ด้วยตนเอง และ4.หน่วยงานที่เกี่ยวข้องต้องจัดหลักสูตรการขับขี่บนท้องถนนให้ประชาชนอย่างถูกต้อง
นพ.แท้จริงกล่าวว่า ที่ผ่านมา รัฐบาลไม่เคยปรับปรุงมาตรการลดการตายบนท้องถนน ซึ่งช่วงเทศกาลจะมีการตายเท่าๆ กันในทุกปี และในปีนี้เชื่อว่าจะไม่ต่ำกว่า 300 ราย เนื่องจากรัฐบาลไม่ได้ให้ความสำคัญกับเรื่องนี้อย่างจริงจัง แต่กลับกันที่ผ่านมาก่อนหน้านี้ให้ความสำคัญกับเรื่องการกลัวไฟฟ้าจะ ดับ
"อยากถามว่ารัฐบาลให้ความสำคัญกับเรื่องไฟฟ้ามากกว่าการตายของคนไทยใช่หรือไม่ แม้ ที่ผ่านมาจะมี ส.ส.ต้องตาบอดจากการประสบอุบัติเหตุบนท้องถนน รัฐบาลก็ยังไม่สนใจ อีกทั้งขณะนี้องค์การสหประชาชาติ (ยูเอ็น) ได้จัดลำดับให้ไทยติดอันดับ 3 ของประเทศที่มีอุบัติเหตุมากที่สุดในโลก" ถามว่า ปภ.ตั้งเป้าไม่ให้มีการเสียชีวิตเกิน 320 ราย เลขาฯ เมาไม่ขับ กล่าวว่า ไม่เข้าใจว่าเหตุใดตั้งเป้าว่าห้ามเกิน 320 ราย ทำไมไม่ตั้งเป้าให้ต่ำกว่า 320 ราย
ขอบคุณ... http://www.ryt9.com/s/tpd/1628851
แสดงความคิดเห็น
รายละเอียดกระทู้
ที่กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) วันที่ 11 เม.ย. พล.ต.ท.ชัจจ์ กุลดิลก รมช.มหาด ไทย เป็นประธานเปิดศูนย์อำนวยการป้องกันและลดอุบัติเหตุทางถนน (ศปถ.) ช่วงเทศกาลสงกรานต์ปี 2556 เพื่อทำหน้าที่ประสานข้อมูลสถิติอุบัติเหตุทางถนนระดับพื้นที่ในแต่ละวัน ช่วงควบคุมเข้มข้นใน 7 วัน ระหว่างวันที่ 11-17 เม.ย.255 พล.ต.ท.ชัจจ์กล่าวว่า รัฐบาลให้ความสำคัญกับการลดอุบัติเหตุทางถนนโดยถือเป็นวาระแห่งชาติ และกำหนดเป็นนโยบายสำคัญที่ต้องดำเนินการอย่างเข้มข้นในทุกพื้นที่ โดยตั้งแต่มีการตั้งศูนย์อำนวยการดังกล่าว ทำให้สถิติผู้เสียชีวิตในช่วงเทศกาลสงกรานต์ลดลง โดยในปีที่ผ่านมามีผู้เสียชีวิต 320 ราย เมื่อเทียบกับ 10 ปีที่ผ่านมาที่ยังไม่ได้มีการจัดตั้งศูนย์ดังกล่าว มีผู้เสียชีวิตกว่า 600 ราย "ได้มีการจัดโซนนิ่งจำกัดพื้นที่ในการเล่นน้ำสงกรานต์ รวมทั้งมีการบังคับใช้กฎหมายอย่างเข้มงวด โดยเชื่อว่าจากมาตรการที่เข้มงวดในปีนี้จะสามารถลดการเกิดอุบัติเหตุได้ โดยในการจัดโซนนิ่งพื้นที่เล่นน้ำสงกรานต์ท้องถิ่น กำนัน ผู้ใหญ่บ้านจะเป็นผู้กำหนดพื้นที่และจะเสนอให้ผู้ว่าฯ ออกมาตรการกำหนดเขตพื้นที่ต่างๆ อย่างไรก็ตาม จะไม่มีการคาดโทษจังหวัดที่มีผลการปฏิบัติงานไม่เป็นไปตามเป้าหมาย ที่กำหนดไว้ แต่จะขอความร่วมมือในการรณรงค์ป้องกันและลดอุบัติเหตุมากกว่า" รมช.มหาดไทยกล่าว ที่รัฐสภา นายยุทธนา ยุพ ฤทธิ์ ส.ว.ยโสธร ในฐานะประ ธานคณะอนุกรรมาธิการตรวจสอบและติดตามการปฏิบัติงานด้านการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย ในคณะกรรมาธิการปกครอง วุฒิสภา พร้อม นพ. แท้จริง ศิริพานิช เลขาธิการมูลนิธิเมาไม่ขับ แถลงถึงผลการสัมมนาเชิงยุทธศาสตร์เพื่อแก้ไขปัญหาอุบัติภัย ลดการตายบนท้องถนน ว่า ข้อสรุปของการสัมมนาดังกล่าวมีข้อเสนอต่อรัฐบาลให้ 1.จัดงบประมาณจำนวน 2 หมื่นล้านบาท ซึ่งถือเป็น 10% มูลค่าความเสียหายทางเศรษฐกิจจากอุบัติเหตุทางถนนในประเทศที่เสียหาย ปีละ 2 แสนล้านบาท 2.กำหนดมาตรการป้องกันและลดอุบัติเหตุทางถนนต่อ เนื่องตลอดทั้งปี ไม่ใช่รณรงค์แค่ช่วง 7 วันอันตรายในช่วงเทศกาล 3.รัฐบาลต้องกำหนดยุทธศาสตร์เชิงรุก โดยนายกรัฐมนตรีต้องลงมากำกับเรื่องนี้ด้วยตนเอง และ4.หน่วยงานที่เกี่ยวข้องต้องจัดหลักสูตรการขับขี่บนท้องถนนให้ประชาชนอย่างถูกต้อง นพ.แท้จริงกล่าวว่า ที่ผ่านมา รัฐบาลไม่เคยปรับปรุงมาตรการลดการตายบนท้องถนน ซึ่งช่วงเทศกาลจะมีการตายเท่าๆ กันในทุกปี และในปีนี้เชื่อว่าจะไม่ต่ำกว่า 300 ราย เนื่องจากรัฐบาลไม่ได้ให้ความสำคัญกับเรื่องนี้อย่างจริงจัง แต่กลับกันที่ผ่านมาก่อนหน้านี้ให้ความสำคัญกับเรื่องการกลัวไฟฟ้าจะ ดับ "อยากถามว่ารัฐบาลให้ความสำคัญกับเรื่องไฟฟ้ามากกว่าการตายของคนไทยใช่หรือไม่ แม้ ที่ผ่านมาจะมี ส.ส.ต้องตาบอดจากการประสบอุบัติเหตุบนท้องถนน รัฐบาลก็ยังไม่สนใจ อีกทั้งขณะนี้องค์การสหประชาชาติ (ยูเอ็น) ได้จัดลำดับให้ไทยติดอันดับ 3 ของประเทศที่มีอุบัติเหตุมากที่สุดในโลก" ถามว่า ปภ.ตั้งเป้าไม่ให้มีการเสียชีวิตเกิน 320 ราย เลขาฯ เมาไม่ขับ กล่าวว่า ไม่เข้าใจว่าเหตุใดตั้งเป้าว่าห้ามเกิน 320 ราย ทำไมไม่ตั้งเป้าให้ต่ำกว่า 320 ราย ขอบคุณ... http://www.ryt9.com/s/tpd/1628851
จัดฟอร์แม็ตข้อความและมัลติมีเดีย
รายละเอียดการใส่ ลิงค์ รูปภาพ วิดีโอ เพลง (Soundcloud)