ซูฮก! นาวิกโยธินมะกัน แม้เสียขา 2 ข้างยังอยากกลับมารับใช้ชาติ

แสดงความคิดเห็น

มาร์ก แซมบอน นาวิกโยธินชาวอเมริกัน พิการขาทั้ง 2 ข้าง กำลังลงจากรถในการแข่งขัน ดาการ์แรลลี่ออฟโรด มาร์ก แซมบอน นาวิกโยธินชาวอเมริกัน แม้จะสูญเสียขาทั้ง 2 ข้างและแขน ไปในสงครามก็ยังไม่ท้อมุ่งเป้ากลับมารับใช้ชาติอีกครั้ง

สำหรับบางคน อุปสรรคทางร่างกายนั้นอาจจะกลายเป็นกำแพงที่กั้นขวางตัวเองจากเป้าหมายของชีวิต แต่สำหรับบางคนนั้นกลับเลือกที่จะมองข้ามมันไป และไม่ยอมให้ความพิการของตัวเองมาเป็นสิ่งที่ทำลายชีวิตและเป้าหมายของตัวเอง ดังเช่น นาวิกโยธินมาร์ค แซมมอน ที่แม้จะสูญเสียอวัยวะไปในสงครามแต่ก็ยังมุ่งมั่นที่จะได้กลับมาปฏิบัติหน้าที่รับใช้ชาติของเขาอีกครั้ง

เมื่อวันที่ 9 เมษายน เว็บไซต์ลอสแอนเจลิสไทมส์ ได้ถ่ายทอดเรื่องราวของเขาว่า มาร์คต้องเข้ารักษาตัวอยู่เป็นเวลานานถึง 2 ปีที่โรงพยาบาลในจังหวัดเฮลมันด์ ของอัฟกานิสถาน หลังจากที่เขาเหยียบเข้าบนกับดักระเบิด จนแรงระเบิดนั้นทำให้เขาต้องสูญเสียขาทั้ง 2 ข้าง และแขนอีก 1 ข้างไป ทว่ามาร์คซึ่งทำงานอยู่ในหน่วยทำลายล้างวัตถุระเบิดนั้น ได้ใช้ชีวิตอยู่กับความเป็นไปได้ที่จะได้รับบาดเจ็บสาหัสเช่นนี้มาตลอด นั่นทำให้เขาคิดอยู่เสมอว่าถ้ามีอะไรเกิดขึ้นกับเขา เขาจะไม่รู้สึกสมเพชตัวเองอย่างเด็ดขาด ดังนั้นจึงตัดสินใจที่จะลุกขึ้นสู้ใหม่อีกครั้งโดยไม่ยอมให้ความพิการมาทำลายชีวิตและจบอาชีพของเขาอย่างเด็ดขาด

หลังจากนั้น มาร์คก็ได้พิชิตยอดเขาคิลิมันจาโร ในแอฟริกา ด้วยแขนและขาเทียมของเขาเอง พร้อมทั้งถือป้ายชื่อของสหายนาวิกโยธินอีก 2 นายซึ่งเสียชีวิตจากระเบิดในสงครามขึ้นไปฝังไว้ยังยอดสูงสุด และตั้งใจว่าเขาจะต้องใช้ชีวิตอย่างเต็มที่ดังเช่นที่สหายของเขาปรารถนาให้เขาทำ

มาร์ก แซมบอน นาวิกโยธินชาวอเมริกัน ต่อมา มาร์คซึ่งเป็นสมาชิกของทีมจากองค์กร เรซ ทู รีโคเวอรี่ ของกลุ่มนายทหารที่บาดเจ็บ ก็ได้ทำหน้าที่เป็นผู้นำทางในการแข่งขัน ดาการ์แรลลี่ออฟโรด ในทวีปอเมริกาใต้ และยังได้ทำงานอยู่ในโครงการวีรบุรุษของลอสแอนเจลิส ที่คอยช่วยเหลือผู้บาดเจ็บรายอื่น ๆ ให้สามารถพิชิตภูเขาต่าง ๆ ได้ด้วยตัวเอง เช่น ภูเขาบาลดี ซึ่งอยู่ทางตะวันออกของลอสแอนเจลิส เป็นต้น โดยมาร์คได้กล่าวไว้ว่า การปีนเขานั้นเป็นสิ่งที่สมบูรณ์แบบสำหรับผู้ชายแบบเขาซึ่งจะช่วยฟื้นความสามารถของร่างกายให้กลับมาได้ทั้งหมด

และตลอดเวลา มาร์คก็ไม่เคยหวั่นไหวในเป้าหมายของเขา ที่จะได้กลับไปปฏิบัติหน้าที่อีกครั้ง ในตอนที่มาร์คมีอายุ 28 ปี เขาก็ปฏิเสธที่จะเกษียณอายุด้วยเหตุผลด้านสภาพร่างกายและความพิการของตัวเอง แต่เขากลับเลือกที่จะเข้าร่วมหลักสูตร8สัปดาห์ที่แคมป์เพนเดลตันเพื่อจะได้มีสิทธิ์เลื่อนขั้นเป็นจ่าสิบตรีแทน

ทั้งนี้ สำหรับเป้าหมายต่อไปของมาร์คคือการได้เป็นครูสอนทหารในโรงเรียนหน่วยทำลาย ล้างวัตถุระเบิด ที่ฐานทัพอากาศเอ็กลิน ในรัฐฟลอริด้า สหรัฐฯ แม้ว่าที่นั่นจะมีผู้ฝึกสอนคนอื่น ๆ ที่ได้รับบาดเจ็บจากสงครามแล้วก็ตามแต่มาร์คก็ยังอยากจะเป็นผู้ฝึกสอนคนแรกในโรงเรียนแห่งนั้นที่พิการขาทั้ง2ข้าง

โดยมาร์คก็ได้เผยความรู้สึกต่อเป้าหมายนี้ของเขาว่า "ผมได้เรียนรู้บทเรียนมากมาย ซึ่งผมคิดว่าผมสามารถส่งต่อบทเรียนที่ผมเรียนรู้มาบนหนทางแห่งความลำบากนี้ ต่อไปยังคนอื่น ๆ ได้"

ขอบคุณ... http://hilight.kapook.com/view/84555 (ขนาดไฟล์: 175)

ที่มา: กระปุกดอทคอม/มูลนิธิพัฒนาคนพิการไทย 11 เม.ย.56
วันที่โพสต์: 12/04/2556 เวลา 02:53:17 ดูภาพสไลด์โชว์ ซูฮก! นาวิกโยธินมะกัน แม้เสียขา 2 ข้างยังอยากกลับมารับใช้ชาติ

แสดงความคิดเห็น

รอตรวจสอบ
จัดฟอร์แม็ต ดูการแสดงผล

รอตรวจสอบ

รอตรวจสอบ

รอตรวจสอบ

ยกเลิก

รายละเอียดกระทู้

มาร์ก แซมบอน นาวิกโยธินชาวอเมริกัน พิการขาทั้ง 2 ข้าง กำลังลงจากรถในการแข่งขัน ดาการ์แรลลี่ออฟโรด มาร์ก แซมบอน นาวิกโยธินชาวอเมริกัน แม้จะสูญเสียขาทั้ง 2 ข้างและแขน ไปในสงครามก็ยังไม่ท้อมุ่งเป้ากลับมารับใช้ชาติอีกครั้ง สำหรับบางคน อุปสรรคทางร่างกายนั้นอาจจะกลายเป็นกำแพงที่กั้นขวางตัวเองจากเป้าหมายของชีวิต แต่สำหรับบางคนนั้นกลับเลือกที่จะมองข้ามมันไป และไม่ยอมให้ความพิการของตัวเองมาเป็นสิ่งที่ทำลายชีวิตและเป้าหมายของตัวเอง ดังเช่น นาวิกโยธินมาร์ค แซมมอน ที่แม้จะสูญเสียอวัยวะไปในสงครามแต่ก็ยังมุ่งมั่นที่จะได้กลับมาปฏิบัติหน้าที่รับใช้ชาติของเขาอีกครั้ง เมื่อวันที่ 9 เมษายน เว็บไซต์ลอสแอนเจลิสไทมส์ ได้ถ่ายทอดเรื่องราวของเขาว่า มาร์คต้องเข้ารักษาตัวอยู่เป็นเวลานานถึง 2 ปีที่โรงพยาบาลในจังหวัดเฮลมันด์ ของอัฟกานิสถาน หลังจากที่เขาเหยียบเข้าบนกับดักระเบิด จนแรงระเบิดนั้นทำให้เขาต้องสูญเสียขาทั้ง 2 ข้าง และแขนอีก 1 ข้างไป ทว่ามาร์คซึ่งทำงานอยู่ในหน่วยทำลายล้างวัตถุระเบิดนั้น ได้ใช้ชีวิตอยู่กับความเป็นไปได้ที่จะได้รับบาดเจ็บสาหัสเช่นนี้มาตลอด นั่นทำให้เขาคิดอยู่เสมอว่าถ้ามีอะไรเกิดขึ้นกับเขา เขาจะไม่รู้สึกสมเพชตัวเองอย่างเด็ดขาด ดังนั้นจึงตัดสินใจที่จะลุกขึ้นสู้ใหม่อีกครั้งโดยไม่ยอมให้ความพิการมาทำลายชีวิตและจบอาชีพของเขาอย่างเด็ดขาด หลังจากนั้น มาร์คก็ได้พิชิตยอดเขาคิลิมันจาโร ในแอฟริกา ด้วยแขนและขาเทียมของเขาเอง พร้อมทั้งถือป้ายชื่อของสหายนาวิกโยธินอีก 2 นายซึ่งเสียชีวิตจากระเบิดในสงครามขึ้นไปฝังไว้ยังยอดสูงสุด และตั้งใจว่าเขาจะต้องใช้ชีวิตอย่างเต็มที่ดังเช่นที่สหายของเขาปรารถนาให้เขาทำ มาร์ก แซมบอน นาวิกโยธินชาวอเมริกัน ต่อมา มาร์คซึ่งเป็นสมาชิกของทีมจากองค์กร เรซ ทู รีโคเวอรี่ ของกลุ่มนายทหารที่บาดเจ็บ ก็ได้ทำหน้าที่เป็นผู้นำทางในการแข่งขัน ดาการ์แรลลี่ออฟโรด ในทวีปอเมริกาใต้ และยังได้ทำงานอยู่ในโครงการวีรบุรุษของลอสแอนเจลิส ที่คอยช่วยเหลือผู้บาดเจ็บรายอื่น ๆ ให้สามารถพิชิตภูเขาต่าง ๆ ได้ด้วยตัวเอง เช่น ภูเขาบาลดี ซึ่งอยู่ทางตะวันออกของลอสแอนเจลิส เป็นต้น โดยมาร์คได้กล่าวไว้ว่า การปีนเขานั้นเป็นสิ่งที่สมบูรณ์แบบสำหรับผู้ชายแบบเขาซึ่งจะช่วยฟื้นความสามารถของร่างกายให้กลับมาได้ทั้งหมด และตลอดเวลา มาร์คก็ไม่เคยหวั่นไหวในเป้าหมายของเขา ที่จะได้กลับไปปฏิบัติหน้าที่อีกครั้ง ในตอนที่มาร์คมีอายุ 28 ปี เขาก็ปฏิเสธที่จะเกษียณอายุด้วยเหตุผลด้านสภาพร่างกายและความพิการของตัวเอง แต่เขากลับเลือกที่จะเข้าร่วมหลักสูตร8สัปดาห์ที่แคมป์เพนเดลตันเพื่อจะได้มีสิทธิ์เลื่อนขั้นเป็นจ่าสิบตรีแทน ทั้งนี้ สำหรับเป้าหมายต่อไปของมาร์คคือการได้เป็นครูสอนทหารในโรงเรียนหน่วยทำลาย ล้างวัตถุระเบิด ที่ฐานทัพอากาศเอ็กลิน ในรัฐฟลอริด้า สหรัฐฯ แม้ว่าที่นั่นจะมีผู้ฝึกสอนคนอื่น ๆ ที่ได้รับบาดเจ็บจากสงครามแล้วก็ตามแต่มาร์คก็ยังอยากจะเป็นผู้ฝึกสอนคนแรกในโรงเรียนแห่งนั้นที่พิการขาทั้ง2ข้าง โดยมาร์คก็ได้เผยความรู้สึกต่อเป้าหมายนี้ของเขาว่า "ผมได้เรียนรู้บทเรียนมากมาย ซึ่งผมคิดว่าผมสามารถส่งต่อบทเรียนที่ผมเรียนรู้มาบนหนทางแห่งความลำบากนี้ ต่อไปยังคนอื่น ๆ ได้" ขอบคุณ... http://hilight.kapook.com/view/84555

จัดฟอร์แม็ตข้อความและมัลติมีเดีย

  1. เพิ่ม
  2. เพิ่ม ลบ
  3. เพิ่ม ลบ
  4. เพิ่ม ลบ
  5. เพิ่ม ลบ
  6. เพิ่ม ลบ
  7. เพิ่ม ลบ
  8. เพิ่ม ลบ
  9. เพิ่ม ลบ
  10. ลบ
เลือกการตกแต่งที่ต้องการ

ตกลง ยกเลิก

รายละเอียดการใส่ ลิงค์ รูปภาพ วิดีโอ เพลง (Soundcloud)

Waiting...