พบรักผ่านโซเชียล หนุ่มเปิดใจ จีบสาวพิการ ถูกลองใจ เหนื่อยแต่มีความสุข
หนุ่ม เปิดใจ พบรักผ่านโซเชียล รู้แต่แรกว่า สาวพิการ แต่อยากดูแลตลอดชีวิต เล่าวินาทีเดินหน้าจีบ โดนลองใจก่อนผ่านบทพิสูจน์ เผย เหนื่อยแต่มีความสุข
เมื่อเวลา 11.00 น. วันที่ 25 ม.ค.2567 นายธาราวุธ พูลวงษ์ หรือ อู๊ด แฟนหนุ่ม เปิดเผยกับ ‘ข่าวสดออนไลน์’ กรณีคลิปที่เป็นกระแสในโลกออนไลน์ที่เผยเรื่องราวความรักกับสาวพิการ แต่มีความสุข ว่า ตนรู้จักแฟนคนนี้จากโลกโซเชียล ตนก็เล่นโซเชียลเล่นติ๊กต็อกตามปกติทั่วไป ดูคลิปไปเรื่อย ๆ
นายธาราวุธ กล่าวต่อว่า กระทั่งไปเจอคลิปของน้องเขาที่ช่วยกันทำกายภาพกับคุณยายอยู่ แล้วตนเห็นถึงความตั้งใจ สายตาของคนที่ยอมแพ้ ในตอนแรกตนก็ส่งข้อความไปเพื่อให้กำลังใจว่า บอกว่า “สู้สู้”
นายธาราวุธ กล่าวอีกว่า จากนั้นก็เข้าไปดูคลิปของน้องเรื่อย ๆ แล้วก็ส่งข้อความให้กำลังใจอยู่ตลอด หลัง ๆ มาเริ่มถามเรื่องสุขภาพอยู่บ่อย ๆ หลังจากคุยกันมา 4-5 เดือน ตนก็เริ่มมีความสนใจผู้หญิงคนนี้มากขึ้น โดยลืมเรื่องราวที่ว่าเขาเคยเป็นคนเดินได้ปกติ และมาพิการ ตนลืมตรงนี้ไปเลย แค่อยากทำความรู้จัก อยากเรียนรู้ อยากใช้ชีวิตร่วมกันก็เลยเริ่มจีบเขาจริงจัง
นายธาราวุธ กล่าวว่า ตนถามเขาว่าเขามีแฟนหรือยัง เขาก็บอกว่าพิการแบบนี้ใครจะมาเอา และบอกว่าไม่มีแฟน ตนก็เลยเดินหน้าจีบจริงจัง เขาก็ตกใจที่ตนที่เป็นคนปกติธรรมดาทั่วไปจะไปจีบคนพิการที่เป็นภาระ ซึ่งเขาก็บอกว่าตัวจริงของเขาเป็นมากกว่าในโลกโซเชียลที่เห็น ถ้าเกิดว่าไปเจอตัวจริงอาจจะไม่ได้คิดแบบนี้แล้วก็ได้
นายธาราวุธ กล่าวด้วยว่า จากนั้นจึงนัดเจอกัน ตนเดินทางกลับบ้านที่ จ.มหาสารคามก่อน เพื่อไปบอกแม่และญาติ ๆ ที่บ้านว่าจะไปหาผู้หญิงคนนี้ ซึ่งน้องเขาเป็นคนพิการตนก็บอกไปตรง ๆ ตอนแรกที่บ้านก็ตกใจมาก คิดว่าตนพูดเล่น แต่ตนก็ยืนยันว่าเป็นเรื่องจริง
นายธาราวุธ กล่าวว่า วันต่อมาตนก็เดินทางไปหาน้องเขาที่ จ.อุบลราชธานี เจอกันครั้งแรกเขาก็ลองใจตนอยู่หลายอย่าง ซึ่งพอไปเจอตัวจริงน้องเขาไม่สามารถช่วยเหลือตัวเองได้เลยสักอย่าง แม้กระทั่งอาบน้ำ เข้าห้องน้ำ มันหนักกว่าที่คิดไว้
นายธาราวุธ กล่าวต่อว่า แต่ตอนนั้นตนก็คิดว่ารักเขา และลืมเรื่องทั้งหมดที่เขาพิการไปเลย ในใจคิดแค่ว่าอยากช่วยอยากอยู่ข้าง ๆ อยากใช้ชีวิตกับเขา อยากสู้ไปกับเขา เพราะเขาเจอเรื่องแบบนี้มา ถ้าตนคงท้อมากแล้ว ในใจมีแต่ความรู้สึกแบบนี้เต็มไปหมด อยากใช้ชีวิตร่วมกับผู้หญิงคนนี้จังอะไรแบบนี้
นายธาราวุธ กล่าวอีกว่า หลังจากเจอกันครั้งแรก เขาก็พาเดินสายไปทำบุญกับกลุ่มคนที่พิการเหมือนกัน เพื่อลองใจ และแม่ของน้องเขาก็ลองให้ตนดูแลน้องเขาจริง ๆ ซึ่งถ้าตนทำได้แม่ก็จะให้ดูแลแล้วก็ใช้ชีวิตร่วมกันได้ ตนก็ได้ลองทำทุกอย่าง ตอนแรก ๆ ก็ทั้งตื่นเต้นและกลัว แต่ก็ตอบตกลงไปแล้ว
“วันแรกที่เขาปล่อยให้ผมดูแลน้องเขา ก็มีติดขัดบ้างแต่ก็ผ่านไปได้ด้วยดี ถึงจะมีเขิน ๆ กันอยู่บ้าง แล้วตนก็กลับมาบ้านที่สารคาม บอกให้ทางแม่ผม ครอบครัวผมไปสู่ขอผู้หญิงคนนี้ให้ เพื่อเป็นการยืนยันว่าผมจริงจัง และจริงใจกับผู้หญิงคนนี้ ทางครอบครัวก็ได้ไปสู่ขอให้” นายธาราวุธ กล่าว
นายธาราวุธ กล่าวว่า ตอนนี้ตนก็มาลาออกจากงานที่กรุงเทพฯ แล้วกลับไปใช้ชีวิตอยู่ด้วยกัน ตอนนี้ผ่านมาประมาณ 6 เดือนแล้ว ตนย้ายมาอยู่ที่นี่เพื่อมาหางานทำและอยู่ใกล้ ๆ เขาเพื่อดูแลเขา ซึ่งพอมาอยู่จริง ๆ ถามว่ามันลำบากไหม มันก็มีช่วงเวลาที่ลำบาก แต่ตนมีความสุขที่ได้ช่วยเหลือเขา เพราะว่าโอกาสที่เขาจะกลับมาเดินได้แทบเป็นศูนย์อยู่แล้ว
นายธาราวุธ กล่าวด้วยว่า ช่วง 2 เดือนแรกทางแม่ตนก็โทรมาถามอยู่ว่าไหวหรือเปล่า ไปรอดไหม แต่ตนก็บอกว่าไม่มีอะไร มีความสุขดี ที่ตนได้ทำกับข้าว ได้ซักผ้าทำนู่นทำนี่ให้เขา ทำกิจวัตรประจำวันด้วยกัน มีรอยยิ้มมีเสียงหัวเราะด้วยกันทุกวัน
นายธาราวุธ กล่าวอีกว่า จนตนลืมไปเลยว่าตนลำบากหรือเหนื่อย พอเห็นเขามีรอยยิ้มหัวเราะไปด้วยกัน มันยิ่งเหมือนว่า 1 วันมันสั้นลงไปเรื่อย ๆ มันมีความสุขด้วยกันทุกวัน
ขอบคุณ... https://www.khaosod.co.th/special-stories/news_8066913