‘วราวุธ’รุดช่วยชายพิการโยกสามล้อเข้ากรุง แจงเกณฑ์รับเบี้ย ตัวอยู่ที่ไหน ต้องขึ้นทะเบียนที่นั่น
“วราวุธ” รุดช่วยเหลือ ชายพิการโยกสามล้อสุโขทัยเข้ากรุง แจงการรับเบี้ยผู้พิการเป็นเกณฑ์ท้องถิ่น ตัวอยู่ที่ไหน ต้องขึ้นทะเบียนที่นั่น ไม่เกี่ยวรายชื่อตามทะเบียนบ้าน
เมื่อวันที่ 5 ก.พ. ที่กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (พม.) นายวราวุธ ศิลปอาชา รมว.พม. ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีที่หนุ่มพิการโยกรถสามล้อจากจังหวัดสุโขทัย ไปที่กรมบัญชีกลาง กรุงเทพมหานคร เพื่อยืนยันตัวตนขอสิทธิรับเบี้ยความพิการ ว่า กระทรวง พม. โดยกรมส่งเสริมและพัฒนาคุณภาพชีวิตคนพิการ (พก.) ได้เร่งตรวจสอบ ซึ่งขณะนี้พบตัวบุคคลดังกล่าวแล้ว และเชิญไปอยู่ที่สำนักงานพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์จังหวัด (พมจ.) พระนครศรีอยุธยา เพื่อพูดคุยและตรวจสอบข้อเท็จจริงเกี่ยวกับเรื่องดังกล่าว เบื้องต้นทราบว่าชายคนดังกล่าว ไม่ได้อยู่ในภูมิลำเนาจังหวัดสุโขทัย มานานกว่า 2 ปีแล้ว ทำให้ถูกถอดออกจากบัญชีคนพิการของจังหวัดสุโขทัย ซึ่งทางกรมส่งเสริมและพัฒนาคุณภาพชีวิตคนพิการ ได้เข้าไปตรวจสอบและดูว่าจะสามารถแก้ไขปัญหาให้กับบุคคลดังกล่าวได้อย่างไรบ้าง
เมื่อถามว่า กรณีผู้พิการหากมีการย้ายไปอยู่จังหวัดอื่นที่ไม่ใช่จังหวัดภูมิลำเนาตามทะเบียนบ้าน จำเป็นต้องไปขึ้นทะเบียนกับจังหวัดที่ไปอยู่ทุกที่เลยหรือไม่ นายวราวุธ กล่าวว่า ต้องไปขึ้นทะเบียนกับจังหวัดนั้นๆ เพราะเท่าที่ทราบมาว่า การที่จะได้งบสนับสนุนเบี้ยผู้พิการนั้น ทางท้องถิ่นจะเป็นคนจ่าย หากไม่ได้ขึ้นทะเบียนกับท้องถิ่นไหน ก็จะไม่ได้เบี้ยผู้พิการ เพราะว่าไม่ได้จัดงบฯ ให้ นี่เป็นกลไกของกระทรวงมหาดไทย สมมุติว่าเป็นผู้พิการที่มีชื่อในทะเบียนบ้านจังหวัดสุโขทัย แต่ตัวมาอยู่ที่กรุงเทพฯ ก็ต้องมาขึ้นทะเบียนผู้พิการที่กรุงเทพฯ
“ทราบมาว่า ชายตามที่เป็นข่าวนี้ หายไปจากภูมิลำเนาประมาณ 2 ปีแล้ว ไม่ได้มีการติดต่ออะไร ทำให้ถูกถอดออกจากทะเบียนคนพิการของศรีสัชนาลัย จังหวัดสุโขทัย แต่ไปอยู่ที่ไหนก็ยังไม่มีใครรู้ กำลังมีการตรวจสอบอยู่” รมว.พม. กล่าวและว่า หากมีการตรวจสอบ รายงานตัวแล้ว ในช่วง 2 ปีที่หายไปนั้น จะได้เบี้ยผู้พิการย้อนหลังหรือไม่นั้นตนไม่แน่ใจ ต้องไปดูในรายละเอียดของท้องถิ่นว่าทำได้หรือไม่ เพราะกลไกการเบิกจ่ายเบี้ยผู้พิการนั้น พม. ไม่ได้เป็นผู้ดูแล พม. เพียงแต่ดูแลเรื่องสวัสดิภาพ
เมื่อถามว่า ตามกระบวนการรายงานตัวผู้พิการใหม่ จำเป็นต้องไปรายงานตัวที่กรมบัญชีกลางเลยหรือไม่ นายวราวุธ กล่าวว่า อันนี้ยังไม่ทราบว่า ในกรณีนี้เกิดอะไรขึ้น ต้องขอดูรายละเอียดเพิ่มเติมก่อน เพราะก็มีความเป็นไปได้ว่า การที่เขาไม่ได้อยู่ในภูมิลำเนา แล้วถูกถอดออกจากทะเบียนผู้พิการในพื้นที่นั้นแล้ว ทำให้รายชื่อมาอยู่ในทะเบียนกลาง ก็ต้องมารายงานตัวกับส่วนกลาง อย่างไรก็ตาม ตนได้ให้กรมส่งเสริมและพัฒนาคุณภาพชีวิตคนพิการเร่งตรวจสอบว่าจะสามารถเข้าไปแก้ไขปัญหาอย่างไรได้บ้าง
นายวราวุธ กล่าวว่า อย่างไรก็ตาม ตนขอฝากถึงคนพิการทั่วประเทศว่า หากมีปัญหา หรือข้อสงสัยเกี่ยวกับเรื่องการลงทะเบียน การรักษาสิทธิ หรือเงินสนับสนุนของตนเองนั้น ยังไม่ต้องรีบเดินทางเข้ามาที่กรุงเทพมหานคร ขอให้โทรศัพท์มาที่ศูนย์เร่งรัดจัดการสวัสดิภาพประชาชน (ศรส.) สายด่วน 1300 ของกระทรวง พม. และทาง ศรส. จะดำเนินการช่วยประสานงานและหาข้อมูลให้ เพื่อที่จะได้ประหยัดเวลา และประหยัดแรงของพี่น้องคนพิการทุกคน