กัญจนา นำทีมศรส.รุดช่วย ยายร่างกายผิดรูป คล้ายคนคอหัก คาดได้บัตรผู้พิการ-รับเบี้ยเพิ่ม
‘กัญจนา’ นำทีม ศรส. รุดช่วย ยายร่างกายผิดรูป คล้ายคนคอหัก คาด ได้บัตรผู้พิการ-รับเบี้ยเพิ่ม
เมื่อวันที่ 27 กุมภาพันธ์ น.ส.กัญจนา ศิลปอาชา ที่ปรึกษาคณะที่ปรึกษาติดตามและเร่งรัดการขับเคลื่อนนโยบายรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ ในฐานะที่ปรึกษาศูนย์เร่งรัดจัดการสวัสดิภาพประชาชน (ศรส.) ลงพื้นที่ชุมชนวัดมะกอกกลางสวน เขตพญาไท กรุงเทพฯ (บริเวณอนุเสาวรีย์ชัยสมรภูมิ ใกล้ซอยพหลโยธิน 1) เพื่อเยี่ยมให้ความช่วยเหลือคุณยายร่างกายผิดรูป เดินคล้ายคนคอหัก พร้อมครอบครัว โดยมี นางจตุพร โรจนพานิช อธิบดีกรมพัฒนาสังคมและสวัสดิการ (พส.) น.ส.แรมรุ้ง วรวัธ อธิบดีกรมกิจการผู้สูงอายุ (ผส.) เจ้าหน้าที่หน่วยปฏิบัติการเคลื่อนที่เร็ว ศรส. ศูนย์คุ้มครองคนไร้ที่พึ่งกรุงเทพมหานคร ศูนย์พัฒนาการจัดสวัสดิการสังคมผู้สูงอายุบ้านบางแค และกรมส่งเสริมและพัฒนาคุณภาพชีวิตคนพิการ รวมทั้งสำนักอนามัย กรุงเทพมหานคร ร่วมลงพื้นที่ช่วยเหลือ
น.ส.กัญจนา กล่าวว่า สืบเนื่องจากที่คุณป้าอย่างที่ทราบว่ามีอาชีพเก็บของเก่าแล้วเกิดเป็นลม ซึ่งเมื่อวานนี้ทางเจ้าหน้าที่กระทรวง พม. ได้ลงพื้นที่มาดูแลในเบื้องต้น และในวันนี้ ตนได้มาลงพื้นที่เพื่อดูแลและให้กำลังใจครอบครัว โดยคุณป้าอายุ 69 ปี มีอาการของโรคพาร์กินสัน และศีรษะพับลง คล้ายคนคอหัก ซึ่งขณะนี้ มีรายได้เพียงเบี้ยยังชีพผู้สูงอายุเดือนละ 600 บาท และจากที่เจ้าหน้าที่สาธารณสุขได้เข้ามาประเมินด้วยสายตาน่าจะเข้าข่ายความพิการ และอาจจะได้เบี้ยความพิการ เดือนละ 800 บาท รวมทั้งคนอื่นๆ ในครอบครัว ที่สามีได้เบี้ยยังชีพผู้สูงอายุเดือนละ 700 บาท ส่วนลูกสาวอายุ 44 ปี ต้องรอดูอีกทีว่ามีอาการเข้าข่ายความพิการ ซึ่งจะต้องให้แพทย์ประเมิน โดยครอบครัวนี้มีรายได้จากชีพขายข้าวโพดปิ้งและเก็บของเก่า
น.ส.กัญจนา กล่าวว่า มาวันนี้เพื่อติดตามความช่วยเหลือทั้งหมด อย่างแรกที่จะได้เพิ่มคือ เบี้ยความพิการ และเงินสงเคราะห์ครอบครัวผู้ยากไร้ รวมถึงเงินสงเคราะห์ผู้สูงอายุและเด็ก อีกทั้งช่วยเรื่องการศึกษาของหลานที่กำลังเรียนอยู่มัธยมศึกษาปีที่ 3 และเป็นเด็กเรียนดี ซึ่งเราต้องมาดูว่ามีทุนการศึกษา อะไรบ้างที่มาสนับสนุนการเรียนของน้อง แต่สิ่งหนึ่งที่คุณยายสัญญาไว้คือจะไม่ออกจากบ้านอีก เนื่องจากสภาพร่างกายเป็นอันตราย ถ้าเกิดออกไปเดินคนเดียวและเกิดอุบัติเหตุ จะไม่คุ้ม จึงขอสามีและภรรยาอีกคนได้ขายข้าวโพดปิ้งแทน และลูกสาวไปเก็บของเก่า และจะมีเงินสงเคราะห์ในด้านต่างๆ มาช่วยเหลือครอบครัวนี้
“สำหรับเคสนี้เป็นครอบครัวที่ตกสำรวจหรือไม่นั้น คุณยายมีอาการป่วยตั้งแต่ปี 2561 และติดเตียง ซึ่งต้องยอมรับว่าบางคนอยู่ในซอกมุมต่างๆ ของประเทศ จึงยากที่จะได้รับรู้ทั้งหมด ถ้ามองโอกาสในวิกฤตทำให้เราได้รู้ว่ายังมีบางคนที่เข้าข่ายความพิการ ซึ่งกระทรวง พม. มีการสำรวจอยู่อย่างต่อเนื่อง นอกจากเรามีศูนย์ที่รับจดทะเบียนคนพิการแล้ว ยังมีการเข้าถึงบ้าน หรือหน่วยเคลื่อนที่เร็ว เพื่อให้คนพิการทุกคนได้รับการจดทะเบียน เพื่อจะได้รับสิทธิคนพิการอย่างเต็มที่ ไม่ได้อยู่เพียงแค่สถานที่กระทรวงหรือที่กรม แต่จะมีหน่วยเคลื่อนที่ ที่เข้าไปสู่บ้านเรือนประชาชน เพื่อสำรวจว่ามีคนพิการตกค้างตรงไหนบ้างที่ยังไม่ได้ได้รับสิทธิ ซึ่งกระทรวง พม.ทำอยู่ต่อเนื่อง หรือหากประชาชนท่านใดทราบว่าเพื่อนบ้านตัวเอง หรือคนที่รู้จักเข้าข่ายได้รับเบี้ยความพิการ ขอให้แจ้งมาที่ศูนย์เร่งรัดจัดการสวัสดิภาพประชาชน (ศรส.) หรือโทรสายด่วน พม. 1300 ตลอด 24 ชั่วโมง ซึ่งหน่วยเคลื่อนที่เร็วจะดำเนินการโดยเร็ว เพื่อให้คนพิการทุกคนได้รับสิทธิที่ควรได้รับ” น.ส.กัญจนากล่าว
ขอบคุณ... https://www.matichon.co.th/news-monitor/news_4444441