สั่งปิดศูนย์รับเลี้ยงเด็กออทิสติกแล้ว ชี้จดทะเบียนไม่ถูกต้อง ไร้สุขลักษณะ
สั่งปิดศูนย์รับเลี้ยงเด็กออทิสติกชั่วคราว ชี้จดทะเบียนไม่ถูกต้อง ไร้สุขลักษณะ พร้อมนำ 7 คนไปบ้านพักเด็ก ผู้ว่าสั่งดำเนินการตามกฎหมาย
จากกรณีที่นายกัณฐัศว์ พงศ์ไพบูลย์เวชย์ หรือ กัน จอมพลัง พร้อมเจ้าหน้าที่บ้านพักเด็กและครอบครัวจังหวัดนนทบุรี เจ้าหน้าที่พัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์(พม.)จังหวัดนนทบุรี พร้อมเจ้าหน้าที่ตำรวจสภ.ไทรน้อย ลงพื้นที่บริเวณสถานรับเลี้ยงเด็ก “ศูนย์พัฒนา บุคคลออทิสติก ประเทศไทย สาขานนทบุรี (บ้านสานรัก)” ภายในหมู่บ้านชื่อดัง ย่านต.ไทรน้อย อ.ไทรน้อย จ.นนทบุรี หลังจากได้รับการร้องเรียนจากพลเมืองดีว่ามีการนำเด็กพิการ นับ 10 คน ขังไว้ในห้องเปล่า ไม่มีแอร์ ไม่มีพัดลม ไม่มีที่นอน ไม่มีหมอน บางคนถูกแก้ผ้าขังรวมไว้ในห้องให้เพื่อนดู มีการทำร้ายร่างกาย ตบหัว ดึงหู ให้เด็กอดน้ำ จนเด็กหิวต้องกินน้ำในห้องน้ำแทน นั้น
ล่าสุดเมื่อเวลา 13.00 น. วันที่ 26 กุมภาพันธ์ ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายปริญ นิทัศน์เอก นายอำเภอไทรน้อย นางวาริน สุนทร หัวหน้าบ้านพักเด็กและครอบครัวจังหวัดนนทบุรี นายเกียรติคุณ ต้นยาง หรือทนายโป้ง สส.พรรคก้าวไกล เขต 7 จ.นนทบุรี ลงพื้นที่เข้าช่วยเหลือเด็กทั้ง 7 คน นำออกจากศูนย์ฯดังกล่าว และเดินทางไปที่บ้านพักเด็กจังหวัดนนทบุรี เพื่อรอการติดต่อจากผู้ปกครองมารับกลับไปดูแล โดยจากการสอบถามผู้ดูแลศูนย์ดังกล่าว ปฏิเสธให้สัมภาษณ์ แจ้งว่าไม่ได้ทำผิดกฎหมายและทำไม่ได้ทำร้ายเด็ก
นายตุ๊ก (นามสมมุติ) ผู้ปกครองที่เคยนำลูกมาฝากเลี้ยงเมื่อสามปีที่แล้ว กล่าวว่า ตนนำลูกมาฝากเลี้ยงไว้ที่นี่เมื่อ 3 ปีที่แล้ว เรียนที่นี่ประมาณ 8 เดือน มีค่าใช้จ่ายเดือนละ 18,000 บาท กินนอนอยู่ที่นี่ รับกลับทุกศุกร์-อาทิตย์ ลูกของตนเป็นเด็กพิเศษอาจจะพูดอะไรมากไม่ได้ในการสื่อสาร แต่ที่เคยมาเรียนที่นี่จะมีบาดแผลกลับมาบ้าง ตนเห็นแล้วก็ไม่สบายใจเพราะตนจำเป็นต้องพาลูกมาเรียนที่นี่เพื่อปรับพฤติกรรม แต่เราไม่รู้ว่าจะเป็นขนาดนี้พอเห็นข่าวรู้สึกตกใจ มีการกระทำที่ตนรับไม่ได้คาดว่าลูกตนคงเจอแบบนี้ ตอนนั้นทางครูแจ้งว่าลูกของตนล้มโดนลูกบิดแต่ตนไม่เชื่อ มีแผลเป็นรอยเจาะที่ข้างหูทุกวันนี้ยังเป็นแผลเป็นอยู่ ลูกของตนมีความรู้สึกหวาดกลัวและไม่ค่อยกล้าที่จะมาเรียน
ตนรู้จักที่นี่จากวงการของครอบครัวที่มีลูกเป็นเด็กพิเศษ ตนได้พูดคุยและประสานกับผู้ปกครองที่เคยนำลูกมาเรียนที่นี่ ว่าตนอยากเข้ามาให้ข้อมูลกับหน่วยงานต่างๆ การนำลูกมาฝากเรียนไว้ตามศูนย์ฯต้องเป็นคนที่เป็นพ่อเป็นแม่ของเด็กพิเศษถึงจะเข้าใจ พอตนได้ยินข่าวขนาดเรื่องของตนผ่านมา 3 ปี ยังรู้สึกโมโหมาก ตอนนี้ลูกตนได้เรียนที่โรงเรียนประจำที่จังหวัดฉะเชิงเทรา เมื่อก่อนตอนที่ตนมารับลูกทางศูนย์จะให้เข้าแค่ด้านในเฉพาะเวลาที่จ่ายเงิน เวลามารับลูกจะต้องรออยู่ด้านนอก ทราบว่าคนชื่อแหม่มกับผู้ชายอีกคนเป็นเจ้าของ ลูกของตนมีความหวาดกลัวสถานที่นี้ขนาดนั่งอยู่ในรถยังไม่กล้าลงมาจากรถ เรื่องของตนมันผ่านมานานแล้วอาจจะดำเนินการทางกฎหมายอะไรไม่ได้ มันอาจจะลำบาก และไม่รู้ว่าตอนนี้ทางศูนย์ยังดูแลเด็กเหมือนเดิมไหม ถ้าเรื่องราวมันเป็นแบบนี้ก็อยากให้ทางศูนย์ปรับปรุงให้ดีกว่าเดิม
นายกัน จอมพลัง กล่าวว่า ตอนนี้สามารถพาน้องๆ ออกมาจากศูนย์ฯได้แล้วทั้ง 7 คนอยากฝากประชาสัมพันธ์กับผู้ปกครองที่นำเด็กมาฝากไว้ ให้รบกวนติดต่อมาที่บ้านพักเด็กจังหวัดนนทบุรี เพราะตอนนี้ติดต่อผู้ปกครองได้แค่ 2 คนเท่านั้น หากติดต่อไม่ได้ทางพัฒนาสังคมจะต้องนำน้องไปดูแลก่อน อยากให้ครอบครัวมาติดต่อมาเพื่อรับน้องไปดูแลโดยตรงจะดีกว่า
น.ส.วาริน สุนทร หัวหน้าบ้านพักเด็กและครอบครัวจังหวัดนนทบุรี กล่าวว่า จากที่ได้เข้าไปด้านในกับนายอำเภอและทางปลัดอำเภอ สถานรับเลี้ยงเด็กนี้ดำเนินการไม่ถูกต้องตามหลักในเรื่องของการจดนิติบุคคล เพราะสถานรับเลี้ยงเด็กนี้มีเด็กที่อายุเกินกว่าจะเป็นสถานรับเลี้ยงเด็ก เนื่องจากส่วนใหญ่จะมีอายุเกินกว่า 7 ปี ถ้าจะตั้งจริงๆจะต้องเป็นในส่วนของสถานสงเคราะห์เอกชน ซึ่งจากการตรวจสอบสถานที่ไม่ได้รับการจดทะเบียนที่ถูกต้อง และไม่ถูกสุขลักษณะ ทั้งเรื่องของที่นอนเก่า เรื่องสระน้ำ หรือที่ประกอบกิจกรรมต่างๆ ทางศูนย์ฯค่อนข้างให้ข้อมูลที่ไม่ละเอียดและรู้สึกกลัวที่มีคนมาเยอะ ตนได้ชี้แจงให้ทางสถานประกอบการเข้าใจในด้านของข้อกฎหมาย
น.ส.วารินกล่าวว่า ขณะนี้ได้ประสานผู้ปกครองให้มารับเด็ก หากผู้ปกครองท่านไหนไม่สามารถติดต่อได้จะประสานกับทางบ้านพักเด็กและนำตัวเด็กไปดูแลก่อน ซึ่งจากการพูดคุยในหลายๆเรื่องทางศูนย์ฯอ้างว่าอยู่ระหว่างการปรับปรุงตามที่ติดป้ายไว้ ส่วนเด็กกลุ่มนี้จะต้องทานยาเพราะมีในเรื่องของสมาธิและพัฒนาการต่างๆ ผู้ปกครองจะมารับพาไปหาหมอ ส่วนบางรายทางสถานประกอบการจะเป็นคนนำไปหาหมอเอง ตอนนี้จากที่ดูน้องๆสภาพร่างกายเป็นปกติ ไม่มีร่องรอยของบาดแผล ส่วนค่าใช้จ่ายในเรื่องของการฝากเลี้ยงจะไม่เท่ากันและในเรื่องของการฝากเลี้ยงช่วงวันหยุดจะมีค่าใช้จ่าย ทางศูนย์แจ้งว่าวันละ 700 บาท แต่ทางผู้ปกครองแจ้งว่าวันละ 1,000 บาท ซึ่งพูดไม่ตรงกัน ตอนนี้ต้องอยู่ที่ดุลยพินิจของจังหวัดว่าจะทำการปิดศูนย์นี้ในระยะเวลานานเท่าไหร่ เพราะมีหลายอย่างที่ต้องตรวจสอบทั้งเรื่องของการเลี้ยงดู สภาพแวดล้อมหลายๆอย่าง และเช็กในระบบแล้วสถานประกอบการนี้ไม่ได้มีการขึ้นทะเบียน ตอนนี้อาจจะเข้าข่ายในเรื่องของการเปิดศูนย์ไม่ถูกต้อง ถ้าทางผู้ดูแลอยากที่จะประกอบกิจการต่อก็ให้ดำเนินการให้ถูกต้อง
นายปริญ นิทัศน์เอก นายอำเภอไทรน้อย กล่าวว่า ในส่วนของอำเภอไทรน้อยที่เข้ามาร่วมตรวจสอบภายในของศูนย์รับเลี้ยงเด็ก แบบนี้อาจจะไม่ถูกต้องและไม่เหมาะสมในการดูแลเด็ก โดยเฉพาะเด็กพิเศษ และได้มีการขอให้ทางศูนย์ปิดดำเนินการไปก่อน ในเรื่องของข้อกฎหมายที่เกี่ยวข้องทางผู้ว่าราชการจังหวัดนนทบุรี ได้ย้ำว่าให้ทางบ้านพักเด็กดำเนินการทางกฎหมาย ทางฝ่ายปกครองต้องดูแลในภาคของความเรียบร้อยในโดยรวมตอนนี้ได้ประสานทางผู้ใหญ่บ้านว่าแต่ละชุมชนมีการดำเนินกิจการอะไรที่ผิดต่อกฎหมาย ก็ให้ร่วมกันตรวจสอบด้วย
ที่มา: matichon.co.th/มูลนิธิพัฒนาคนพิการไทย 28 ก.พ. 67
วันที่โพสต์: 28/02/2567 เวลา 11:02:44 
