หญิงพิการชีวิตลำเค็ญ สู้ชีวิตเก็บผักข้างทางเลี้ยงดู แม่-ลูก วอนช่วยเหลือ
เมื่อวันที่ 21 กันยายน ผู้สื่อข่าวรายงานจากจังหวัดตรัง ว่า นางสาววรรณา รองพล อายุ 51 ปี อยู่บ้านเลขที่ 43/4 หมู่ที่ 11 ต.ทุ่งค่าย อ.ย่านตาขาว จ.ตรัง วอนหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งให้ความช่วยเหลือ หลังครอบครัวประสบความเดือดร้อน เนื่องจาก น.ส วรรณา เป็นคนพิการด้วยโรคโปลิโอมาตั้งแต่กำเนิด ทำให้เดินไม่ได้ และไม่สามารถออกไปรับจ้างทำงานนอกบ้านได้ รายได้จึงมีแค่เงินเลี้ยงชีพคนพิการเดือนละ 800 บาท แต่ต้องดูแลแม่อายุ 73 ปีซึ่งป่วยด้วยโรคเบาหวาน โรคความดันโลหิตสูง ปวดข้อเข่าและอีกหลายโรค โดยได้รับเงินคนชราเดือนละ 700 บาท
ซึ่ง น.ส วรรณาฯ ยังมีลูกสาววัย 10 ขวบอีก 1 คน กำลังเรียนอยู่ชั้นป.4 ได้ค่าขนมไปโรงเรียนแค่วันละ 20 บาท โดยเงินเดือนรวมกันสองแม่ลูกแค่ 1,500 บาทไม่เพียงพอ ทำให้ น.ส วรรณา ต้องออกไปเก็บผัก ขุดหน่อไม้ ยอดมะขาม และเห็ดต่าง ๆ ตามข้างทาง โดยนั่งรถเข็นที่หลานชายซื้อให้ บางวันก็มีลูกสาวไปช่วยหิ้วถังและถือผักกลับมาบ้านเพื่อทำอาหารรวม 3 มื้อต่อวัน
หากช่วงไหนรถเข็นยางแบน ก็ต้องคลานไปขุดหน่อไม้และผักหลังบ้านมาแกงแทน สร้างความเวทนาให้กับผู้พบเห็นได้เป็นอย่างมาก ซึ่งที่ผ่านมามีผู้นำชุมชนในพื้นที่ คอยมาดูแลเป็นระยะ เพราะเป็นผู้พิการที่ลำบากและยากจนที่สุดในหมู่บ้าน แต่ก็ช่วยได้ไม่มากนัก ที่สำคัญคืออนาคตของลูกสาววัย 10 ขวบซึ่งอยู่ในขั้นเรียนดี กำลังจะจบลงเพราะไม่มีเงินเรียนต่อ ทำให้ผู้เป็นแม่เกิดความเครียดและเคยคิดสั้นมาแล้วหลายครั้ง แต่ได้ลูกสาวคอยปลอบใจ จึงอยู่มาได้จนถึงทุกวันนี้อย่างหมดความหวัง
ขณะที่พระเคารพ ญาติโก เจ้าสำนักสงฆ์วัดเขาหลักจันทร์ ต.น้ำผุด อ.เมืองตรัง ซึ่งทราบข่าวได้นำข้าวสารอาหารแห้งของทางสำนักสงฆ์มามอบให้ พร้อมมอบเงินจำนวน 1,000 บาทให้ น.ส วรรณา นำไปใช้หนี้ที่กู้ยืมมาจากญาติ สร้างความดีใจให้กับครอบครัว 3 แม่ลูกเป็นอย่างมาก ส่วนผู้มีจิตศรัทธา สามารถบริจาคทุนทรัพย์ได้ที่ธนาคาร ธ.ก.ส สาขาย่านตาขาว จ.ตรัง ชื่อบัญชี นางนวน รองพล เพื่อ น.ส วรรณา รองพล เลขที่บัญชี 011572419489
ด้าน น.ส วรรณา รองพล หญิงพิการด้วยโรคโปลิโอกล่าวว่า ตนเป็นห่วงลูกมากที่สุด ห่วงเพื่อนจะคอยรังแก ซึ่งลูกเรียนดี ส่วนตนเวลาไปไหนก็ไปกับรถเข็น ลงจากรถก็ใช้วิธีคลานไป สามีเสียไปหลายปีแล้ว เคยร้องไห้คนเดียวเพราะท้อแท้ใจ ทำไมไม่ตาย ลูกจึงปลอบไม่ให้พูดคำนี้ และบอกแม่ว่าอย่าท้อ ตนจึงมีกำลังใจเพราะลูก