ธรรมะย่อยวิกฤต

แสดงความคิดเห็น

แสงเทียน

อากาศในช่วงฤดูฝนมืดครึ้มแทบทุกวัน คงไม่มีปัญหาสำหรับคนอยู่บ้านหรือทำงานในอาคารมิดชิดมากนัก แต่ใครที่กำลังคิดจะเดินทางคงต้องวางแผนหรือเตรียมร่มไว้เผื่อฝนตก ธรรมชาติมักจะเตือนเราให้รู้ก่อนจะเกิดวิกฤตเสมอ เพื่อให้เราได้มีโอกาสเตรียมตัวตั้งรับ ผิดกับชีวิตมนุษย์ที่ไม่มีอะไรแจ้งเตือนล่วงหน้าว่าจะมีเวลาเหลือเท่าไร จะเป็นโรคอะไร จะตายเมื่อไร และตายแล้วไปไหน

ไม่สามารถบอกได้ นอกจากเตรียมตัวไว้เสมอเพื่อรับวิกฤตตลอดเวลา มีบริษัทแห่งหนึ่ง ผู้จัดการลองให้พนักงานเขียนถึงสิ่งที่ตนเองจะทำหากมีชีวิตอยู่อีกไม่เกิน 1 ปี แล้วค่อยๆ ลดลงเหลือ 1 เดือน 1 วัน 1 ชั่วโมง พนักงานหลายคนพอได้ทบทวนก็ค่อยๆ ตัดสิ่งที่ไม่จำเป็นออกไปทีละอย่าง จนเหลือเพียงสิ่งที่สำคัญที่สุด แล้วให้นำสิ่งที่เขียนนั้นติดไว้ตรงที่เราเห็นชัดที่สุดทั้งที่บ้านและที่ทำงานเพื่อจะได้ลงมือทำ

เวลาผ่านไปหลายเดือน ผู้จัดการก็เรียกพนักงานเหล่านั้นมาถามถึงผลจากสิ่งที่ได้ทำไป ปรากฏว่าทุกคนแค่คิดว่าจะทำ แต่ยังไม่ได้ทำเหมือนเดิม อาจเป็นได้ที่ทุกคนยังคงประมาทกับการใช้ชีวิต หรืออาจยังไม่พบกับวิกฤตในชีวิตจริงๆ

เหมือนวิกฤตที่เกิดขึ้นกับพระนางสามาวดีอุบาสิกา แม้จะดำรงมั่นในพระรัตนตรัยพร้อมกับเหล่าบริวารที่กำลังจะถูกไฟคลอก ช่วงเวลานั้นบริวารของนางต่างวิ่งวุ่น เพื่อหาวิธีเอาตัวรอด ดังเมื่อครั้งพระมหาชนกโพธิสัตว์กำลังอยู่ท่ามกลางวิกฤต เรือกำลังจะจม แต่ด้วยความไม่ยอมแพ้ จึงดั้นด้นค้นหาทางรอดจนหลุดพ้นจากภัยอันตรายมาได้ เป็นธรรมดาของผู้ได้ศึกษาหลักคำสอนเรื่องความเพียรพยายามมา ไม่ว่าจะตกอยู่ในสถานการณ์วิกฤตขนาดไหนก็ต้องสู้จนกว่าจะถึงที่สุด

เมื่อพยายามเต็มที่แล้วยังไม่หลุดพ้นวิกฤตครั้งนี้ไปได้ นางสามาวดี จึงพยายามค้นหาธรรมะข้ออื่นในการฝ่าภัยร้าย แต่ด้วยขีดจำกัด ของกรรมที่นางและเหล่าบริวารได้เคยสั่งสมไว้ตั้งแต่อดีตชาติ โดยคราครั้งนั้นนางและบริวารได้เผาหญ้าที่สูงเทียมศีรษะ เพื่อต้องการขจัดไล่ความหนาวจากการอาบน้ำในสระอย่างยาวนาน แต่พอหญ้าค่อยๆ ไหม้ไป นางแลเห็นว่ามีพระอยู่ภายใน ด้วยความตกใจกลัวว่าจะโดนจับและต้องโทษ จึงรีบเอาหญ้ามาสุมเพื่อให้ไฟไหม้ไม่ให้เหลือซากความผิดติดตัวได้

กรรมครั้งนั้นทำให้นางไม่สามารถเห็นธรรมะสำคัญ เช่น "การอธิษฐานสัจจะ" ดังที่พระโพธิสัตว์ใช้แก้ไขปัญหาวิกฤต จนนำตัวเองหลุดพ้นจากความตายไปได้หลายต่อหลายครั้ง

เมื่อนางคิดไม่ได้ จึงได้แต่เตือนให้บริวารใช้สติระลึกรู้ตัว ไม่ประมาท ยิ่งช่วงเวลาความเป็นความตายกำลังคืบคลานเข้ามาจนไม่มีเวลาเหลือแล้วสำหรับทำอย่างอื่น เราควรจะรีบมุ่งมั่นทำสิ่งที่ตนเองเชื่อมั่นศรัทธาให้ทันเวลาที่เหลืออยู่ พระนางพร้อมทั้งบริวาร จึงเจริญภาวนาก่อนจะสิ้นใจด้วยสติ มากบ้างน้อยบ้างแล้วแต่บารมีของแต่ละคนแตกต่างกันไป

ธรรมะจึงเป็นแสงสว่างช่วยนำทางเราออกจากวิกฤตชีวิตอันแสนมืดมิดนี้ได้ แต่นั่นก็ขึ้นอยู่กับว่าเราไม่ได้ตาบอดด้วยความไม่รู้ และไม่ได้สายตาสั้นด้วยกรรมที่ทำมาเสียก่อน

คอลัมน์ หน้าต่างศาสนา

พระมหาประสิทธิ์ ญาณปฺปทีโป สำนักงานส่งเสริมคุณธรรม จริยธรรมฯ วัดสระเกศ

ขอบคุณ... http://goo.gl/DMnAu0 (ขนาดไฟล์: 0 )

ที่มา: http://www.itti-patihan.com/
วันที่โพสต์: 30/08/2559 เวลา 10:39:37 ดูภาพสไลด์โชว์ ธรรมะย่อยวิกฤต

แสดงความคิดเห็น

รอตรวจสอบ
จัดฟอร์แม็ต ดูการแสดงผล

รอตรวจสอบ

รอตรวจสอบ

รอตรวจสอบ

ยกเลิก

รายละเอียดกระทู้

แสงเทียน อากาศในช่วงฤดูฝนมืดครึ้มแทบทุกวัน คงไม่มีปัญหาสำหรับคนอยู่บ้านหรือทำงานในอาคารมิดชิดมากนัก แต่ใครที่กำลังคิดจะเดินทางคงต้องวางแผนหรือเตรียมร่มไว้เผื่อฝนตก ธรรมชาติมักจะเตือนเราให้รู้ก่อนจะเกิดวิกฤตเสมอ เพื่อให้เราได้มีโอกาสเตรียมตัวตั้งรับ ผิดกับชีวิตมนุษย์ที่ไม่มีอะไรแจ้งเตือนล่วงหน้าว่าจะมีเวลาเหลือเท่าไร จะเป็นโรคอะไร จะตายเมื่อไร และตายแล้วไปไหน ไม่สามารถบอกได้ นอกจากเตรียมตัวไว้เสมอเพื่อรับวิกฤตตลอดเวลา มีบริษัทแห่งหนึ่ง ผู้จัดการลองให้พนักงานเขียนถึงสิ่งที่ตนเองจะทำหากมีชีวิตอยู่อีกไม่เกิน 1 ปี แล้วค่อยๆ ลดลงเหลือ 1 เดือน 1 วัน 1 ชั่วโมง พนักงานหลายคนพอได้ทบทวนก็ค่อยๆ ตัดสิ่งที่ไม่จำเป็นออกไปทีละอย่าง จนเหลือเพียงสิ่งที่สำคัญที่สุด แล้วให้นำสิ่งที่เขียนนั้นติดไว้ตรงที่เราเห็นชัดที่สุดทั้งที่บ้านและที่ทำงานเพื่อจะได้ลงมือทำ เวลาผ่านไปหลายเดือน ผู้จัดการก็เรียกพนักงานเหล่านั้นมาถามถึงผลจากสิ่งที่ได้ทำไป ปรากฏว่าทุกคนแค่คิดว่าจะทำ แต่ยังไม่ได้ทำเหมือนเดิม อาจเป็นได้ที่ทุกคนยังคงประมาทกับการใช้ชีวิต หรืออาจยังไม่พบกับวิกฤตในชีวิตจริงๆ เหมือนวิกฤตที่เกิดขึ้นกับพระนางสามาวดีอุบาสิกา แม้จะดำรงมั่นในพระรัตนตรัยพร้อมกับเหล่าบริวารที่กำลังจะถูกไฟคลอก ช่วงเวลานั้นบริวารของนางต่างวิ่งวุ่น เพื่อหาวิธีเอาตัวรอด ดังเมื่อครั้งพระมหาชนกโพธิสัตว์กำลังอยู่ท่ามกลางวิกฤต เรือกำลังจะจม แต่ด้วยความไม่ยอมแพ้ จึงดั้นด้นค้นหาทางรอดจนหลุดพ้นจากภัยอันตรายมาได้ เป็นธรรมดาของผู้ได้ศึกษาหลักคำสอนเรื่องความเพียรพยายามมา ไม่ว่าจะตกอยู่ในสถานการณ์วิกฤตขนาดไหนก็ต้องสู้จนกว่าจะถึงที่สุด เมื่อพยายามเต็มที่แล้วยังไม่หลุดพ้นวิกฤตครั้งนี้ไปได้ นางสามาวดี จึงพยายามค้นหาธรรมะข้ออื่นในการฝ่าภัยร้าย แต่ด้วยขีดจำกัด ของกรรมที่นางและเหล่าบริวารได้เคยสั่งสมไว้ตั้งแต่อดีตชาติ โดยคราครั้งนั้นนางและบริวารได้เผาหญ้าที่สูงเทียมศีรษะ เพื่อต้องการขจัดไล่ความหนาวจากการอาบน้ำในสระอย่างยาวนาน แต่พอหญ้าค่อยๆ ไหม้ไป นางแลเห็นว่ามีพระอยู่ภายใน ด้วยความตกใจกลัวว่าจะโดนจับและต้องโทษ จึงรีบเอาหญ้ามาสุมเพื่อให้ไฟไหม้ไม่ให้เหลือซากความผิดติดตัวได้ กรรมครั้งนั้นทำให้นางไม่สามารถเห็นธรรมะสำคัญ เช่น "การอธิษฐานสัจจะ" ดังที่พระโพธิสัตว์ใช้แก้ไขปัญหาวิกฤต จนนำตัวเองหลุดพ้นจากความตายไปได้หลายต่อหลายครั้ง เมื่อนางคิดไม่ได้ จึงได้แต่เตือนให้บริวารใช้สติระลึกรู้ตัว ไม่ประมาท ยิ่งช่วงเวลาความเป็นความตายกำลังคืบคลานเข้ามาจนไม่มีเวลาเหลือแล้วสำหรับทำอย่างอื่น เราควรจะรีบมุ่งมั่นทำสิ่งที่ตนเองเชื่อมั่นศรัทธาให้ทันเวลาที่เหลืออยู่ พระนางพร้อมทั้งบริวาร จึงเจริญภาวนาก่อนจะสิ้นใจด้วยสติ มากบ้างน้อยบ้างแล้วแต่บารมีของแต่ละคนแตกต่างกันไป ธรรมะจึงเป็นแสงสว่างช่วยนำทางเราออกจากวิกฤตชีวิตอันแสนมืดมิดนี้ได้ แต่นั่นก็ขึ้นอยู่กับว่าเราไม่ได้ตาบอดด้วยความไม่รู้ และไม่ได้สายตาสั้นด้วยกรรมที่ทำมาเสียก่อน คอลัมน์ หน้าต่างศาสนา พระมหาประสิทธิ์ ญาณปฺปทีโป สำนักงานส่งเสริมคุณธรรม จริยธรรมฯ วัดสระเกศ ขอบคุณ... http://goo.gl/DMnAu0

จัดฟอร์แม็ตข้อความและมัลติมีเดีย

  1. เพิ่ม
  2. เพิ่ม ลบ
  3. เพิ่ม ลบ
  4. เพิ่ม ลบ
  5. เพิ่ม ลบ
  6. เพิ่ม ลบ
  7. เพิ่ม ลบ
  8. เพิ่ม ลบ
  9. เพิ่ม ลบ
  10. ลบ
เลือกการตกแต่งที่ต้องการ

ตกลง ยกเลิก

รายละเอียดการใส่ ลิงค์ รูปภาพ วิดีโอ เพลง (Soundcloud)

Waiting...