ภัยที่เกิดจากการทะเลาะวิวาทกัน

แสดงความคิดเห็น

ดอกบัวสีขาวบานในบึงน้ำกว้าง

คําว่า วิวาท หมายถึง การทะเลาะกัน พูดไม่ถูกใจกัน พูดไม่ตรงกัน สาเหตุเกิดจากคนที่มีอัธยาศัยหรือมีจิตใจไม่เหมือนกัน ทำให้พูดไม่เข้าใจกัน เว้นแต่ผู้ที่ได้รับการศึกษาอบรม จนรู้จักผิดชอบชั่วดีแล้ว เคารพในเหตุผล มีศีลธรรมประจำใจ จึงจะพูดกันเข้าใจและถูกใจกันได้

การทะเลาะวิวาท เมื่อยังไม่ลุกลามใหญ่โต อาจระงับได้ด้วยการปรับความเข้าใจกันให้ถูกต้อง เมื่อไม่สามารถจะปรับความเข้าใจกันได้ อาจลุกลามใหญ่โต เป็นเหตุให้เกิดความแตกร้าวกันยิ่งขึ้นไปไม่จบสิ้น

การทะเลาะวิวาทเกิดขึ้นได้เพราะมีมูลเหตุ ไม่ใช่เกิดขึ้นเอง ถ้าทุกคนมีความประสงค์ในสิ่งเดียวกัน ต่างแก่งแย่งกันเพื่อให้ได้ในสิ่งเดียวนั้น เพราะของสิ่งเดียวไม่อาจแจกจ่ายให้หลายคนได้ เมื่อคนหนึ่งได้ อีกคนหนึ่งย่อมไม่ได้ เมื่อไม่ได้ก็เป็นเหตุให้เกิดความขัดใจในเบื้องต้น ซึ่งความขัดใจนี่แหละเป็นเหตุให้เกิดการทะเลาะวิวาท ประหัตประหาร ล้างผลาญ เบียดเบียนกัน

การทะเลาะวิวาทที่เกิดขึ้นภายในครอบครัว ก็สามารถทำให้ครอบครัวนั้นไม่เป็นปกติสุข เพราะเมื่อเกิดทะเลาะวิวาทกันขึ้นแล้ว ความเป็นระเบียบเรียบร้อยภายในครอบครัวก็ไม่มี มักจะเกิดเรื่องทะเลาะกันอยู่ประจำ เรื่องเล็กกลายเป็นเรื่องใหญ่ จนถึงแตกร้าวกันในที่สุด

การทะเลาะวิวาทที่เกิดภายในครอบครัวยังทำให้ประสบภัยถึงเพียงนี้ ถ้ายิ่งแผ่ขยายกว้างออกไปจนถึงหมู่คณะ สมาคม และประเทศชาติแล้ว ไม่ต้องสงสัยเลยว่า ภัยพิบัตินั้นๆ จะมีมากสักเพียงใด

ในที่สุดก็ต้องถึงความพินาศวอดวายไปตามๆ กัน เพราะการทะเลาะวิวาท เป็นเหตุเริ่มต้นที่จะแยกส่วนต่างๆ ออกจากกัน แยกหมู่คณะ แยกสมาคม และประเทศชาติให้เป็นหมู่เป็นเหล่า เป็นการตัดทอนกำลังที่รวมกันเป็นปึกแผ่นให้เสียกำลังโดยลำดับ

เมื่อพิจารณาเห็นภัยที่เกิดจากการทะเลาะวิวาทแล้ว หวังจะทำให้ตนเจริญ ให้สามัคคีกลมเกลียว เป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกัน หวังจะมีเพื่อนมาก ก็จะต้องปรับความเห็นของตนเสียใหม่ ที่เคยมีความเห็นเข้ากับตัว ก็ต้องทำความเห็นนั้น ให้เป็นความเห็นที่ร่วมกับหมู่คณะได้ โดยยึดประโยชน์และศีลธรรมเป็นหลัก

การทะเลาะวิวาทจะสงบได้ ต้องพิจารณาถึงผลเสียของการทะเลาะกัน และให้เห็นถึงผลดีของการไม่ทะเลาะกัน เมื่อนั้น ก็กลับกลายเป็นความสมัครสมานสามัคคีปรองดอง มีจิตใจชื่นบาน เป็นมิตรเป็นสหายกัน เป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกัน

ความสามัคคี คือ ความพร้อมเพรียง เป็นน้ำหนึ่งใจเดียว ไม่ทะเลาะเบาะแว้ง หรือไม่แก่งแย่งกัน พร้อมเพรียงกันด้วยกำลังกาย กำลังใจ เมื่อมีความพร้อมเพรียงกันแล้ว ก็จะเป็นเหตุให้เกิดผลสมบูรณ์ดีเต็มที่ ไม่มีความบกพร่อง

ความสามัคคี มีอยู่ในหมู่ชนกลุ่มใด หมู่ชนกลุ่มนั้น ย่อมดำเนินไปสู่ความเจริญ ไม่มีความเสื่อมทราม ดังนั้น ควรพิจารณาเห็นโทษของการทะเลาะ และเห็นอานิสงส์ของการไม่ทะเลาะกันแล้ว จากนั้นพึงสามัคคี ประนีประนอมเป็นอันหนึ่งอันเดียวกัน เพื่อความสุขสวัสดี ไม่มีภัยแก่ตนและประชาชน ตลอดถึงประเทศชาติเป็นที่สุด

คอลัมน์ ธรรมะวันหยุด

บทความโดย พระเทพคุณาภรณ์ (โสภณ โสภณจิตฺโต ป.ธ.9) เจ้าอาวาสวัดเทวราชกุญชรวรวิหาร

ขอบคุณ... http://goo.gl/Hy5JKV

ที่มา: http://goo.gl/Hy5JKV
วันที่โพสต์: 11/05/2559 เวลา 13:10:00 ดูภาพสไลด์โชว์ ภัยที่เกิดจากการทะเลาะวิวาทกัน

แสดงความคิดเห็น

รอตรวจสอบ
จัดฟอร์แม็ต ดูการแสดงผล

รอตรวจสอบ

รอตรวจสอบ

รอตรวจสอบ

ยกเลิก

รายละเอียดกระทู้

ดอกบัวสีขาวบานในบึงน้ำกว้าง คําว่า วิวาท หมายถึง การทะเลาะกัน พูดไม่ถูกใจกัน พูดไม่ตรงกัน สาเหตุเกิดจากคนที่มีอัธยาศัยหรือมีจิตใจไม่เหมือนกัน ทำให้พูดไม่เข้าใจกัน เว้นแต่ผู้ที่ได้รับการศึกษาอบรม จนรู้จักผิดชอบชั่วดีแล้ว เคารพในเหตุผล มีศีลธรรมประจำใจ จึงจะพูดกันเข้าใจและถูกใจกันได้ การทะเลาะวิวาท เมื่อยังไม่ลุกลามใหญ่โต อาจระงับได้ด้วยการปรับความเข้าใจกันให้ถูกต้อง เมื่อไม่สามารถจะปรับความเข้าใจกันได้ อาจลุกลามใหญ่โต เป็นเหตุให้เกิดความแตกร้าวกันยิ่งขึ้นไปไม่จบสิ้น การทะเลาะวิวาทเกิดขึ้นได้เพราะมีมูลเหตุ ไม่ใช่เกิดขึ้นเอง ถ้าทุกคนมีความประสงค์ในสิ่งเดียวกัน ต่างแก่งแย่งกันเพื่อให้ได้ในสิ่งเดียวนั้น เพราะของสิ่งเดียวไม่อาจแจกจ่ายให้หลายคนได้ เมื่อคนหนึ่งได้ อีกคนหนึ่งย่อมไม่ได้ เมื่อไม่ได้ก็เป็นเหตุให้เกิดความขัดใจในเบื้องต้น ซึ่งความขัดใจนี่แหละเป็นเหตุให้เกิดการทะเลาะวิวาท ประหัตประหาร ล้างผลาญ เบียดเบียนกัน การทะเลาะวิวาทที่เกิดขึ้นภายในครอบครัว ก็สามารถทำให้ครอบครัวนั้นไม่เป็นปกติสุข เพราะเมื่อเกิดทะเลาะวิวาทกันขึ้นแล้ว ความเป็นระเบียบเรียบร้อยภายในครอบครัวก็ไม่มี มักจะเกิดเรื่องทะเลาะกันอยู่ประจำ เรื่องเล็กกลายเป็นเรื่องใหญ่ จนถึงแตกร้าวกันในที่สุด การทะเลาะวิวาทที่เกิดภายในครอบครัวยังทำให้ประสบภัยถึงเพียงนี้ ถ้ายิ่งแผ่ขยายกว้างออกไปจนถึงหมู่คณะ สมาคม และประเทศชาติแล้ว ไม่ต้องสงสัยเลยว่า ภัยพิบัตินั้นๆ จะมีมากสักเพียงใด ในที่สุดก็ต้องถึงความพินาศวอดวายไปตามๆ กัน เพราะการทะเลาะวิวาท เป็นเหตุเริ่มต้นที่จะแยกส่วนต่างๆ ออกจากกัน แยกหมู่คณะ แยกสมาคม และประเทศชาติให้เป็นหมู่เป็นเหล่า เป็นการตัดทอนกำลังที่รวมกันเป็นปึกแผ่นให้เสียกำลังโดยลำดับ เมื่อพิจารณาเห็นภัยที่เกิดจากการทะเลาะวิวาทแล้ว หวังจะทำให้ตนเจริญ ให้สามัคคีกลมเกลียว เป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกัน หวังจะมีเพื่อนมาก ก็จะต้องปรับความเห็นของตนเสียใหม่ ที่เคยมีความเห็นเข้ากับตัว ก็ต้องทำความเห็นนั้น ให้เป็นความเห็นที่ร่วมกับหมู่คณะได้ โดยยึดประโยชน์และศีลธรรมเป็นหลัก การทะเลาะวิวาทจะสงบได้ ต้องพิจารณาถึงผลเสียของการทะเลาะกัน และให้เห็นถึงผลดีของการไม่ทะเลาะกัน เมื่อนั้น ก็กลับกลายเป็นความสมัครสมานสามัคคีปรองดอง มีจิตใจชื่นบาน เป็นมิตรเป็นสหายกัน เป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกัน ความสามัคคี คือ ความพร้อมเพรียง เป็นน้ำหนึ่งใจเดียว ไม่ทะเลาะเบาะแว้ง หรือไม่แก่งแย่งกัน พร้อมเพรียงกันด้วยกำลังกาย กำลังใจ เมื่อมีความพร้อมเพรียงกันแล้ว ก็จะเป็นเหตุให้เกิดผลสมบูรณ์ดีเต็มที่ ไม่มีความบกพร่อง ความสามัคคี มีอยู่ในหมู่ชนกลุ่มใด หมู่ชนกลุ่มนั้น ย่อมดำเนินไปสู่ความเจริญ ไม่มีความเสื่อมทราม ดังนั้น ควรพิจารณาเห็นโทษของการทะเลาะ และเห็นอานิสงส์ของการไม่ทะเลาะกันแล้ว จากนั้นพึงสามัคคี ประนีประนอมเป็นอันหนึ่งอันเดียวกัน เพื่อความสุขสวัสดี ไม่มีภัยแก่ตนและประชาชน ตลอดถึงประเทศชาติเป็นที่สุด คอลัมน์ ธรรมะวันหยุด บทความโดย พระเทพคุณาภรณ์ (โสภณ โสภณจิตฺโต ป.ธ.9) เจ้าอาวาสวัดเทวราชกุญชรวรวิหาร ขอบคุณ... http://goo.gl/Hy5JKV

จัดฟอร์แม็ตข้อความและมัลติมีเดีย

  1. เพิ่ม
  2. เพิ่ม ลบ
  3. เพิ่ม ลบ
  4. เพิ่ม ลบ
  5. เพิ่ม ลบ
  6. เพิ่ม ลบ
  7. เพิ่ม ลบ
  8. เพิ่ม ลบ
  9. เพิ่ม ลบ
  10. ลบ
เลือกการตกแต่งที่ต้องการ

ตกลง ยกเลิก

รายละเอียดการใส่ ลิงค์ รูปภาพ วิดีโอ เพลง (Soundcloud)

Waiting...