รายละเอียดกระทู้

บรรยากาศประชาชนเข้ากราบพระศพสมเด็จพระสังฆราชภายในวัดบวรนิเวศวิหาร หลังจากที่โรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ สภากาชาดไทย ออกแถลงการณ์เรื่อง "พระอาการประชวรของ สมเด็จพระญาณสังวร สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปรินายก ขณะประทับ ณ โรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ สภากาชาดไทย ฉบับที่ 9" โดยเนื้อหาแถลงการณ์ระบุว่า คณะแพทย์ผู้ถวายการรักษารายงานว่า สมเด็จพระญาณสังวร สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก มีพระอาการโดยรวมทรุดลง ได้สิ้นพระชนม์ลงแล้ว เมื่อเวลา 19.30 น. วันที่ 24 ต.ค. 56 สาเหตุเนื่องจากการติดเชื้อในกระแสพระโลหิต วัน รุ่งขึ้น 25 ต.ค. 2556 ได้มีการเคลื่อนพระศพจากโรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ และเชิญพระศพประดิษฐานยังตำหนักเพ็ชร ภายในวัดบวรนิเวศวิหาร ก่อนที่มีพิธีพระราชทานน้ำหลวงสรงพระศพ จากนั้นสำนักนายกรัฐมนตรี แจ้งให้ข้าราชการทั่วประเทศ แต่งชุดไว้ทุกข์เพื่อแสดงความอาลัยเป็นเวลา 30 วัน ส่วนสถานที่ราชการลดธงครึ่งเสาเป็นเวลา 3 วัน พระฉายาลักษณ์ สมเด็จพระญาณสังวร สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายกสำหรับ พิธีพระศพ 7 วันแรก สำนักพระราชวังเป็นเจ้าภาพ และวันที่ 31 ต.ค. 56 มีการบำเพ็ญพระราชกุศลสัตตมวารถวายพระศพ สมเด็จพระญาณสังวร สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก สิ้นพระชนม์บรรจบครบ 7 วัน โดยในการนี้จะมีการบำเพ็ญพระราชกุศลใน 7 วัน 50 วัน และ 100 วัน จากนั้นทางวัดบวรฯ จะเปิดโอกาสให้ประชาชนที่แสดงเจตจำนงในการรับเป็นเจ้าภาพพิธีบำเพ็ญกุศลพระ ศพ โดยกองอำนวยการจะกำหนดเจ้าภาพในแต่ละวัน และพิธีสวดพระอภิธรรมจะดำเนินการต่อไปเรื่อยๆ จนกว่าจะมีการโปรดเกล้าฯ กำหนดงานพระราชทานเพลิงพระศพ ซึ่งคาดว่า จะมีขึ้นในเดือน มี.ค. 2557 ขณะที่ ครม.จะเป็นเจ้าภาพจัดในวันที่ 21 พ.ย. "ไทยรัฐออนไลน์" จึงขอนำเสนอรายละเอียดเบื้องต้น ก่อนที่จะเปิดคู่มือการสักการะพระศพ สมเด็จพระสังฆราช ที่วัด บวรฯ ซึ่งทางวัดเปิดโอกาสให้ประชาชนเข้าถวายสักการะพระศพ ณ ตำหนักเพ็ชร จนกว่าจะถึงวันพระราชทานเพลิงพระศพ โดยมีกำหนดเวลาเป็น 3 วาระ ของแต่ละวัน คือ วาระที่ 1 เวลา 09.00 - 10.30 น. วาระที่ 2 เวลา 12.30 - 17.00 น. วาระที่ 3 เวลา 20.00 - 21.00 น. ส่วน พิธีสวดพระอภิธรรมพระศพ จะมีขึ้นในเวลา 09.00 น., 12.00 น., 15.00 น. และในเวลา 18.00 น. ขณะมีการประโคมย่ำยาม และมีการสวดพระอภิธรรมพระศพอีกครั้งในเวลา 19.00 น. และ 21.00 น. ทั้ง นี้ ของที่ระลึกภายในงาน จะมีการแจกหนังสือ "ญาณสังวรเทศนา" ทุกวัน โดย 7 วันแรก รัฐบาลได้ดำเนินการจัดพิมพ์หนังสือ ซึ่งเป็นการรวบรวมสำนวนโวหาร เทศนา ของสมเด็จพระสังฆราชหลายๆ โอกาส โดยเฉพาะวาระที่หาได้ยากยิ่ง คือ วันเฉลิมพระชนมพรรษา วันสำคัญที่ทางพิธีหลวงจัดขึ้นตลอดปี เช่น ทักษิณานุปทาน มีหลายๆ สำนวนเทศนาโวหาร ที่สมเด็จพระสังฆราชได้รับนิมนต์เป็นผู้แสดงพระธรรมเทศนาในวาระต่างๆ เอามารวบรวมไว้แยกเป็น 5-6 หมวด ซึ่งหาได้ยากยิ่ง หนังสือนี้เคยพิมพ์มาแล้วตั้งแต่ปี พ.ศ. 2516 หลังจากนั้นก็ขาดหายไป ถือเป็นการน้อมนำเอาพระนิพนธ์ที่หายากของพระสังฆราชมาพิมพ์แจกอีกครั้ง อย่างไรก็ตาม เบื้องต้นทางรัฐบาลได้จัดพิมพ์หนังสือดังกล่าวจำนวน 2,500 เล่ม แต่ดูจากความต้องการของประชาชนขณะนี้ไม่เพียงพอกับความต้องการ ดังนั้นจึงมีมูลนิธิหลายแห่ง เช่น มูลนิธิรัชกาลที่ 4 รัชกาลที่ 6 เป็นต้น ร่วมกันเป็นเจ้าภาพจัดพิมพ์หนังสืออีกจำนวน 10,000 เล่ม บรรยากาศประชาชนเข้ากราบพระศพสมเด็จพระสังฆราชภายในวัดบวรนิเวศวิหาร โดย พระศากยวงศ์วิสุทธิ์ (พระดร.อนิลมาน ธมฺมสากิโย) กล่าวเตือนประชาชนที่เดินทางมายังวัดบวรฯว่า เนื่องจากมีประชาชนหลั่งไหลเข้ามาสักการะพระศพเป็นจำนวนมาก แสดงให้เห็นถึงพระบารมี และแสดงให้เห็นว่า พระสังฆราชอยู่ในใจของเรา ไม่ทางใดก็ทางหนึ่ง เมื่อมีคนจำนวนมาก ก็มีมิจฉาชีพแฝงตัวเข้ามาด้วย อยากให้ระมัดระวังเรื่องการถูกล้วงกระเป๋าไว้ด้วย "กรณี ที่มาแล้ว ต้องรอนาน เนื่องจากผู้คนเข้ามามาก แนะนำให้ประชาชนที่มาใส่รองเท้าสบายๆ เพื่อเตรียมในการยืนรอเป็นเวลาหลายชั่วโมง อย่างน้อยก็ 3 ชั่วโมง ซึ่งก็อยากให้คิดว่า เป็นการเจริญขันติธรรมไปในตัว ด้วยการฝึกสมาธิจากการยืน" พระศากยวงศ์วิสุทธิ์ กล่าวอีกว่า หน่วย งานภาครัฐ เอกชน องค์กรต่างๆ ที่สนใจเป็นเจ้าภาพสวดพระอภิธรรม สามารถติดต่อได้ที่วัดบวรนิเวศวิหารโดยตรง ทางวัดจะรวบรวมรายชื่อไว้ก่อน และจะกำหนดตารางวันอีกครั้ง ขณะที่ล่าสุดมีรายชื่อหน่วยงานต่างๆ ที่จองเข้ามาแล้วกว่า 300 ราย บรรยากาศประชาชนเข้ากราบพระศพสมเด็จพระสังฆราชภายในวัดบวรนิเวศวิหาร ด้าน "สมศักดิ์ สัจจะสนทิศ" ชาวร้อยเอ็ดวัย 71 ปี เปิดเผยว่า ตนเพิ่งจะเดินทางมาถึงกรุงเทพมหานคร เมื่อช่วงเช้าของวันที่ 31 ต.ค. ซึ่งมีความตั้งใจอย่างยิ่ง ที่จะมากราบสักการะพระศพสมเด็จพระสังฆราช เพราะก่อนหน้านี้ได้ติดตามข่าวของสมเด็จพระสังฆราชมาโดยตลอด ซึ่งเห็นว่าท่านทำประโยชน์ให้แก่บ้านเมืองมากมาย และเป็นพระที่น่าเคารพนับถือ จึงตัดสินใจเดินทางมาเพียงลำพัง เพื่อมาศึกษาวิธีการเดินทาง ขั้นตอนการเข้าสักการะ ก่อนที่จะเดินทางกลับจังหวัดร้อยเอ็ด ในอีก 2-3 วันข้างหน้า และจะชวนภรรยาเดินทางมาร่วมกราบสักการะพระโกศสมเด็จพระสังฆราชอีกครั้งใน ช่วงวันที่ 7-8 พฤจิกายนที่จะถึงนี้ และ จากหลายวันที่ผ่านมา ประชาชนจากทั่วสารทิศต่างทยอยไปวัดบวรฯ กันอย่างต่อเนื่อง โดยสวมใส่ชุดขาวดำ เดินทางไปร่วมพิธีกันอย่างสุภาพ เพื่อเป็นการไว้ทุกข์แสดงความอาลัยถวายแด่สมเด็จพระสังฆราช บ้างก็เดินทางมาจากกรุงเทพฯ บ้างก็เดินทางมาจากต่างจังหวัด ด้วยรถสาธารณะและรถส่วนตัว ทั้งนี้ เรื่องจอดรถก็เป็นปัญหาใหญ่เช่นกัน เนื่องจากวัดบวรฯ เป็นวัดที่เก่าแก่ ไม่ได้มีที่จอดรถที่กว้างขวางเพียงพอ จึงต้องอาศัยบริเวณรอบๆ อย่าง ห้างบางลำภู ก็มีอาคารจอดรถของ กทม. หรืออาจจะเป็นวัดใกล้เคียง เช่น วัดตรีทศเทพ วัดมกุฏกษัตริยาราม จากนั้นก็เดินเข้ามาที่วัดบวรฯ ทั้งนี้ขอแนะนำว่า หากประชาชนเดินทางด้วยรถโดยสารสาธารณะจะสะดวกมากที่สุด. ขอบคุณ... http://www.thairath.co.th/content/edu/379828