'บ่มรัก บ่มธรรม' ส่งความรักผ่านธรรมะ บริสุทธิ์และยั่งยืน
'บ่มรัก บ่มธรรม' ส่งความรักผ่านธรรมะ บริสุทธิ์และยั่งยืน
ศิวพร อ่องศรี
"กุมภาพันธ์" เป็นเดือนที่เต็มไปด้วยบรรยากาศของความรัก เพราะมีวันสำคัญของชาติตะวันตกที่แพร่หลายและได้รับความนิยมไปทั่วทุกมุมโลก อย่าง วันวาเลนไทน์ ซึ่งตรงกับวันที่ 14 กุมภาพันธ์ ของทุกปี
กระแสความนิยมของวันวาเลนไทน์ได้เข้ามามีบทบาทในสังคมไทยโดยเฉพาะอย่างยิ่งวัยรุ่นหนุ่มสาว
แต่นอกจากวันวาเลนไทน์แล้ว ในเดือนกุมภาพันธ์ยังมีวันสำคัญของพุทธศาสนิกชน คือ วันมาฆบูชา ตรงกับวันขึ้น 15 ค่ำ เดือน 3 ซึ่งเป็นวันที่พระสัมมาสัมพุทธเจ้าได้ทรงแสดงโอวาทปาฏิโมกข์แก่พระสงฆ์สาวก เป็นครั้งแรก
ฉะนั้น ในเดือนที่มีวันสำคัญและโอกาสพิเศษนี้ จึงควรส่งเสริมให้ทั้งวันแห่งความรักและวันมาฆบูชา มีความสำคัญควบคู่กันไป ด้วยการส่งความรักผ่านธรรมะตามหลักคำสอนของพระพุทธเจ้า ซึ่งจะทำให้ความรักนั้นบริสุทธิ์และยั่งยืน
ศูนย์หนังสือจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ร่วมกับ วัดพระราม 9 กาญจนาภิเษก จัดกิจกรรม "หัวใจกับใบโพธิ์ ครั้งที่ 4 : บ่มรัก บ่มธรรม" พร้อมจัดเสวนาธรรมเรื่อง "บ่มรัก บ่มธรรม"เพื่อกระตุ้นเตือนวัยรุ่นยุคใหม่ ตลอดจนพุทธศาสนิกชนให้ตระหนักและเห็นคุณค่าของความรักที่ควรมีควบคู่กับความ ดีงามที่อยู่ในขอบเขตของศีลธรรม โดยยึดเอาหลักธรรมคำสอนของพระพุทธศาสนามาประพฤติปฏิบัติ
พระราชญาณกวี ผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดพระราม 9 กาญจนาภิเษก อธิบายถึงความรักที่บริสุทธิ์ว่า รักบริสุทธิ์ คือความรักที่ปราศจากเงื่อนไขและกาลเวลา เกิดขึ้นได้หากเราช่วยกันสร้าง ส่วนการบ่มรักบ่มธรรมนั้นหมายถึง บ่มทุกอย่างที่เราจะใช้
เปรียบเหมือนผลไม้ที่ต้องบ่ม กินดิบๆ ยังไม่ได้ "เด็กทุกวันนี้ความรักไม่สุกงอมแล้วไปปลิด เหมือนกับต้นไม้ที่ออกลูกมาพอสักพักก็เก็บไปกินเสียก่อน เลยเกิดปัญหาขึ้นมาว่า ถามว่าจะทำอย่างไรให้เกิดความสุข? คำตอบคือคงจะต้องใช้ธรรมะเป็นแก๊สบ่ม เป็นอุปกรณ์ในการบ่มให้สุก
"อาตมาเป็นห่วงเด็กและเยาวชนที่มีปัญหามากในปัจจุบันนี้ ถ้าเราไม่บ่มด้วยธรรมะให้มันลึกซึ้งถึงใจ ถึงรากเหง้าและรากฐานชีวิต เชื่อว่าถ้ารักได้บ่มธรรม ธรรมได้บ่มรัก ปัญหาหนักๆ ก็จะไม่เกิดขึ้น ปัญหาที่ควรจะแก้ไขได้ก็แก้ไขได้โดยง่าย สิ่งที่ไม่คิดว่าจะเป็นปัญหาก็จะไม่มีปัญหาเลย แต่ถ้าธรรมไม่บ่มรักหรือว่ารักไม่สนใจธรรมก็จะนำแต่ปัญหามาสู่สังคม" พระราชญาณกวีกล่าว
พระพุทธเจ้าได้บัญญัติเรื่องความรักไว้ในหลัก "พรหมวิหาร 4" เรื่องความรักที่ไม่มีเงื่อนไข ความรักที่เริ่มต้นด้วยความเมตตา คือความปรารถนาอยากจะให้ผู้อื่นมีความสุข
แต่ "นักรัก" ส่วนใหญ่ทุกวันนี้ไม่ได้เป็นอย่างนั้น ดังที่ พระพรพล ปสันโน หรือ หลวงพี่โบ๊ท จากวัดพระราม 9 กาญจนาภิเษก ตั้งข้อสังเกตว่า นักรักส่วนใหญ่ปรารถนาอยากจะให้ตัวเราเองมีความสุข เป็นความรักที่แคบ แต่ถ้าเราคิดให้กว้างคือคิดเผื่อคนอื่นด้วย ความรักจะไปได้ไกล ไม่ใช่เพื่อให้เราสมหวังในรักอย่างเดียว
"เราจะเห็นได้ว่า ในการที่เราจะรักกันไม่จำเป็นจะต้องอยู่ด้วยกันตลอด ซึ่งนี่เป็นตัวอย่างของนักรักที่ยิ่งใหญ่ คนรักกันไม่จำเป็นว่าต้องผูกมัดต้องกอดไว้ด้วยกัน เรารักกันไม่จำเป็นต้องอยู่ด้วยกันตลอด" พระพรพล ปสันโน กล่าว
หลวงพี่โบ๊ทบอกว่า การจะรักกัน ต้องเข้าใจเรื่อง "อนิจจัง-ทุกขัง- อนัตตา" ไม่ว่าจะรักสิ่งมีชีวิต หรือไม่มีชีวิตก็ตาม เพราะทุกอย่างนั้นไม่เที่ยง หลายคนอยากจะเป็นคนที่ถูกรัก แต่ยังไม่พร้อมที่จะเข้าใจเรื่องนี้ หลายคนอยากจะรักคนอื่นแต่ยังไม่รักตัวเอง นี่แสดงว่าไม่เข้าใจ
"ก่อนที่เราจะรักคนอื่นต้องทำตัวเองให้พร้อมเสียก่อน การเข้าใจหลักธรรมเบื้องต้นตรงนี้สำคัญ เมื่อเรามีความรัก วันหนึ่งเราจะต้องเจอเหตุการณ์ที่เปลี่ยนแปลงไป เพราะฉะนั้นเราจะต้องเริ่มจากการที่เรารักตัวเองก่อน ในทางพระพุทธศาสนาคนที่รักตัวเองก็คือ คนที่จะสามารถรักษาศีลได้ ถ้าเรารักษาศีลยังไม่ได้ แสดงว่าเรายังไม่รักตัวเอง เมื่อเราไม่รักตัวเองเราก็จะยังไม่พร้อมที่จะไปรักคนอื่น"
และยังบอกอีกว่า ความรักเปลี่ยนเป็นความร้ายได้ง่ายและรุนแรง ดังนั้น ใครที่จะมาเป็นนักรักจะต้องมาศึกษาธรรมะ และจะต้องมาบ่มธรรมะก่อน แล้วจึงจะไปบ่มรัก ธรรมะจะช่วยทำให้เราสร้างความรักได้อย่างถูกวิธี
การรักคนนั้นง่าย แต่การจัดการกับความรักนั้นยาก เห็นใครในรูปยินดีในรูปในเสียงนั้นก็รักกัน แต่การบริหารจัดการความรักเป็นสิ่งที่ต้องศึกษา"เราควรรักตัวสงวนตัว ความรักที่บริสุทธิ์ของวัยรุ่นทั้งหลาย
จะต้องก้าวข้ามผ่านเรื่องร่างกายไปให้ได้ ถ้ารักจริงต้องไม่รักกันที่ภายนอกคือไม่รักที่รูปเท่านั้น เพราะรูปเสื่อมและเปลี่ยนแปลงได้ ถ้ารัก
กันจริงจะต้องเข้าถึงจิตใจกันให้ได้ จะต้องรักกันที่จิตใจจะทำให้เราอยู่กันได้นาน" หลวงพี่ โบ๊ทกล่าวทิ้งท้ายนี่เป็นมงคลชีวิตที่น่าคิดสำหรับ "วันแห่งความรัก"เป็นหลักคิดสำหรับการสร้างรักที่บริสุทธิ์และยั่งยืน
ขอบคุณที่มาจาก : มติชน ฉบับวันที่ 14 ก.พ. 2556 (กรอบบ่าย)
แสดงความคิดเห็น
รายละเอียดกระทู้
'บ่มรัก บ่มธรรม' ส่งความรักผ่านธรรมะ บริสุทธิ์และยั่งยืน ศิวพร อ่องศรี "กุมภาพันธ์" เป็นเดือนที่เต็มไปด้วยบรรยากาศของความรัก เพราะมีวันสำคัญของชาติตะวันตกที่แพร่หลายและได้รับความนิยมไปทั่วทุกมุมโลก อย่าง วันวาเลนไทน์ ซึ่งตรงกับวันที่ 14 กุมภาพันธ์ ของทุกปี กระแสความนิยมของวันวาเลนไทน์ได้เข้ามามีบทบาทในสังคมไทยโดยเฉพาะอย่างยิ่งวัยรุ่นหนุ่มสาว แต่นอกจากวันวาเลนไทน์แล้ว ในเดือนกุมภาพันธ์ยังมีวันสำคัญของพุทธศาสนิกชน คือ วันมาฆบูชา ตรงกับวันขึ้น 15 ค่ำ เดือน 3 ซึ่งเป็นวันที่พระสัมมาสัมพุทธเจ้าได้ทรงแสดงโอวาทปาฏิโมกข์แก่พระสงฆ์สาวก เป็นครั้งแรก ฉะนั้น ในเดือนที่มีวันสำคัญและโอกาสพิเศษนี้ จึงควรส่งเสริมให้ทั้งวันแห่งความรักและวันมาฆบูชา มีความสำคัญควบคู่กันไป ด้วยการส่งความรักผ่านธรรมะตามหลักคำสอนของพระพุทธเจ้า ซึ่งจะทำให้ความรักนั้นบริสุทธิ์และยั่งยืน ศูนย์หนังสือจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ร่วมกับ วัดพระราม 9 กาญจนาภิเษก จัดกิจกรรม "หัวใจกับใบโพธิ์ ครั้งที่ 4 : บ่มรัก บ่มธรรม" พร้อมจัดเสวนาธรรมเรื่อง "บ่มรัก บ่มธรรม"เพื่อกระตุ้นเตือนวัยรุ่นยุคใหม่ ตลอดจนพุทธศาสนิกชนให้ตระหนักและเห็นคุณค่าของความรักที่ควรมีควบคู่กับความ ดีงามที่อยู่ในขอบเขตของศีลธรรม โดยยึดเอาหลักธรรมคำสอนของพระพุทธศาสนามาประพฤติปฏิบัติ พระราชญาณกวี ผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดพระราม 9 กาญจนาภิเษก อธิบายถึงความรักที่บริสุทธิ์ว่า รักบริสุทธิ์ คือความรักที่ปราศจากเงื่อนไขและกาลเวลา เกิดขึ้นได้หากเราช่วยกันสร้าง ส่วนการบ่มรักบ่มธรรมนั้นหมายถึง บ่มทุกอย่างที่เราจะใช้ เปรียบเหมือนผลไม้ที่ต้องบ่ม กินดิบๆ ยังไม่ได้ "เด็กทุกวันนี้ความรักไม่สุกงอมแล้วไปปลิด เหมือนกับต้นไม้ที่ออกลูกมาพอสักพักก็เก็บไปกินเสียก่อน เลยเกิดปัญหาขึ้นมาว่า ถามว่าจะทำอย่างไรให้เกิดความสุข? คำตอบคือคงจะต้องใช้ธรรมะเป็นแก๊สบ่ม เป็นอุปกรณ์ในการบ่มให้สุก "อาตมาเป็นห่วงเด็กและเยาวชนที่มีปัญหามากในปัจจุบันนี้ ถ้าเราไม่บ่มด้วยธรรมะให้มันลึกซึ้งถึงใจ ถึงรากเหง้าและรากฐานชีวิต เชื่อว่าถ้ารักได้บ่มธรรม ธรรมได้บ่มรัก ปัญหาหนักๆ ก็จะไม่เกิดขึ้น ปัญหาที่ควรจะแก้ไขได้ก็แก้ไขได้โดยง่าย สิ่งที่ไม่คิดว่าจะเป็นปัญหาก็จะไม่มีปัญหาเลย แต่ถ้าธรรมไม่บ่มรักหรือว่ารักไม่สนใจธรรมก็จะนำแต่ปัญหามาสู่สังคม" พระราชญาณกวีกล่าว พระพุทธเจ้าได้บัญญัติเรื่องความรักไว้ในหลัก "พรหมวิหาร 4" เรื่องความรักที่ไม่มีเงื่อนไข ความรักที่เริ่มต้นด้วยความเมตตา คือความปรารถนาอยากจะให้ผู้อื่นมีความสุข แต่ "นักรัก" ส่วนใหญ่ทุกวันนี้ไม่ได้เป็นอย่างนั้น ดังที่ พระพรพล ปสันโน หรือ หลวงพี่โบ๊ท จากวัดพระราม 9 กาญจนาภิเษก ตั้งข้อสังเกตว่า นักรักส่วนใหญ่ปรารถนาอยากจะให้ตัวเราเองมีความสุข เป็นความรักที่แคบ แต่ถ้าเราคิดให้กว้างคือคิดเผื่อคนอื่นด้วย ความรักจะไปได้ไกล ไม่ใช่เพื่อให้เราสมหวังในรักอย่างเดียว "เราจะเห็นได้ว่า ในการที่เราจะรักกันไม่จำเป็นจะต้องอยู่ด้วยกันตลอด ซึ่งนี่เป็นตัวอย่างของนักรักที่ยิ่งใหญ่ คนรักกันไม่จำเป็นว่าต้องผูกมัดต้องกอดไว้ด้วยกัน เรารักกันไม่จำเป็นต้องอยู่ด้วยกันตลอด" พระพรพล ปสันโน กล่าว หลวงพี่โบ๊ทบอกว่า การจะรักกัน ต้องเข้าใจเรื่อง "อนิจจัง-ทุกขัง- อนัตตา" ไม่ว่าจะรักสิ่งมีชีวิต หรือไม่มีชีวิตก็ตาม เพราะทุกอย่างนั้นไม่เที่ยง หลายคนอยากจะเป็นคนที่ถูกรัก แต่ยังไม่พร้อมที่จะเข้าใจเรื่องนี้ หลายคนอยากจะรักคนอื่นแต่ยังไม่รักตัวเอง นี่แสดงว่าไม่เข้าใจ "ก่อนที่เราจะรักคนอื่นต้องทำตัวเองให้พร้อมเสียก่อน การเข้าใจหลักธรรมเบื้องต้นตรงนี้สำคัญ เมื่อเรามีความรัก วันหนึ่งเราจะต้องเจอเหตุการณ์ที่เปลี่ยนแปลงไป เพราะฉะนั้นเราจะต้องเริ่มจากการที่เรารักตัวเองก่อน ในทางพระพุทธศาสนาคนที่รักตัวเองก็คือ คนที่จะสามารถรักษาศีลได้ ถ้าเรารักษาศีลยังไม่ได้ แสดงว่าเรายังไม่รักตัวเอง เมื่อเราไม่รักตัวเองเราก็จะยังไม่พร้อมที่จะไปรักคนอื่น" และยังบอกอีกว่า ความรักเปลี่ยนเป็นความร้ายได้ง่ายและรุนแรง ดังนั้น ใครที่จะมาเป็นนักรักจะต้องมาศึกษาธรรมะ และจะต้องมาบ่มธรรมะก่อน แล้วจึงจะไปบ่มรัก ธรรมะจะช่วยทำให้เราสร้างความรักได้อย่างถูกวิธี การรักคนนั้นง่าย แต่การจัดการกับความรักนั้นยาก เห็นใครในรูปยินดีในรูปในเสียงนั้นก็รักกัน แต่การบริหารจัดการความรักเป็นสิ่งที่ต้องศึกษา"เราควรรักตัวสงวนตัว ความรักที่บริสุทธิ์ของวัยรุ่นทั้งหลาย จะต้องก้าวข้ามผ่านเรื่องร่างกายไปให้ได้ ถ้ารักจริงต้องไม่รักกันที่ภายนอกคือไม่รักที่รูปเท่านั้น เพราะรูปเสื่อมและเปลี่ยนแปลงได้ ถ้ารัก กันจริงจะต้องเข้าถึงจิตใจกันให้ได้ จะต้องรักกันที่จิตใจจะทำให้เราอยู่กันได้นาน" หลวงพี่ โบ๊ทกล่าวทิ้งท้ายนี่เป็นมงคลชีวิตที่น่าคิดสำหรับ "วันแห่งความรัก"เป็นหลักคิดสำหรับการสร้างรักที่บริสุทธิ์และยั่งยืน ขอบคุณที่มาจาก : มติชน ฉบับวันที่ 14 ก.พ. 2556 (กรอบบ่าย)
จัดฟอร์แม็ตข้อความและมัลติมีเดีย
รายละเอียดการใส่ ลิงค์ รูปภาพ วิดีโอ เพลง (Soundcloud)