'อหิงสา'มรรคาสู่สันติ(๓)ลมหายใจสร้างสันติภาพ

แสดงความคิดเห็น

'อหิงสา'มรรคาสู่สันติ(๓)ลมหายใจสร้างสันติภาพ

'อหิงสา'มรรคาสู่สันติ(๓)ลมหายใจสร้างสันติภาพ : คันฉ่องและโคมฉาย โดยว.วชิรเมธี

คนที่มีสติตื่นเต็มตัว จะเป็นคนที่ไวต่อความคิด ไวต่อคำพูด ไวต่อการกระทำ ทุกเรื่องที่คิด ทุกกิจที่ทำ ทุกคำที่พูด ทุกครั้งที่เคลื่อนไหว จะมีพลังแห่งความตื่นรู้ ตื่นตัว คอยกำกับอยู่ และดังนั้น เขาจึงกลายเป็นบุคคลที่ปราศจากความรุนแรงอย่างสิ้นเชิง เนื่องเพราะพลังงานแห่งความตื่นรู้พิเศษนี้จะไม่ปล่อยให้เขาปรุงแต่งจิตใจไป ในทางลบหรือในทางทำลายเลย คนที่มีสติอยู่เสมอ จึงเป็นบุคคลแห่งสันติภาพ

หากเรามีบุคคลที่เจริญสติกระจายอยู่ทุกหนทุกแห่ง พลังงานแห่งสันติภาพก็อยู่ตรงนั้นแล้ว และจากสันติภาพส่วนบุคคลนี้เอง เมื่อรวมกันเป็นพลังแห่งสันติของหมู่คณะก็จะกลายเป็นกลุ่มก้อนแห่งพลัง สันติภาพมวลรวมที่ช่วยให้โลกนี้มีสันติภาพ ด้วยเหตุดังกล่าวมานี้เอง เราจึงกล่าวได้ว่า “สันติส่วนบุคคล คือ รากฐานแห่งสันติภาพสากลของโลก”

การฝึกเจริญสติเพื่อสร้างสันติภาพระหว่างวันนั้นเป็นเรื่องง่ายมาก แค่เพียงเรากลับมาตามดู ตามรู้ ตามสังเกต ลมหายใจเข้า-ออกของเราบ่อยๆ ทำอย่างผ่อนคลาย สบายๆ ว่างเมื่อไหร่ก็ทำได้ เพียงแค่ตามดู ตามรู้ และสังเกตลมหายใจที่กำลังไหลเข้า ไหลออก ของเราอย่างเป็นธรรมชาติ โดยปราศจากการแทรกแซง จดจ่อ เพ่งจ้อง เราเพียงแค่ดู แค่รู้ แค่สังเกต เหมือนยืนมองดูสายน้ำที่กำลังรินไหลโดยปราศจากความคิดที่จะกระโดดลงไปแหวก ว่าย เหมือนเรายืนมองดวงดอกไม้ที่กำลังแย้มบานโดยปราศจากเจตนาที่จะเด็ดดอม แค่ดูเฉยๆ เพียงแค่นี้จริงๆ เราจะพบความจริงที่แสนมหัศจรรย์ว่า ลมหายใจของเราจะค่อยๆ แผ่วเบา ผ่อนคลาย ช้าลง และประณีตขึ้น

จากนั้นความเบาสบาย ความสดชื่น ความผ่อนคลายหายตึงเครียดจะเป็นดั่งลูกคลื่นน้อยๆ ที่ก่อตัวขึ้นมาคลี่คลุมกายและใจของเรา พร้อมกับความเบาสบายนี้ เราจะสัมผัสได้ถึงความสดชื่น รื่นเย็น โปร่งสบาย เปี่ยมไปด้วยปีติสุข หากเราหล่อเลี้ยงสภาะเช่นนี้ไว้ทุกต้นชั่วโมง ภายในหนึ่งวัน เราจะสังเกตเห็นได้อย่างชัดเจนว่า ใจของเราสงบ วาจาของเราสงบ กายของเราสงบ โลกรอบๆ ตัวเราก็สงบ พร้อมกับความสงบก็คือ ความสุข ความเบาสบาย ภาวะอย่างนี้เอง คือ สันติภาพระหว่างวันที่เกิดขึ้นในชีวิตจริงของเรา หากเราหล่อเลี้ยงสันติภาพระหว่างวันนี้เอาไว้จนกลายเป็นส่วนหนึ่งของเรา เราก็คือ บุคคลแห่งสันติภาพดีๆ นี่เอง

อนึ่ง มีข้อควรสังเกตที่ควรกล่าวไว้ในที่นี้ด้วย ก็คือ สันติภาพที่เกิดจากการตามดูตามรู้ลมหายใจนี้ ไม่ใช่สันติภาพล้วนๆ หรือไม่ใช่สันติภาพจืดๆ เรียบๆ เฉยๆ หากแต่เป็นสันติภาพที่มาพร้อมกับสันติสุข สดชื่น รื่นเย็น คือ มีความสงบด้วย มีความสุขด้วย สันติภาพที่มาพร้อมกับความสุขนี้เอง เราควรถือว่า เป็นสันติภาพแท้ เพราะไม่ใช่สันติภาพที่เกิดขึ้นหลังสงคราม สงบ ไม่ใช่สันติภาพที่เกิดขึ้นหลังจากมีใครบางคนถูกทำให้เป็นผู้พ่ายแพ้หรือบาด เจ็บล้มตาย หากแต่นี่เป็นสันติภาพเชิงสร้างสรรค์ เป็นสันติภาพเชิงบวก เป็นสันติภาพที่ก่อให้เกิดความสุขภายในใจของปัจเจกบุคคลที่พร้อมจะเผื่อแผ่ แบ่งปันออกไปยังคนอื่นๆ ได้ด้วย

ขอบคุณที่มาจาก : คมชัดลึกออนไลน์

ที่มา: คมชัดลึกออนไลน์
วันที่โพสต์: 13/02/2556 เวลา 03:49:57

แสดงความคิดเห็น

รอตรวจสอบ
จัดฟอร์แม็ต ดูการแสดงผล

รอตรวจสอบ

รอตรวจสอบ

รอตรวจสอบ

ยกเลิก

รายละเอียดกระทู้

'อหิงสา'มรรคาสู่สันติ(๓)ลมหายใจสร้างสันติภาพ 'อหิงสา'มรรคาสู่สันติ(๓)ลมหายใจสร้างสันติภาพ : คันฉ่องและโคมฉาย โดยว.วชิรเมธี คนที่มีสติตื่นเต็มตัว จะเป็นคนที่ไวต่อความคิด ไวต่อคำพูด ไวต่อการกระทำ ทุกเรื่องที่คิด ทุกกิจที่ทำ ทุกคำที่พูด ทุกครั้งที่เคลื่อนไหว จะมีพลังแห่งความตื่นรู้ ตื่นตัว คอยกำกับอยู่ และดังนั้น เขาจึงกลายเป็นบุคคลที่ปราศจากความรุนแรงอย่างสิ้นเชิง เนื่องเพราะพลังงานแห่งความตื่นรู้พิเศษนี้จะไม่ปล่อยให้เขาปรุงแต่งจิตใจไป ในทางลบหรือในทางทำลายเลย คนที่มีสติอยู่เสมอ จึงเป็นบุคคลแห่งสันติภาพ หากเรามีบุคคลที่เจริญสติกระจายอยู่ทุกหนทุกแห่ง พลังงานแห่งสันติภาพก็อยู่ตรงนั้นแล้ว และจากสันติภาพส่วนบุคคลนี้เอง เมื่อรวมกันเป็นพลังแห่งสันติของหมู่คณะก็จะกลายเป็นกลุ่มก้อนแห่งพลัง สันติภาพมวลรวมที่ช่วยให้โลกนี้มีสันติภาพ ด้วยเหตุดังกล่าวมานี้เอง เราจึงกล่าวได้ว่า “สันติส่วนบุคคล คือ รากฐานแห่งสันติภาพสากลของโลก” การฝึกเจริญสติเพื่อสร้างสันติภาพระหว่างวันนั้นเป็นเรื่องง่ายมาก แค่เพียงเรากลับมาตามดู ตามรู้ ตามสังเกต ลมหายใจเข้า-ออกของเราบ่อยๆ ทำอย่างผ่อนคลาย สบายๆ ว่างเมื่อไหร่ก็ทำได้ เพียงแค่ตามดู ตามรู้ และสังเกตลมหายใจที่กำลังไหลเข้า ไหลออก ของเราอย่างเป็นธรรมชาติ โดยปราศจากการแทรกแซง จดจ่อ เพ่งจ้อง เราเพียงแค่ดู แค่รู้ แค่สังเกต เหมือนยืนมองดูสายน้ำที่กำลังรินไหลโดยปราศจากความคิดที่จะกระโดดลงไปแหวก ว่าย เหมือนเรายืนมองดวงดอกไม้ที่กำลังแย้มบานโดยปราศจากเจตนาที่จะเด็ดดอม แค่ดูเฉยๆ เพียงแค่นี้จริงๆ เราจะพบความจริงที่แสนมหัศจรรย์ว่า ลมหายใจของเราจะค่อยๆ แผ่วเบา ผ่อนคลาย ช้าลง และประณีตขึ้น จากนั้นความเบาสบาย ความสดชื่น ความผ่อนคลายหายตึงเครียดจะเป็นดั่งลูกคลื่นน้อยๆ ที่ก่อตัวขึ้นมาคลี่คลุมกายและใจของเรา พร้อมกับความเบาสบายนี้ เราจะสัมผัสได้ถึงความสดชื่น รื่นเย็น โปร่งสบาย เปี่ยมไปด้วยปีติสุข หากเราหล่อเลี้ยงสภาะเช่นนี้ไว้ทุกต้นชั่วโมง ภายในหนึ่งวัน เราจะสังเกตเห็นได้อย่างชัดเจนว่า ใจของเราสงบ วาจาของเราสงบ กายของเราสงบ โลกรอบๆ ตัวเราก็สงบ พร้อมกับความสงบก็คือ ความสุข ความเบาสบาย ภาวะอย่างนี้เอง คือ สันติภาพระหว่างวันที่เกิดขึ้นในชีวิตจริงของเรา หากเราหล่อเลี้ยงสันติภาพระหว่างวันนี้เอาไว้จนกลายเป็นส่วนหนึ่งของเรา เราก็คือ บุคคลแห่งสันติภาพดีๆ นี่เอง อนึ่ง มีข้อควรสังเกตที่ควรกล่าวไว้ในที่นี้ด้วย ก็คือ สันติภาพที่เกิดจากการตามดูตามรู้ลมหายใจนี้ ไม่ใช่สันติภาพล้วนๆ หรือไม่ใช่สันติภาพจืดๆ เรียบๆ เฉยๆ หากแต่เป็นสันติภาพที่มาพร้อมกับสันติสุข สดชื่น รื่นเย็น คือ มีความสงบด้วย มีความสุขด้วย สันติภาพที่มาพร้อมกับความสุขนี้เอง เราควรถือว่า เป็นสันติภาพแท้ เพราะไม่ใช่สันติภาพที่เกิดขึ้นหลังสงคราม สงบ ไม่ใช่สันติภาพที่เกิดขึ้นหลังจากมีใครบางคนถูกทำให้เป็นผู้พ่ายแพ้หรือบาด เจ็บล้มตาย หากแต่นี่เป็นสันติภาพเชิงสร้างสรรค์ เป็นสันติภาพเชิงบวก เป็นสันติภาพที่ก่อให้เกิดความสุขภายในใจของปัจเจกบุคคลที่พร้อมจะเผื่อแผ่ แบ่งปันออกไปยังคนอื่นๆ ได้ด้วย ขอบคุณที่มาจาก : คมชัดลึกออนไลน์

จัดฟอร์แม็ตข้อความและมัลติมีเดีย

  1. เพิ่ม
  2. เพิ่ม ลบ
  3. เพิ่ม ลบ
  4. เพิ่ม ลบ
  5. เพิ่ม ลบ
  6. เพิ่ม ลบ
  7. เพิ่ม ลบ
  8. เพิ่ม ลบ
  9. เพิ่ม ลบ
  10. ลบ
เลือกการตกแต่งที่ต้องการ

ตกลง ยกเลิก

รายละเอียดการใส่ ลิงค์ รูปภาพ วิดีโอ เพลง (Soundcloud)

Waiting...