'ประสงค์'ชี้ยังไม่เห็นตัวชี้วัดคอร์รัปชั่นน้อยลงยุคคสช.

'ประสงค์'ชี้ยังไม่เห็นตัวชี้วัดคอร์รัปชั่นน้อยลงยุคคสช.

ผอ.สถาบันอิศรา ชี้ ยังไม่เห็นตัวชี้วัดมีคอร์รัปชั่นน้อยลงยุค คสช. ติงใช้ ม.44 โยกย้าย ขรก.อื่น แต่ไม่เคยทำกับสีเขียว ด้าน กรธ. ยัน รธน.ใหม่ออกแบบ เพื่อป้องกันทุจริต

นายประสงค์ เลิศรัตนวิสุทธ์ ผู้อำนวยการสถาบันอิศรา กล่าวในการเสวนา รัฐบาลใหม่ คอร์รัปชั่นเก่า ว่า ส่วนตัวยังไม่เห็นว่ามีตัวชี้วัดใดที่ทำให้เห็นว่าการคอร์รัปชั่นลดลง หลังจากการยึดอำนาจในปี 2557 อัตราการจ่ายสินบนลดลง อาจเพราะกลุ่มที่หาผลประโยชน์ชะงักเพื่อดูท่าทีของ คสช. แต่เมื่อเห็นว่า คสช.ไม่เอาจริง กลุ่มดังกล่าวก็หาช่องทาง และเริ่มกระบวนการใหม่ การจ่ายสินบนก็เริ่มกลับมาอยู่ในอัตราเดิม และกลุ่มเหล่านี้จะเห็นช่องทางว่าจะเกาะอำนาจกลุ่มใดด้วย

นายประสงค์ ยังกล่าวอีกว่า ข่วงที่ผ่านมารัฐบาลชุดนั้น ได้ใช้อำนาจมาตรา 44 ในการโยกย้ายและพักงานข้าราชการ 300 กว่าราย แต่กลับไม่มีคนที่ใส่เครื่องแบบสีเขียวเลย รวมถึงมีการโยกย้ายนักการเมืองท้องถิ่น แต่เห็นว่าผู้ที่สมควรโดนย้ายกลับไม่โดน ดังนั้น จึงเห็นว่า มาตรา 44 แก้ปัญหาใดไม่ได้เลย ส่วนตัวจึงสนับสนุนให้กรรมการร่างรัฐธรรมนูญ (กรธ.) เซ็ตซีโร่ทุกองค์กร

ขณะที่ นายภัทระ คำพิทักษ์ กรรมการร่างรัฐธรรมนูญ กล่าวว่า รัฐธรรมนูญฉบับปัจจุบันได้ออกแบบเพื่อป้องกันนักการเมืองทุจริตเข้าสู่วงการเมือง รวมถึงกำหนดให้สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรมีส่วนรู้เห็นในการใช้งบประมาณ หากไม่โปร่งใส สภาผู้แทนราษฎรทั้งสภาต้องรับผิดชอบ ขณะเดียวกัน ได้ป้องกันการใช้งบประมาณเพื่อประโยชน์ทางการเมือง ซึ่งในการร่างพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามทุจริต ได้มีการกำหนดถึงนิติบุคคลที่จ่ายสินบนจะต้องถูกตรวจสอบและสามารถเอาผิดได้

ทั้งนี้ ใน ม.63 ของรัฐธรรมนูญ ได้กำหนดให้รัฐส่งเสริมให้ประชาชนมีส่วนร่วมในการต่อต้านการทุจริต และจัดให้มีมาตรการและกลไกที่มีประสิทธิภาพ ดังนั้นจึงต้องมีการร่างกฎหมายลูกมารองรับมาตรานี้ โดยจะต้องให้ความสำคัญกับการเปิดเผยข้อมูล การชี้เบาะและ และการคุ้มครอบพยาน เพราะอุปสรรคในการตรวจสอบขณะนี้เป็นเพราะแต่ละหน่วยงานไม่เปิดเผยข้อมูลการจัดซื้อจัดจ้างและยังคงหวงอำนาจทำให้ยากแก่การที่ประชาชนจะเข้าไปตรวจสอบข้อมูล กรธ. จึงมีแนวคิดที่จะบูรณาการการทำงานของหน่วยงานตรวจสอบ

นายภัทระ กล่าวถึงกรณีที่ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ซึ่งเป็นจำเลยในคดีโครงการรับจำข้าวหลบหนีออกนอกประเทศ ว่า การที่ผู้ที่มีอำนาจสามารถหลบหนีไปได้ทำให้เห็นว่าโครงสร้างกระบวนการยุติธรรมที่มีปัญหา เหมือนกรณีลูกคนรวยขับรถชนคนตายสามารถหนีไปออกได้โดยไม่ต้องรับโทษ ดังนั้นจึงไม่ควรปล่อยให้กระบวนการเหล่านี้ลอยนวล ทุกคนทุกฝ่ายต้องช่วยกันตรวจสอบและอย่าปล่อยให้มีการปฏิรูปตำรวจผิดทาง ส่วนจะมีการรีเซ็ตกรรมการคณะกรรมการป้องกันและผราบปรามการทุจรอตแห่งชาติ(ป.ป.ช.) หรือไม่นั้น นายภัทระ ระบุว่า กรธ.จะยึดที่คุณสมบัติเป็นหลัก ใครขาดก็ต้องพ้นจากตำแหน่งไป

ด้าน นายประสงค์ เลิศรัตนวิสุทธ์ ผู้อำนวยการสถาบันอิศรา กล่าวว่า การปล่อยให้จำเลยในคดีสำคัญของประเทศหลบหนี แสดงถึงอำนาจรัฐที่ล้มเหลวและอ่อนแอ

ขอบคุณ... http://www.innnews.co.th/shownews/show?newscode=808462

ที่มา: innnews.co.th/มูลนิธิพัฒนาคนพิการไทย 7 ก.ย.60
วันที่โพสต์: 7/09/2560 เวลา 11:31:35 ดูภาพสไลด์โชว์ 'ประสงค์'ชี้ยังไม่เห็นตัวชี้วัดคอร์รัปชั่นน้อยลงยุคคสช.