วัดใจรัฐบาล

แสดงความคิดเห็น

ศาลรัฐธรรมนูญ รู้สึกอึดอัดกับคดีความที่ไปเกี่ยวข้องกับวิถีการเมืองพอสมควร แต่จะเกี่ยวข้องกับการตัดสินใจลาออกจากประธานและตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ ของ คุณวสันต์ สร้อยพิสุทธิ์ หรือไม่ เป็นอีกประเด็น

การตัดสินใจของ รัฐบาลเสียงข้างมาก ที่จะต้องรักษาศักดิ์ศรีของสถาบันนิติบัญญัติ เอาไว้โดยการเดินหน้าโหวตรัฐธรรมนูญในวาระ 3 หรือ เดินหน้าแก้ไขรัฐธรรมนูญ เป็นรายมาตรา จึงต้องมีการเตรียมพร้อมเอาไว้ เผื่อเกิดอุบัติเหตุทางการเมืองขึ้นมาจะได้มีทางออก

ถึงฝ่ายรัฐบาลจะออกมาปฏิเสธว่า ไม่มีการยุบสภาอย่างที่เป็นข่าว แต่การเมืองไม่มีอะไรแน่นอน เงื่อนไขทางการเมือง จะซับซ้อน หรือ รุนแรง แค่ไหน บางครั้ง สามารถผ่านคลื่นลมไปได้อย่างมหัศจรรย์ หรืออย่างในบางสถานการณ์ ไม่มีคลื่นลมแม้แต่น้อย รัฐบาลแพ้ภัยตัวเอง ทะเลาะกันเองจนอยู่ไม่ได้

ขึ้นอยู่กับวาสนาด้วย

การคาดเดาทางการเมือง เป็นเรื่องยาก คุณสุเทพ เทือกสุบรรณ ไปพูดเอาไว้บนเวทีเดินหน้าผ่าความจริง ครั้งล่าสุดขอให้ประชาชนเตรียมพร้อม จะไม่อดทนต่อรัฐบาลอีกต่อไป จะลุกขึ้นมาหยุดรัฐบาล เดือน ส.ค.และ ก.ย.นี้ และจะเป็นไปตามคำทำนาย ของโหรหรือไม่ให้ติดตาม

จับอาการรัฐบาลก็ไม่น้อย นายกฯยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ลงพื้นที่ ลุยงานนโยบายรัฐบาล ชนิดถึงลูกถึงคน ภาษาการเมืองคือเริ่มเรียกคะแนนเสียง เตรียมพร้อมเอาไว้สำหรับ อนาคตทางการเมืองเช่นกัน

แสดงว่ารัฐบาลกำลังตัดสินใจเดินหน้า เรื่องสำคัญที่จะมีผลกระทบกับรัฐบาล โดยเฉพาะกฎหมายที่ยังติดขัดอยู่ในสภา และถูกร้องไปยังองค์กรอิสระ ตรวจสอบความไม่ชอบมาพากล

เกมนี้จึงเป็นการ วัดใจรัฐบาลนายกฯยิ่งลักษณ์ จะสู้หรือถอย ถ้าถอยยอมหลบทุกเรื่อง งานรัฐบาลก็ไม่เดินนโยบายก็ไม่ประสบความสำเร็จ เลือกตั้งครั้งต่อไป เห็นทีจะเหนื่อยและเหลือไม่เท่าเดิม

ถึงเวลาแตกหัก ที่รัฐบาลต้องตัดสินใจเดินหน้า

ชิงพื้นที่สื่อ ชิงมวลชน เกมชิงอำนาจการเมือง ได้เวลาโหมไฟการเมืองอีกระลอก เปิดตัวขบวนการ ไล่รัฐบาล เปลี่ยนชื่อแต่ไม่เปลี่ยนหน้า เลยเดาทางกันถูก ขึ้นอยู่กับว่า ม็อบจะจุดติดหรือไม่เท่านั้น ถ้าไม่ติดรัฐบาลก็ลอยลำ....โดย หมัดเหล็ก

ขอบคุณ … http://www.thairath.co.th/column/pol/kaablook/358661

ไทยรัฐออนไลน์/มูลนิธิพัฒนาคนพิการไทย 23 ก.ค.56

ที่มา: ไทยรัฐออนไลน์/มูลนิธิพัฒนาคนพิการไทย 23 ก.ค.56
วันที่โพสต์: 23/07/2556 เวลา 03:16:30

แสดงความคิดเห็น

รายละเอียดกระทู้

ข้อร้องเรียน แก้ไขรัฐธรรมนูญรายมาตรา ขัดกับรัฐธรรมนูญยังค้างการพิจารณาอยู่ในศาลรัฐธรรมนูญ ท่ีสันนิษฐานกันว่า หากศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยออกมาว่า เป็นการขัดกับรัฐธรรมนูญจริง ส.ส.-ส.ว.ประมาณ 312 คน เห็นทีต้องพบกับวิบากกรรมกันทั้งยวง ด้วยเหตุนี้ทำให้ ตุลาการ ศาลรัฐธรรมนูญ รู้สึกอึดอัดกับคดีความที่ไปเกี่ยวข้องกับวิถีการเมืองพอสมควร แต่จะเกี่ยวข้องกับการตัดสินใจลาออกจากประธานและตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ ของ คุณวสันต์ สร้อยพิสุทธิ์ หรือไม่ เป็นอีกประเด็น การตัดสินใจของ รัฐบาลเสียงข้างมาก ที่จะต้องรักษาศักดิ์ศรีของสถาบันนิติบัญญัติ เอาไว้โดยการเดินหน้าโหวตรัฐธรรมนูญในวาระ 3 หรือ เดินหน้าแก้ไขรัฐธรรมนูญ เป็นรายมาตรา จึงต้องมีการเตรียมพร้อมเอาไว้ เผื่อเกิดอุบัติเหตุทางการเมืองขึ้นมาจะได้มีทางออก ถึงฝ่ายรัฐบาลจะออกมาปฏิเสธว่า ไม่มีการยุบสภาอย่างที่เป็นข่าว แต่การเมืองไม่มีอะไรแน่นอน เงื่อนไขทางการเมือง จะซับซ้อน หรือ รุนแรง แค่ไหน บางครั้ง สามารถผ่านคลื่นลมไปได้อย่างมหัศจรรย์ หรืออย่างในบางสถานการณ์ ไม่มีคลื่นลมแม้แต่น้อย รัฐบาลแพ้ภัยตัวเอง ทะเลาะกันเองจนอยู่ไม่ได้ ขึ้นอยู่กับวาสนาด้วย การคาดเดาทางการเมือง เป็นเรื่องยาก คุณสุเทพ เทือกสุบรรณ ไปพูดเอาไว้บนเวทีเดินหน้าผ่าความจริง ครั้งล่าสุดขอให้ประชาชนเตรียมพร้อม จะไม่อดทนต่อรัฐบาลอีกต่อไป จะลุกขึ้นมาหยุดรัฐบาล เดือน ส.ค.และ ก.ย.นี้ และจะเป็นไปตามคำทำนาย ของโหรหรือไม่ให้ติดตาม จับอาการรัฐบาลก็ไม่น้อย นายกฯยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ลงพื้นที่ ลุยงานนโยบายรัฐบาล ชนิดถึงลูกถึงคน ภาษาการเมืองคือเริ่มเรียกคะแนนเสียง เตรียมพร้อมเอาไว้สำหรับ อนาคตทางการเมืองเช่นกัน แสดงว่ารัฐบาลกำลังตัดสินใจเดินหน้า เรื่องสำคัญที่จะมีผลกระทบกับรัฐบาล โดยเฉพาะกฎหมายที่ยังติดขัดอยู่ในสภา และถูกร้องไปยังองค์กรอิสระ ตรวจสอบความไม่ชอบมาพากล เกมนี้จึงเป็นการ วัดใจรัฐบาลนายกฯยิ่งลักษณ์ จะสู้หรือถอย ถ้าถอยยอมหลบทุกเรื่อง งานรัฐบาลก็ไม่เดินนโยบายก็ไม่ประสบความสำเร็จ เลือกตั้งครั้งต่อไป เห็นทีจะเหนื่อยและเหลือไม่เท่าเดิม ถึงเวลาแตกหัก ที่รัฐบาลต้องตัดสินใจเดินหน้า ชิงพื้นที่สื่อ ชิงมวลชน เกมชิงอำนาจการเมือง ได้เวลาโหมไฟการเมืองอีกระลอก เปิดตัวขบวนการ ไล่รัฐบาล เปลี่ยนชื่อแต่ไม่เปลี่ยนหน้า เลยเดาทางกันถูก ขึ้นอยู่กับว่า ม็อบจะจุดติดหรือไม่เท่านั้น ถ้าไม่ติดรัฐบาลก็ลอยลำ....โดย หมัดเหล็ก ขอบคุณ … http://www.thairath.co.th/column/pol/kaablook/358661 ไทยรัฐออนไลน์/มูลนิธิพัฒนาคนพิการไทย 23 ก.ค.56