องค์กรประชาชนมิใช่ขยะ
ก่อนเปิดการประชุมผู้นำด้านน้ำเอเชีย–แปซิฟิก ครั้งที่ 2 ที่เชียงใหม่ ระหว่างวันที่ 14–20 พฤษภาคม นายปลอดประสพ สุรัสวดี รองนายกรัฐมนตรีและประธานคณะ กรรมการบริหารจัดการน้ำ ขู่ว่าถ้ามีมวลชนชุมนุมประท้วงจะให้ตำรวจจับดำเนินคดีเข้าคุกทั้งหมด โดยไม่มีการเจรจาใดๆ และบอกชาวเชียงใหม่ “ไม่ควรปล่อยให้พวก ขยะเหล่านี้มาเกะกะ”
เป็นคำพูดที่ประธานองค์กรเอกชนด้านสิ่งแวดล้อมและคุ้มครองทรัพยากรธรรมชาติถือว่าเป็นการดูถูก เหยียดหยาม ข่มขู่คุกคาม ไม่น่าจะออกจากปากคน ระดับรองนายกรัฐมนตรี และชี้แจงว่าในเวที การประชุมนานาชาติทั่วไปมักจะจัดเวทีคู่ขนานเพื่อให้ทุกภาคส่วนร่วมแสดงความคิดเห็นที่หลากหลาย เพราะรัฐบาลฝ่ายเดียว ไม่มีข้อมูล และการประเมินสถานการณ์รอบด้าน
จากการติดตามการเคลื่อนไหวขององค์กรภาคเอกชนที่ผ่านมา ถึงแม้จะ จัดเวทีคู่ขนานกับเวทีของทางการ แต่มักจะ เป็นการชุมนุมโดยสงบ เพราะองค์กรเอก-ชนส่วนใหญ่ไม่ใช่องค์กรการเมือง เพียงแต่ ต้องการแสดงความคิดเห็น หรือสะท้อนปัญหาให้ภาครัฐ ไม่เหมือนกับที่กลุ่มผู้สนับสนุนรัฐบาลเคยบุกทำลายการประชุมสุดยอด นานาชาติที่พัทยา
การชุมนุมในลักษณะนี้จึงเป็นการชุมนุมโดยสงบและปราศจากอาวุธ เป็น เสรีภาพของประชาชนที่ได้รับความคุ้มครองตามรัฐธรรมนูญ ต่างจากการชุมนุมของกลุ่มผู้สนับสนุนรัฐบาลที่มีการปิดถนนสายสำคัญในย่านศูนย์การค้ากลางเมืองหลวงหรือการชุมนุมข่มขู่คุกคาม เช่น ขู่ว่าจะจับ ตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ ในฐานะผู้ต้องหาประชาชน
รัฐมนตรีของพรรคการเมืองที่อ้างว่าเป็นประชาธิปไตย ต่อสู้เพื่อประ-ชาธิปไตย ต้องการยกเลิกรัฐธรรมนูญที่เห็นว่าเป็นเผด็จการ และยกร่างรัฐธรรมนูญใหม่ที่เป็นประชาธิปไตยแท้ จะต้องเคารพเสรีภาพของประชาชน ในการชุมนุมอย่างสงบและปราศจากอาวุธ ซึ่งเป็นเสรีภาพตามรัฐธรรมนูญ ไม่ควรกระทำการใดๆที่ถูกมองว่าเป็นแบบ “อำนาจนิยม”
ลัทธิหรือแนวความคิดแบบอำนาจนิยม มีหลักการว่าประชาชนต้องเชื่อฟังอำนาจ และคำสั่งของผู้มีอำนาจ ถึงแม้จะไม่เป็นธรรมหรือถึงแม้จะต้องสูญเสียเสรีภาพของตน เป็นแนวความคิดที่ตรงข้ามกับ “ประชาธิปไตย” ที่นักการเมืองมักจะกล่าวอ้างเพียงเพื่อให้เท่ๆ แต่ไม่ได้ยึดถือปฏิบัติอย่างจริงจัง จึงทำให้ประชา-ธิปไตยไทยล้าหลัง
รัฐมนตรีที่อ้างว่าเป็นนักประ-ชาธิปไตย ไม่ควรดูถูกองค์กรภาคประชาชน เป็น “พวกขยะ” เพราะองค์กรเอกชนเป็นส่วนสำคัญของการเมืองภาคประชาชนตรงกันข้าม รัฐบาลจะต้องส่งเสริมให้ภาคประชาสังคมเข้มแข็ง ถ้าภาคประชาชนอ่อนแอ ประชาธิปไตยก็จะอ่อนแอ นักรัฐศาสตร์เยอรมันคนหนึ่งระบุว่า ภาคประชาสังคมที่อ่อนแอ เป็นเหตุหนึ่งของรัฐประหารในไทย.
ขอบคุณ... http://www.thairath.co.th/column/pol/editor/344916
แสดงความคิดเห็น
รายละเอียดกระทู้
ก่อนเปิดการประชุมผู้นำด้านน้ำเอเชีย–แปซิฟิก ครั้งที่ 2 ที่เชียงใหม่ ระหว่างวันที่ 14–20 พฤษภาคม นายปลอดประสพ สุรัสวดี รองนายกรัฐมนตรีและประธานคณะ กรรมการบริหารจัดการน้ำ ขู่ว่าถ้ามีมวลชนชุมนุมประท้วงจะให้ตำรวจจับดำเนินคดีเข้าคุกทั้งหมด โดยไม่มีการเจรจาใดๆ และบอกชาวเชียงใหม่ “ไม่ควรปล่อยให้พวก ขยะเหล่านี้มาเกะกะ” เป็นคำพูดที่ประธานองค์กรเอกชนด้านสิ่งแวดล้อมและคุ้มครองทรัพยากรธรรมชาติถือว่าเป็นการดูถูก เหยียดหยาม ข่มขู่คุกคาม ไม่น่าจะออกจากปากคน ระดับรองนายกรัฐมนตรี และชี้แจงว่าในเวที การประชุมนานาชาติทั่วไปมักจะจัดเวทีคู่ขนานเพื่อให้ทุกภาคส่วนร่วมแสดงความคิดเห็นที่หลากหลาย เพราะรัฐบาลฝ่ายเดียว ไม่มีข้อมูล และการประเมินสถานการณ์รอบด้าน จากการติดตามการเคลื่อนไหวขององค์กรภาคเอกชนที่ผ่านมา ถึงแม้จะ จัดเวทีคู่ขนานกับเวทีของทางการ แต่มักจะ เป็นการชุมนุมโดยสงบ เพราะองค์กรเอก-ชนส่วนใหญ่ไม่ใช่องค์กรการเมือง เพียงแต่ ต้องการแสดงความคิดเห็น หรือสะท้อนปัญหาให้ภาครัฐ ไม่เหมือนกับที่กลุ่มผู้สนับสนุนรัฐบาลเคยบุกทำลายการประชุมสุดยอด นานาชาติที่พัทยา การชุมนุมในลักษณะนี้จึงเป็นการชุมนุมโดยสงบและปราศจากอาวุธ เป็น เสรีภาพของประชาชนที่ได้รับความคุ้มครองตามรัฐธรรมนูญ ต่างจากการชุมนุมของกลุ่มผู้สนับสนุนรัฐบาลที่มีการปิดถนนสายสำคัญในย่านศูนย์การค้ากลางเมืองหลวงหรือการชุมนุมข่มขู่คุกคาม เช่น ขู่ว่าจะจับ ตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ ในฐานะผู้ต้องหาประชาชน รัฐมนตรีของพรรคการเมืองที่อ้างว่าเป็นประชาธิปไตย ต่อสู้เพื่อประ-ชาธิปไตย ต้องการยกเลิกรัฐธรรมนูญที่เห็นว่าเป็นเผด็จการ และยกร่างรัฐธรรมนูญใหม่ที่เป็นประชาธิปไตยแท้ จะต้องเคารพเสรีภาพของประชาชน ในการชุมนุมอย่างสงบและปราศจากอาวุธ ซึ่งเป็นเสรีภาพตามรัฐธรรมนูญ ไม่ควรกระทำการใดๆที่ถูกมองว่าเป็นแบบ “อำนาจนิยม” ลัทธิหรือแนวความคิดแบบอำนาจนิยม มีหลักการว่าประชาชนต้องเชื่อฟังอำนาจ และคำสั่งของผู้มีอำนาจ ถึงแม้จะไม่เป็นธรรมหรือถึงแม้จะต้องสูญเสียเสรีภาพของตน เป็นแนวความคิดที่ตรงข้ามกับ “ประชาธิปไตย” ที่นักการเมืองมักจะกล่าวอ้างเพียงเพื่อให้เท่ๆ แต่ไม่ได้ยึดถือปฏิบัติอย่างจริงจัง จึงทำให้ประชา-ธิปไตยไทยล้าหลัง รัฐมนตรีที่อ้างว่าเป็นนักประ-ชาธิปไตย ไม่ควรดูถูกองค์กรภาคประชาชน เป็น “พวกขยะ” เพราะองค์กรเอกชนเป็นส่วนสำคัญของการเมืองภาคประชาชนตรงกันข้าม รัฐบาลจะต้องส่งเสริมให้ภาคประชาสังคมเข้มแข็ง ถ้าภาคประชาชนอ่อนแอ ประชาธิปไตยก็จะอ่อนแอ นักรัฐศาสตร์เยอรมันคนหนึ่งระบุว่า ภาคประชาสังคมที่อ่อนแอ เป็นเหตุหนึ่งของรัฐประหารในไทย.
จัดฟอร์แม็ตข้อความและมัลติมีเดีย
รายละเอียดการใส่ ลิงค์ รูปภาพ วิดีโอ เพลง (Soundcloud)