บ้านเมือง: แก้รัฐธรรมนูญทำการเมืองร้อนแรง

แสดงความคิดเห็น

ความขัดแย้งของสังคมไทยเกิดขึ้นเพราะการแย่งชิงอำนาจ โดยไม่คำนึงถึงกติกาของสังคม ที่สำคัญที่สุดก็คือ ผู้กระทำไม่ได้คำนึงถึงความเสียหายที่จะเกิดขึ้นต่อประเทศและ ประชาชน ตั้งหน้าตั้งตาที่จะทำลายกันเท่านั้น จึงเป็นการยากที่จะบอกว่าจะเกิดอะไรขึ้นในอนาคต ขึ้นอยู่กับว่าจะมีประเด็นร้อนที่เกิดขึ้นขณะนั้น เปิดโอกาสให้ศัตรูทางการเมืองของรัฐบาลใช้ประโยชน์ได้แค่ไหน ถ้าพิจารณาถึงประเด็นทางการเมืองที่จะต้องดำเนินการในปี 2556 ก็มีแนวโน้มทำให้เกิดความรุนแรงในสังคมได้ทั้งนั้น ขึ้นอยู่กับว่าแต่ละประเด็นมีความจูงใจประชาชนมากพอในการที่จะออกมา ต่อต้านไหม

ไม่ว่าจะเป็นการเลือกตั้งผู้ว่าฯ กทม.ที่ผ่านมาการทำประชามติ การแก้รัฐธรรมนูญ การทุจริตประพฤติมิชอบของนักการเมือง การนิรโทษกรรม รวมทั้งความเดือดร้อนของเกษตรกรในเรื่องต่างๆ ฯลฯ อะไรที่คิดว่าจะทำให้เกิดความรุนแรงทางการเมือง การเลือกตั้งผู้ว่าฯ กทม.ที่ผ่านมา ไม่น่าจะถือว่าเป็นความร้อนแรงทางการเมือง แม้ว่าจะเป็นการต่อสู้กันของ 2 พรรคใหญ่ ประชาธิปัตย์ หมดปัญหาภายใน เพราะผู้ว่าฯ คนเก่าเป็นตัวแทน ขุมกำลังต่างๆ เหมือนเดิม ซึ่งก็ได้รับเลือกเข้าไปเป็นผู้ว่าฯ กทม.อีกสมัย

โดยเฉพาะเป็นคนมีเงิน เรื่องทุนทรัพย์ไม่เป็นปัญหา แต่คนที่เป็นตัวแทนของพรรคเพื่อไทย คือ พล.ต.อ.พงศพัศ พงษ์เจริญ ซึ่งเป็นคนใหม่ในแวดวงการเมือง แต่ไม่ใหม่ในสายตาชาว กทม. พูดตรงๆ ว่า สดกว่า แต่ปัญหาอยู่ตรงที่ว่าขุมกำลังของพรรคเพื่อไทยจะเต็มที่แค่ไหน แม้ว่า พล.ต.อ.พงศพัศ จะมีทุนทางสังคมอยู่ในขั้นดี แต่ก็ต้องพึ่งพลังจากการจัดตั้งของ ส.ส. ส.ก. และ ส.ข. ซึ่งดูแลชุมชนของตัวเองอยู่ ถ้าพรรคเพื่อไทยต้องการชัยชนะ และสุดท้ายก็ได้ประจักษ์แล้วว่าความพ่ายแพ้เกิดจากปัญหาภายในพรรค เพื่อไทยเอง

เรื่องที่คิดว่าจะเป็นประเด็นทางการเมือง และจะร้อนแรงตามคำทำนายของบรรดาหมอดู ก็คงเป็นเรื่องการแก้ไขรัฐธรรมนูญ ซึ่งพรรคเพื่อไทยและรัฐบาลไม่ได้ผลีผลาม ใช้ความรอบคอบก่อนการตัดสินใจทุกเรื่อง แม้ว่าจะมีข่าวในเรื่องความเห็นที่แตกต่างในเรื่องการแก้ไขรัฐ ธรรมนูญให้ประชาชนได้ทราบก็ตาม เชื่อได้ว่าเป็นยุทธศาสตร์ทางการเมืองปกติ จุดประสงค์ของพรรคเพื่อไทยและรัฐบาลคือ การอยู่ในอำนาจ

จนครบวาระ จะไม่ทำอะไรที่เป็นการสุ่มเสี่ยงต่อตนเองเป็นอันขาด โดยเฉพาะกับองค์กรอิสระ ซึ่งวันนี้กำลังมีปัญหากับตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ

ถ้าจะทำประชามติ การเมืองจะร้อนแรงตรงไหน การที่อดีตนายกฯ ทักษิณ ชินวัตร พูดว่าเป็นเรื่องหมูๆ เพราะทราบดีว่ากลไกของรัฐที่มีอยู่นั้น สามารถสนองตอบความต้องการของรัฐบาลได้แค่ไหน เป็นเรื่องธรรมดาของทุกรัฐบาลในการใช้อำนาจในการบริหารราชการแผ่น ดิน ขึ้นอยู่กับวิธีการที่จะใช้ อย่าให้ผิดกฎหมายเท่านั้น ขณะนี้ทางพรรคเพื่อไทยกำลังพิจารณาว่า ถ้าจะมีการทำประชามติจะตั้งคำถามแก่ประชาชนอย่างไร เมื่อพิจารณาจากโพลของสำนักต่างๆ จะพบว่า ประชาชนส่วนใหญ่มีความเห็นว่า ประเด็นการแก้ไขรัฐธรรมนูญจะเป็นเรื่องที่ทำให้เกิดความรุนแรง ทางการเมือง

ขอบคุณ http://www.ryt9.com/s/bmnd/1640011

ที่มา: บ้านเมืองออนไลน์/มูลนิธิพัฒนาคนพิการไทย 29 เม.ย.56
วันที่โพสต์: 30/04/2556 เวลา 03:36:27

แสดงความคิดเห็น

รอตรวจสอบ
จัดฟอร์แม็ต ดูการแสดงผล

รอตรวจสอบ

รอตรวจสอบ

รอตรวจสอบ

ยกเลิก

รายละเอียดกระทู้

ความขัดแย้งของสังคมไทยเกิดขึ้นเพราะการแย่งชิงอำนาจ โดยไม่คำนึงถึงกติกาของสังคม ที่สำคัญที่สุดก็คือ ผู้กระทำไม่ได้คำนึงถึงความเสียหายที่จะเกิดขึ้นต่อประเทศและ ประชาชน ตั้งหน้าตั้งตาที่จะทำลายกันเท่านั้น จึงเป็นการยากที่จะบอกว่าจะเกิดอะไรขึ้นในอนาคต ขึ้นอยู่กับว่าจะมีประเด็นร้อนที่เกิดขึ้นขณะนั้น เปิดโอกาสให้ศัตรูทางการเมืองของรัฐบาลใช้ประโยชน์ได้แค่ไหน ถ้าพิจารณาถึงประเด็นทางการเมืองที่จะต้องดำเนินการในปี 2556 ก็มีแนวโน้มทำให้เกิดความรุนแรงในสังคมได้ทั้งนั้น ขึ้นอยู่กับว่าแต่ละประเด็นมีความจูงใจประชาชนมากพอในการที่จะออกมา ต่อต้านไหม ไม่ว่าจะเป็นการเลือกตั้งผู้ว่าฯ กทม.ที่ผ่านมาการทำประชามติ การแก้รัฐธรรมนูญ การทุจริตประพฤติมิชอบของนักการเมือง การนิรโทษกรรม รวมทั้งความเดือดร้อนของเกษตรกรในเรื่องต่างๆ ฯลฯ อะไรที่คิดว่าจะทำให้เกิดความรุนแรงทางการเมือง การเลือกตั้งผู้ว่าฯ กทม.ที่ผ่านมา ไม่น่าจะถือว่าเป็นความร้อนแรงทางการเมือง แม้ว่าจะเป็นการต่อสู้กันของ 2 พรรคใหญ่ ประชาธิปัตย์ หมดปัญหาภายใน เพราะผู้ว่าฯ คนเก่าเป็นตัวแทน ขุมกำลังต่างๆ เหมือนเดิม ซึ่งก็ได้รับเลือกเข้าไปเป็นผู้ว่าฯ กทม.อีกสมัย โดยเฉพาะเป็นคนมีเงิน เรื่องทุนทรัพย์ไม่เป็นปัญหา แต่คนที่เป็นตัวแทนของพรรคเพื่อไทย คือ พล.ต.อ.พงศพัศ พงษ์เจริญ ซึ่งเป็นคนใหม่ในแวดวงการเมือง แต่ไม่ใหม่ในสายตาชาว กทม. พูดตรงๆ ว่า สดกว่า แต่ปัญหาอยู่ตรงที่ว่าขุมกำลังของพรรคเพื่อไทยจะเต็มที่แค่ไหน แม้ว่า พล.ต.อ.พงศพัศ จะมีทุนทางสังคมอยู่ในขั้นดี แต่ก็ต้องพึ่งพลังจากการจัดตั้งของ ส.ส. ส.ก. และ ส.ข. ซึ่งดูแลชุมชนของตัวเองอยู่ ถ้าพรรคเพื่อไทยต้องการชัยชนะ และสุดท้ายก็ได้ประจักษ์แล้วว่าความพ่ายแพ้เกิดจากปัญหาภายในพรรค เพื่อไทยเอง เรื่องที่คิดว่าจะเป็นประเด็นทางการเมือง และจะร้อนแรงตามคำทำนายของบรรดาหมอดู ก็คงเป็นเรื่องการแก้ไขรัฐธรรมนูญ ซึ่งพรรคเพื่อไทยและรัฐบาลไม่ได้ผลีผลาม ใช้ความรอบคอบก่อนการตัดสินใจทุกเรื่อง แม้ว่าจะมีข่าวในเรื่องความเห็นที่แตกต่างในเรื่องการแก้ไขรัฐ ธรรมนูญให้ประชาชนได้ทราบก็ตาม เชื่อได้ว่าเป็นยุทธศาสตร์ทางการเมืองปกติ จุดประสงค์ของพรรคเพื่อไทยและรัฐบาลคือ การอยู่ในอำนาจ จนครบวาระ จะไม่ทำอะไรที่เป็นการสุ่มเสี่ยงต่อตนเองเป็นอันขาด โดยเฉพาะกับองค์กรอิสระ ซึ่งวันนี้กำลังมีปัญหากับตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ ถ้าจะทำประชามติ การเมืองจะร้อนแรงตรงไหน การที่อดีตนายกฯ ทักษิณ ชินวัตร พูดว่าเป็นเรื่องหมูๆ เพราะทราบดีว่ากลไกของรัฐที่มีอยู่นั้น สามารถสนองตอบความต้องการของรัฐบาลได้แค่ไหน เป็นเรื่องธรรมดาของทุกรัฐบาลในการใช้อำนาจในการบริหารราชการแผ่น ดิน ขึ้นอยู่กับวิธีการที่จะใช้ อย่าให้ผิดกฎหมายเท่านั้น ขณะนี้ทางพรรคเพื่อไทยกำลังพิจารณาว่า ถ้าจะมีการทำประชามติจะตั้งคำถามแก่ประชาชนอย่างไร เมื่อพิจารณาจากโพลของสำนักต่างๆ จะพบว่า ประชาชนส่วนใหญ่มีความเห็นว่า ประเด็นการแก้ไขรัฐธรรมนูญจะเป็นเรื่องที่ทำให้เกิดความรุนแรง ทางการเมือง ขอบคุณ http://www.ryt9.com/s/bmnd/1640011

จัดฟอร์แม็ตข้อความและมัลติมีเดีย

  1. เพิ่ม
  2. เพิ่ม ลบ
  3. เพิ่ม ลบ
  4. เพิ่ม ลบ
  5. เพิ่ม ลบ
  6. เพิ่ม ลบ
  7. เพิ่ม ลบ
  8. เพิ่ม ลบ
  9. เพิ่ม ลบ
  10. ลบ
เลือกการตกแต่งที่ต้องการ

ตกลง ยกเลิก

รายละเอียดการใส่ ลิงค์ รูปภาพ วิดีโอ เพลง (Soundcloud)

Waiting...