เกมวัดใจ
ศึกช้างชนช้างนัดล้างตา “รัฐสภา” ปะทะ “ศาลรัฐธรรมนูญ” จะจบอย่างไร คอการเมืองกำลังวิจารณ์กันน้ำลายแตกฟอง
“แม่ลูกจันทร์” มั่นใจว่าศึกชนช้างรอบนี้จะไม่จบแบบหนังม้วนเดิม!!
ครั้ง นี้ ส.ส. ส.ว. จะไม่ยอมถอยกรูดๆ ให้ศาลรัฐธรรมนูญชำแรกแทรกแซงการแก้ไขรัฐธรรมนูญเป็นรายมาตรา ซึ่งอยู่ในเขตอำนาจของฝ่ายนิติบัญญัติโดยตรงอีกต่อไป
การประกาศไม่ยอมรับอำนาจศาลรัฐธรรมนูญคือใบเสร็จยืนยัน
หมูไม่กลัวน้ำร้อนซะแล้วโยม
ฝ่ายศาลรัฐธรรมนูญเอง เมื่อลงมติ 3 ต่อ 2 รับคำร้องของแฟนคลับขาประจำไปแล้วก็ต้องเดินหน้าพิจารณาให้สุดทาง
ขืนคายฟันยางตอนนี้ก็เสียเชิงปลากราย
“แม่ลูกจันทร์” ประเมินว่าสงครามกระชับพื้นที่รอบนี้หวยออกได้ 2 ประตู
ประตู ที่ 1, ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยว่าการแก้ไขรัฐธรรมนูญเป็นรายมาตราเป็นอำนาจหน้าที่ โดยชอบของรัฐสภาและเป็นไปตามคำแนะนำของศาลรัฐธรรม-นูญ จึงไม่เข้าข่ายล้มล้างการปกครองระบอบประชาธิปไตยอย่างที่มีผู้ยื่นคำร้องให้ ศาลพิจารณา
ประตูที่ 2, ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยว่าการแก้ไขรัฐธรรมนูญรายมาตราเป็นการใช้อำนาจขัดบทบัญญัติรัฐธรรมนูญ
ต้องยุบพรรคการเมือง ตัดสิทธิ ส.ส. ส.ว. ทั้ง 350 คน ที่ร่วมลงมติเห็นชอบแก้ไขรัฐธรรมนูญเป็นเวลา 5 ปี
หวยจะออกประตูไหน “แม่ลูก-จันทร์” ไม่กล้าฟันธง
อย่างไรก็ตาม ในระหว่างที่รัฐสภา กับศาลรัฐธรรมนูญ ยังอยู่ในช่วง “วอร์มอัพ” เตรียมประจัญบาน
ศาสตราจารย์ ดร.อุกฤษ มงคล-นาวิน เกจิกฎหมายชื่อดัง ในฐานะประ-ธานคณะกรรมการอิสระ ส่งเสริมหลักนิติธรรมแห่งชาติ (คอ.นธ.) ได้เสนอ
โรดแม็ปปฏิรูปศาลรัฐธรรมนูญ 4 ประการ
เนื่อง จากการวินิจฉัยของศาลรัฐธรรม-นูญหลายกรณีมีปัญหาทำให้สังคมคาใจ จึงควรปฏิสังขรณ์ศาลรัฐธรรมนูญครั้งใหญ่ให้พ้นจากวิกฤติศรัทธาดังนี้คือ...
1, การที่ตุลาการศาลรัฐธรรมนูญอยู่กันยาวรากงอกถึง 9 ปี การอยู่ในตำแหน่งนานเกินไปอาจทำให้เพลิดเพลินอำนาจที่อยู่ในมือ
ควรแก้กติกา ลดวาระดำรงตำแหน่งให้เหลือ 4 ปี
2, เนื่องจากคำวินิจฉัยศาลรัฐธรรม-นูญเป็นที่สิ้นสุด มีผลผูกพันทุกองค์กร ควรให้เพิ่มตุลาการรัฐธรรมนูญจาก 9 คน เป็น 15 คน เพื่อให้การวินิจฉัยคำร้องมีความละเอียดรอบคอบและเป็นธรรม
อนึ่ง มติชี้ขาดต้องใช้เสียง 2 ใน 3 ขององค์คณะตุลาการเพื่อป้องกัน ไม่ให้ลงมติแบบขลุกขลิก 3 ต่อ 2 หรือ 5 ต่อ 4 อย่างที่ผ่านมา
3, ศาลรัฐธรรมนูญมีอำนาจวินิจฉัยประเด็นกฎหมายที่ขัดหรือแย้งบทบัญญัติรัฐธรรมนูญ
แต่ ศาลรัฐธรรมนูญไม่ควรขยายอำนาจไปล้วงลูกตีความกฎหมายต่างๆ ย้อนหลังตามอำเภอใจ จนทำให้กฎหมายสำคัญหลายฉบับที่ใช้บังคับมานานหลายสิบปี กลายเป็นโมฆะจนวุ่นวายขายปลาช่อนไปทั้งระบบตุลาการ
4, ก่อนการลงมติชี้ขาดทุกกรณี ตุลาการศาลรัฐธรรมนูญต้องแถลงคำวินิจฉัยต่อที่ประชุมตุลาการ แล้วจึงเขียนคำวินิจฉัยส่วนกลางให้เสร็จครบถ้วนตามขั้นตอน
ไม่ใช่ศาลนัดแถลงปิดคดีตอนสาย แล้วตัดสินตอนบ่ายทันทีเหมือนคดียุบพรรคพลังประชาชน ชาติไทย และมัชฌิมา
“แม่ลูกจันทร์” เห็นว่า ข้อเสนอปฏิรูปศาลรัฐธรรมนูญของ ดร.อุกฤษ ทั้ง 4 ประการ มีน้ำหนักน่ารับฟัง
แต่ถ้าหวังให้คนในศาลรัฐธรรม-นูญเห็นคล้อยตาม...
คงต้องรอชาติหน้าตอนบ่ายละตัวเอง.
"แม่ลูกจันทร์"
ขอบคุณ... http://www.thairath.co.th/column/pol/greenhead/341120
แสดงความคิดเห็น
รายละเอียดกระทู้
ศึกช้างชนช้างนัดล้างตา “รัฐสภา” ปะทะ “ศาลรัฐธรรมนูญ” จะจบอย่างไร คอการเมืองกำลังวิจารณ์กันน้ำลายแตกฟอง “แม่ลูกจันทร์” มั่นใจว่าศึกชนช้างรอบนี้จะไม่จบแบบหนังม้วนเดิม!! ครั้ง นี้ ส.ส. ส.ว. จะไม่ยอมถอยกรูดๆ ให้ศาลรัฐธรรมนูญชำแรกแทรกแซงการแก้ไขรัฐธรรมนูญเป็นรายมาตรา ซึ่งอยู่ในเขตอำนาจของฝ่ายนิติบัญญัติโดยตรงอีกต่อไป การประกาศไม่ยอมรับอำนาจศาลรัฐธรรมนูญคือใบเสร็จยืนยัน หมูไม่กลัวน้ำร้อนซะแล้วโยม ฝ่ายศาลรัฐธรรมนูญเอง เมื่อลงมติ 3 ต่อ 2 รับคำร้องของแฟนคลับขาประจำไปแล้วก็ต้องเดินหน้าพิจารณาให้สุดทาง ขืนคายฟันยางตอนนี้ก็เสียเชิงปลากราย “แม่ลูกจันทร์” ประเมินว่าสงครามกระชับพื้นที่รอบนี้หวยออกได้ 2 ประตู ประตู ที่ 1, ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยว่าการแก้ไขรัฐธรรมนูญเป็นรายมาตราเป็นอำนาจหน้าที่ โดยชอบของรัฐสภาและเป็นไปตามคำแนะนำของศาลรัฐธรรม-นูญ จึงไม่เข้าข่ายล้มล้างการปกครองระบอบประชาธิปไตยอย่างที่มีผู้ยื่นคำร้องให้ ศาลพิจารณา ประตูที่ 2, ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยว่าการแก้ไขรัฐธรรมนูญรายมาตราเป็นการใช้อำนาจขัดบทบัญญัติรัฐธรรมนูญ ต้องยุบพรรคการเมือง ตัดสิทธิ ส.ส. ส.ว. ทั้ง 350 คน ที่ร่วมลงมติเห็นชอบแก้ไขรัฐธรรมนูญเป็นเวลา 5 ปี หวยจะออกประตูไหน “แม่ลูก-จันทร์” ไม่กล้าฟันธง อย่างไรก็ตาม ในระหว่างที่รัฐสภา กับศาลรัฐธรรมนูญ ยังอยู่ในช่วง “วอร์มอัพ” เตรียมประจัญบาน ศาสตราจารย์ ดร.อุกฤษ มงคล-นาวิน เกจิกฎหมายชื่อดัง ในฐานะประ-ธานคณะกรรมการอิสระ ส่งเสริมหลักนิติธรรมแห่งชาติ (คอ.นธ.) ได้เสนอ โรดแม็ปปฏิรูปศาลรัฐธรรมนูญ 4 ประการ เนื่อง จากการวินิจฉัยของศาลรัฐธรรม-นูญหลายกรณีมีปัญหาทำให้สังคมคาใจ จึงควรปฏิสังขรณ์ศาลรัฐธรรมนูญครั้งใหญ่ให้พ้นจากวิกฤติศรัทธาดังนี้คือ... 1, การที่ตุลาการศาลรัฐธรรมนูญอยู่กันยาวรากงอกถึง 9 ปี การอยู่ในตำแหน่งนานเกินไปอาจทำให้เพลิดเพลินอำนาจที่อยู่ในมือ ควรแก้กติกา ลดวาระดำรงตำแหน่งให้เหลือ 4 ปี 2, เนื่องจากคำวินิจฉัยศาลรัฐธรรม-นูญเป็นที่สิ้นสุด มีผลผูกพันทุกองค์กร ควรให้เพิ่มตุลาการรัฐธรรมนูญจาก 9 คน เป็น 15 คน เพื่อให้การวินิจฉัยคำร้องมีความละเอียดรอบคอบและเป็นธรรม อนึ่ง มติชี้ขาดต้องใช้เสียง 2 ใน 3 ขององค์คณะตุลาการเพื่อป้องกัน ไม่ให้ลงมติแบบขลุกขลิก 3 ต่อ 2 หรือ 5 ต่อ 4 อย่างที่ผ่านมา 3, ศาลรัฐธรรมนูญมีอำนาจวินิจฉัยประเด็นกฎหมายที่ขัดหรือแย้งบทบัญญัติรัฐธรรมนูญ แต่ ศาลรัฐธรรมนูญไม่ควรขยายอำนาจไปล้วงลูกตีความกฎหมายต่างๆ ย้อนหลังตามอำเภอใจ จนทำให้กฎหมายสำคัญหลายฉบับที่ใช้บังคับมานานหลายสิบปี กลายเป็นโมฆะจนวุ่นวายขายปลาช่อนไปทั้งระบบตุลาการ 4, ก่อนการลงมติชี้ขาดทุกกรณี ตุลาการศาลรัฐธรรมนูญต้องแถลงคำวินิจฉัยต่อที่ประชุมตุลาการ แล้วจึงเขียนคำวินิจฉัยส่วนกลางให้เสร็จครบถ้วนตามขั้นตอน ไม่ใช่ศาลนัดแถลงปิดคดีตอนสาย แล้วตัดสินตอนบ่ายทันทีเหมือนคดียุบพรรคพลังประชาชน ชาติไทย และมัชฌิมา “แม่ลูกจันทร์” เห็นว่า ข้อเสนอปฏิรูปศาลรัฐธรรมนูญของ ดร.อุกฤษ ทั้ง 4 ประการ มีน้ำหนักน่ารับฟัง แต่ถ้าหวังให้คนในศาลรัฐธรรม-นูญเห็นคล้อยตาม... คงต้องรอชาติหน้าตอนบ่ายละตัวเอง. "แม่ลูกจันทร์" ขอบคุณ... http://www.thairath.co.th/column/pol/greenhead/341120
จัดฟอร์แม็ตข้อความและมัลติมีเดีย
รายละเอียดการใส่ ลิงค์ รูปภาพ วิดีโอ เพลง (Soundcloud)