ประชัน วอร์รูม เกมแก้ รัฐธรรมนูญ ซด หมัดแลกหมัด
ท่าทีการขับเคลื่อนของ ส.ส.และส.ว.ในการเสนอแก้ไขเพิ่มเติมรัฐธรรมนูญเป็นรายมาตราสะท้อนความคึกคักเป็นอย่างสูง
สูงเหมือนกับความพยายามในการเสนอแก้ไขโดยผ่านมาตรา 291
เห็นได้จากสามารถผ่านวาระ 1 และผ่านวาระ 2 ด้วยความฮึกห้าวเหิมหาญ แต่พอถึงวาระ 3 ก็มีอันต้องสะดุด
มิใช่สะดุดเพราะเสียงในรัฐสภาไม่เพียงพอ
หากแต่เป็นการสะดุดเพราะฝ่ายคัดค้านต่อต้านอาศัยช่องทางผ่านมาตรา 68 ยื่นตรงไปยังศาลรัฐธรรมนูญให้วินิจฉัยโดยไม่ผ่านช่องทางของสำนักอัยการสูงสุด
ข้อสำคัญ ตุลาการศาลรัฐธรรมนูญเล่นด้วย
ผลก็คือ ร่างพ.ร.บ.แก้ไขเพิ่มเติมรัฐธรรมนูญ มาตรา 291 มีอันต้องค้างและคาอยู่ในวาระ 3 ไม่สามารถเดินหน้าต่อไปได้
จนต้องเสนอแก้ไขอย่างเป็นรายมาตรา
หากดูจากความแข็งขันอันสำแดงผ่านแกนนำของส.ส.อย่าง นายอุดมเดช รัตนเสถียร ของส.ว.อย่าง นายดิเรก ถึงฝั่ง และการขานรับจาก นายสมศักดิ์ เกียรติสุรนนท์
คล้ายกับว่าทุกอย่างเดินหน้าฉลุย ราบรื่น
สำทับจาก ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง มากด้วยความมั่นใจเป็นอย่างสูงว่า การขับเคลื่อนครั้งนี้ต้องประสบความสำเร็จ
แต่แล้วก็มีเสียง ต้าน จากคนหน้าเดิมๆ
เป็นคนหน้าเดิมจาก นายไพบูลย์ นิติตะวัน จาก นายประสาร มฤคพิทักษ์ เป็นคนหน้าเดิมจาก นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ จาก นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ ทั้งที่อยู่ในกลุ่ม ส.ว.และที่เป็นแกนนำสำคัญจากพรรคประชาธิปัตย์
เป็นเพลงๆ เดิม เป็นจังหวะๆ เดิม
จึงถูกต้องแล้วที่พรรคเพื่อไทยตระเตรียมบุคลากรเข้าประจำในสิ่งที่เรียกว่า วอร์รูม เพื่อรับมือด้วยความไม่ประมาท
ไม่ว่าจะเป็น นายจาตุรนต์ ฉายแสง ไม่ว่าจะเป็น นายสมชาย วงศ์สวัสดิ์
ไม่ว่าจะเป็น นายภูมิธรรม เวชยชัย ไม่ว่าจะเป็น นายนพดล ปัทมะ ไม่ว่าจะเป็น นายชูศักดิ์ ศิรินิล
ตลอดกระทั่ง นพ.พรหมินทร์ เลิศสุริย์เดช
ขณะเดียวกัน ก็มีการปรับทีมงานรองโฆษกเพื่อเสริมความแข็งแกร่งให้กับ นายพร้อมพงศ์ นพฤทธิ์ รับมือกับพรรคประชาธิปัตย์อย่างเต็มที่
จัดแถว พร้อมสู้ศึก
เป็นไปได้ยากอย่างยิ่งที่อีกฝ่ายจะยินยอมให้การแก้ไขเพิ่มเติมรัฐธรรมนูญเดินหน้าราบรื่น
จึงไม่ว่าจะเป็นกลุ่ม 40 ส.ว.ไม่ว่าจะเป็นพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย รวมถึงพรรคประชาธิปัตย์ก็จัดแถวพร้อมสกัดขัดขวางอย่างเต็มพิกัด
ผ่าน ศาลรัฐธรรมนูญ เช่นเดิม