แผนนายกฯ สำรอง แผนแก้รัฐธรรมนูญยึดประเทศ

แสดงความคิดเห็น

เป็นความอุกอาจทางการเมือง ที่พรรคเพื่อไทยสำแดงให้ประชาชนทั้งประเทศได้เห็นว่า พวกเขาสามารถทำอะไรก็ได้ เพราะเป็นเสียงข้างมากในสภาผู้แทนราษฎร และมีประชาชนเสียงข้างมากให้การสนับสนุน ที่เหลือก็อยู่ที่ประชาชนจะรู้สึกอย่างไรกับสิ่งที่พรรคเพื่อไทยกำลังเดินการอยู่

ประการเแรก การสั่งให้นายเกษม นิมมลรัตน์ ลุกออกจากเก้าอี้ ส.ส.เขต 3 จังหวัดเชียงใหม่ เพื่อให้นางเยาวภา วงศ์สวัสดิ์ น้องสาว พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ลงสมัครรับเลือกตั้งแทน โดยให้เหตุผลการลาออกกับสังคมว่า นายเกษมมีปัญหาด้านสุขภาพ และจะไปเป็นรองนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดเชียงใหม่

สิ่งที่พรรคเพื่อไทยมอบให้กับคนเชียงใหม่คือ นำเสนอนางเยาวภา วงศ์สวัสดิ์ เป็น ส.ส.เชียงใหม่ นับเป็นนิมิตหมายใหม่ที่แกนนำพรรคเพื่อไทยลงสมัคร ส.ส.ระบบเขต ที่เคยเป็นพื้นที่ของ น.ส.ชินณิชา วงศ์สวัสดิ์ ลูกสาวตัวเอง ซึ่งศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง พิพากษาพ้นจากตำแหน่ง ส.ส. และตัดสิทธิทางการเมือง จากคดีแจ้งบัญชีทรัพย์สินหนี้สินเป็นเท็จ

และพรรคเพื่อไทยยังมอบคนป่วยเป็นของขวัญสำหรับชาวเชียงใหม่ ให้ไปนั่งเป็นรองนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดเชียงใหม่ นับเป็นอีกหน้าในประวัติศาสตร์การเมือง ที่จะถูกจารึกไว้ว่า ผู้ป่วยมีปัญหาด้านสุขภาพยังเหมาะสมที่จะทำงานบริหารงานของมหานครอยู่

ความจริงคือ เป็นคำสั่งของพ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร เพื่อรับมือการเปลี่ยนแปลงทางการเมือง ที่ถึงขั้นประเทศไทยอาจต้องเปลี่ยนตัวนายกรัฐมนตรีในฉับพลัน เป็นการยืนยันว่า เก้าอี้นายกรัฐมนตรี ยังคงอยู่ในมือของคนตระกูลชินวัตร

ประการต่อมา คำสั่งให้แก้ไขรัฐธรรมนูญเป็นรายมาตรา ก็เกิดชัดเจนในเวลาอันรวดเร็วเมื่อมีการยื่นแก้ไขรัฐธรรมนูญ 4 ประเด็น ด้วยการยื่นด้วยคณะบุคคลที่ส่อให้เห็นถึงยุทธศาสต์ยึดครองประเทศ ตามที่พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร วางเอาไว้

พรรคเพื่อไทย ยื่นแก้ไขเรื่องที่มาของ ส.ว. ได้แก่มาตรา 111, 112, 113, 114, 115, 117, 118 และมาตรา 120 โดยให้มี ส.ว.เลือกตั้ง จำนวน 200 คน และให้ ส.ว.เลือกตั้ง สามารถลงรับสมัครรับเลือกตั้งได้ติดต่อกัน โดยไม่ต้องเว้นวรรค และให้ตัด ส.ว.สรรหาทิ้ง แต่ไม่กระทบกับ ส.ว.สรรหา ที่ดำรงตำแหน่งในปัจจุบัน แต่เมื่อครบวาระแล้วจะไม่มีการสรรหาใหม่

วุฒิสมาชิกที่มาจากการเลือกตั้ง และใกล้ชิดรัฐบาล ยื่นร่างแก้ไขมาตรา 237 เรื่องการยุบพรรคการเมือง และพ่วงมาตรา 68 เกี่ยวกับสิทธิในการยื่นเรื่องร้องต่อศาลรัฐธรรมนูญจะยื่นโดยตรงไม่ได้ ต้องยื่นให้อัยการสูงสุดพิจารณาเท่านั้น พร้อมทั้งให้ยกเลิกการตัดสิทธิ์คณะกรรมการบริหารพรรคการเมืองเป็นเวลา 5 ปี และห้ามยุบพรรคการเมือง

และวุฒิสมาชิกเลือกตั้งที่มีสายสัมพันธ์ที่ดีกับพรรคร่วมรัฐบาล ยื่นแก้ไขมาตรา 190 เรื่องการให้รัฐสภารับรองการทำสนธิสัญญาระหว่างประเทศ ที่แก้ไขลดเงื่อนไข การลงนาม หนังสือ หรือ สัญญามีผลกระทบต่อความมั่นคงทางเศรษฐกิจหรือสังคมของประเทศอย่างกว้างขวาง หรือมีผลผูกพันด้านการค้า การลงทุน หรืองบประมาณของประเทศอย่างมีนัยสำคัญ ไม่ต้องผ่านความเห็นชอบจากรัฐสภาอีกต่อไป

ทั้ง 4 ประเด็นล้วนมีความสอดคล้องกัน การแก้ไขให้ ส.ว.มาจากการเลือกตั้ง และเพิ่มเป็น 200 คน จะทำให้ระบอบทักษิณสามารถควบคุมเสียงข้างมากได้ทั้งสภาผู้แทนราษฎร และวุฒิสภา เพราะเก้าอี้ ส.ว.อีสาน และภาคเหนือนั้น เกินครึ่งของเก้าอี้ ส.ว.ทั้งประเทศ และ ส.ว.มีอำนาจในการถอดถอน ดังนั้น องค์กรอิสระเสี่ยงต้องถูกถอดถอน แล้วระบอบทักษิณใส่คนของตัวเองเข้าไปแทน กลับกันหากมีการส่งชื่อคนในรัฐบาลให้วุฒิสภาถอดถอน ผลก็จะออกมาในทางที่รัฐบาลต้องการ แม้กระทั่งการแก้ไขรัฐธรรมนูญทั้งฉบับไม่ใช่เรื่องยากอีกต่อไป

การทำสัญญากับต่างประเทศ การกู้เงิน ฯลฯ รัฐบาลสามารถทำได้ทันทีโดยไม่ต้องผ่านความเห็นชอบของรัฐสภา เป็นการปูพื้นสำหรับการใช้เงินกู้ของรัฐบาลทั้งเงินกู้ 3.5 แสนล้าน เพื่อบริหารจัดการน้ำ และเงินกู้ 2.2 ล้านล้าน เพื่อพัฒนาระบบราง และการขนส่ง ที่พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร กำหนดไว้หมดแล้วว่า จะให้นักลงทุนชาติไหนได้รับโครงการไป และทั้งหมดนี้กำลังจะเกิดขึ้นหลังเดือนสิงหาคมนี้.

http://www.thaipost.net/news/210313/71193 (ขนาดไฟล์: 167)

ที่มา: ไทยโพสต์ออนไลน์/มูลนิธิพัฒนาคนพิการไทย 21 มี.ค.56
วันที่โพสต์: 21/03/2556 เวลา 03:09:43

แสดงความคิดเห็น

รอตรวจสอบ
จัดฟอร์แม็ต ดูการแสดงผล

รอตรวจสอบ

รอตรวจสอบ

รอตรวจสอบ

ยกเลิก

รายละเอียดกระทู้

เป็นความอุกอาจทางการเมือง ที่พรรคเพื่อไทยสำแดงให้ประชาชนทั้งประเทศได้เห็นว่า พวกเขาสามารถทำอะไรก็ได้ เพราะเป็นเสียงข้างมากในสภาผู้แทนราษฎร และมีประชาชนเสียงข้างมากให้การสนับสนุน ที่เหลือก็อยู่ที่ประชาชนจะรู้สึกอย่างไรกับสิ่งที่พรรคเพื่อไทยกำลังเดินการอยู่ ประการเแรก การสั่งให้นายเกษม นิมมลรัตน์ ลุกออกจากเก้าอี้ ส.ส.เขต 3 จังหวัดเชียงใหม่ เพื่อให้นางเยาวภา วงศ์สวัสดิ์ น้องสาว พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ลงสมัครรับเลือกตั้งแทน โดยให้เหตุผลการลาออกกับสังคมว่า นายเกษมมีปัญหาด้านสุขภาพ และจะไปเป็นรองนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดเชียงใหม่ สิ่งที่พรรคเพื่อไทยมอบให้กับคนเชียงใหม่คือ นำเสนอนางเยาวภา วงศ์สวัสดิ์ เป็น ส.ส.เชียงใหม่ นับเป็นนิมิตหมายใหม่ที่แกนนำพรรคเพื่อไทยลงสมัคร ส.ส.ระบบเขต ที่เคยเป็นพื้นที่ของ น.ส.ชินณิชา วงศ์สวัสดิ์ ลูกสาวตัวเอง ซึ่งศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง พิพากษาพ้นจากตำแหน่ง ส.ส. และตัดสิทธิทางการเมือง จากคดีแจ้งบัญชีทรัพย์สินหนี้สินเป็นเท็จ และพรรคเพื่อไทยยังมอบคนป่วยเป็นของขวัญสำหรับชาวเชียงใหม่ ให้ไปนั่งเป็นรองนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดเชียงใหม่ นับเป็นอีกหน้าในประวัติศาสตร์การเมือง ที่จะถูกจารึกไว้ว่า ผู้ป่วยมีปัญหาด้านสุขภาพยังเหมาะสมที่จะทำงานบริหารงานของมหานครอยู่ ความจริงคือ เป็นคำสั่งของพ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร เพื่อรับมือการเปลี่ยนแปลงทางการเมือง ที่ถึงขั้นประเทศไทยอาจต้องเปลี่ยนตัวนายกรัฐมนตรีในฉับพลัน เป็นการยืนยันว่า เก้าอี้นายกรัฐมนตรี ยังคงอยู่ในมือของคนตระกูลชินวัตร ประการต่อมา คำสั่งให้แก้ไขรัฐธรรมนูญเป็นรายมาตรา ก็เกิดชัดเจนในเวลาอันรวดเร็วเมื่อมีการยื่นแก้ไขรัฐธรรมนูญ 4 ประเด็น ด้วยการยื่นด้วยคณะบุคคลที่ส่อให้เห็นถึงยุทธศาสต์ยึดครองประเทศ ตามที่พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร วางเอาไว้ พรรคเพื่อไทย ยื่นแก้ไขเรื่องที่มาของ ส.ว. ได้แก่มาตรา 111, 112, 113, 114, 115, 117, 118 และมาตรา 120 โดยให้มี ส.ว.เลือกตั้ง จำนวน 200 คน และให้ ส.ว.เลือกตั้ง สามารถลงรับสมัครรับเลือกตั้งได้ติดต่อกัน โดยไม่ต้องเว้นวรรค และให้ตัด ส.ว.สรรหาทิ้ง แต่ไม่กระทบกับ ส.ว.สรรหา ที่ดำรงตำแหน่งในปัจจุบัน แต่เมื่อครบวาระแล้วจะไม่มีการสรรหาใหม่ วุฒิสมาชิกที่มาจากการเลือกตั้ง และใกล้ชิดรัฐบาล ยื่นร่างแก้ไขมาตรา 237 เรื่องการยุบพรรคการเมือง และพ่วงมาตรา 68 เกี่ยวกับสิทธิในการยื่นเรื่องร้องต่อศาลรัฐธรรมนูญจะยื่นโดยตรงไม่ได้ ต้องยื่นให้อัยการสูงสุดพิจารณาเท่านั้น พร้อมทั้งให้ยกเลิกการตัดสิทธิ์คณะกรรมการบริหารพรรคการเมืองเป็นเวลา 5 ปี และห้ามยุบพรรคการเมือง และวุฒิสมาชิกเลือกตั้งที่มีสายสัมพันธ์ที่ดีกับพรรคร่วมรัฐบาล ยื่นแก้ไขมาตรา 190 เรื่องการให้รัฐสภารับรองการทำสนธิสัญญาระหว่างประเทศ ที่แก้ไขลดเงื่อนไข การลงนาม หนังสือ หรือ สัญญามีผลกระทบต่อความมั่นคงทางเศรษฐกิจหรือสังคมของประเทศอย่างกว้างขวาง หรือมีผลผูกพันด้านการค้า การลงทุน หรืองบประมาณของประเทศอย่างมีนัยสำคัญ ไม่ต้องผ่านความเห็นชอบจากรัฐสภาอีกต่อไป ทั้ง 4 ประเด็นล้วนมีความสอดคล้องกัน การแก้ไขให้ ส.ว.มาจากการเลือกตั้ง และเพิ่มเป็น 200 คน จะทำให้ระบอบทักษิณสามารถควบคุมเสียงข้างมากได้ทั้งสภาผู้แทนราษฎร และวุฒิสภา เพราะเก้าอี้ ส.ว.อีสาน และภาคเหนือนั้น เกินครึ่งของเก้าอี้ ส.ว.ทั้งประเทศ และ ส.ว.มีอำนาจในการถอดถอน ดังนั้น องค์กรอิสระเสี่ยงต้องถูกถอดถอน แล้วระบอบทักษิณใส่คนของตัวเองเข้าไปแทน กลับกันหากมีการส่งชื่อคนในรัฐบาลให้วุฒิสภาถอดถอน ผลก็จะออกมาในทางที่รัฐบาลต้องการ แม้กระทั่งการแก้ไขรัฐธรรมนูญทั้งฉบับไม่ใช่เรื่องยากอีกต่อไป การทำสัญญากับต่างประเทศ การกู้เงิน ฯลฯ รัฐบาลสามารถทำได้ทันทีโดยไม่ต้องผ่านความเห็นชอบของรัฐสภา เป็นการปูพื้นสำหรับการใช้เงินกู้ของรัฐบาลทั้งเงินกู้ 3.5 แสนล้าน เพื่อบริหารจัดการน้ำ และเงินกู้ 2.2 ล้านล้าน เพื่อพัฒนาระบบราง และการขนส่ง ที่พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร กำหนดไว้หมดแล้วว่า จะให้นักลงทุนชาติไหนได้รับโครงการไป และทั้งหมดนี้กำลังจะเกิดขึ้นหลังเดือนสิงหาคมนี้. http://www.thaipost.net/news/210313/71193

จัดฟอร์แม็ตข้อความและมัลติมีเดีย

  1. เพิ่ม
  2. เพิ่ม ลบ
  3. เพิ่ม ลบ
  4. เพิ่ม ลบ
  5. เพิ่ม ลบ
  6. เพิ่ม ลบ
  7. เพิ่ม ลบ
  8. เพิ่ม ลบ
  9. เพิ่ม ลบ
  10. ลบ
เลือกการตกแต่งที่ต้องการ

ตกลง ยกเลิก

รายละเอียดการใส่ ลิงค์ รูปภาพ วิดีโอ เพลง (Soundcloud)

Waiting...