ร่าง พ.ร.บ.ตั้ง 'นครปัตตานี'
หมายเหตุ : สาระสำคัญบางมาตรา จากทั้งหมด 121 มาตรา ของร่างพระราชบัญญัติระเบียบบริหารราชการนครปัตตานี พ.ศ....ที่พรรคเพื่อไทยได้ยกร่างไว้ในการหาเสียงเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร เมื่อวันที่ 3 กรกฎาคม 2554
มาตรา 1 พระราชบัญญัตินี้เรียกว่า "ระเบียบบริหารราชการนครปัตตานี พ.ศ...."
มาตรา 2 พระราชบัญญัตินี้ให้ใช้บังคับตั้งแต่วันถัดจากวันประกาศในราชกิจจานุเบกษา เป็นต้นไป
มาตรา 3 "นครปัตตานี" หมายความว่า จังหวัดนราธิวาส จังหวัดยะลา และจังหวัดปัตตานี บทบัญญัติแห่งกฎหมาย กฎ ข้อบังคับ ระเบียบหรือคำสั่งอื่นใด อ้างถึงนครปัตตานี จังหวัด อำเภอ ตำบล องค์การบริหารส่วนจังหวัด เทศบาล องค์การบริหารส่วนตำบล ให้ถือว่าบทบัญญัติแห่งกฎหมาย กฎ ข้อบังคับ ระเบียบหรือคำสั่งนั้น อ้างถึงนครปัตตานี ตามพระราชบัญญัตินี้ แล้วแต่กรณีเท่าที่ไม่ขัดหรือแย้งกับบทบัญญัติแห่งพระราชบัญญัตินี้
มาตรา 4 ให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทยรักษาการตาม พระราชบัญญัตินี้
หมวด 1 การจัดระเบียบบริหารราชการนครปัตตานีมาตรา 5 ให้นครปัตตานีมีฐานะเป็นนิติบุคคลและเป็นราชการบริหารส่วนท้องถิ่นรูปแบบพิเศษ มีระเบียบการบริหารตามพระราชบัญญัตินี้ และมีอาณาเขตท้องที่ครอบคลุมพื้นที่จังหวัดนราธิวาส จังหวัดยะลา และจังหวัดปัตตานี มีอยู่ในวันที่พระราชบัญญัตินี้ใช้บังคับ
การแก้ไขเปลี่ยนแปลงอาณาเขตท้องที่นครปัตตานีให้ตราเป็นพระราชบัญญัติ
มาตรา 6 ให้พื้นที่การบริหารนครปัตตานีให้ครอบคลุมพื้นที่จังหวัดนราธิวาส จังหวัดยะลา และจังหวัดปัตตานี รวมทั้งองค์การบริหารส่วนจังหวัด เทศบาล องค์การบริหารส่วนตำบลในพื้นที่ 3 จังหวัดดังกล่าว
การตั้ง ยุบ หรือเปลี่ยนแปลงพื้นที่เขตให้กระทำโดยประกาศของกระทรวงมหาดไทย และให้ประกาศในราชกิจจานุเบกษา
หมวด 2 การบริหารนครปัตตานีมาตรา 8 การบริหารนครปัตตานี ประกอบด้วย(1) สภานครปัตตานี(2) ผู้ว่าราชการนครปัตตานี
ส่วนที่ 1 สภานครปัตตานีมาตรา 9 สภานครปัตตานีประกอบด้วย สมาชิกซึ่งราษฎรเลือกตั้งจากตัวแทนอำเภอในพื้นที่จังหวัดนราธิวาส จังหวัดยะลา และจังหวัดปัตตานี มีจำนวนตามจำนวนอำเภอในพื้นที่ 3 จังหวัดดังกล่าว
มาตรา 10 การเลือกตั้งสมาชิกสภานครปัตตานี จะกระทำได้เมื่อได้มีพระราชกฤษฎีกากำหนดให้มีการเลือกตั้งแล้ว ในพระราชกฤษฎีกานั้นให้ระบุวันเลือกตั้งและระยะเวลารับสมัครเลือกตั้ง
การกำหนดเขตเลือกตั้ง ให้ถือพื้นที่อำเภอเป็นเขตเลือกตั้งในเขตเลือกตั้งหนึ่งให้มีสมาชิกสภานครปัตตานีได้ 1 คนการกำหนดเขตเลือกตั้งให้อำเภอที่กระทรวงมหาดไทยประกาศครั้งสุดท้ายก่อนวันประกาศพระราชกฤษฎีกาให้มีการเลือกตั้งสมาชิกสภานครปัตตานี และให้ทำเป็นประกาศของกระทรวงมหาดไทย
มาตรา 11 บุคคลผู้มีคุณสมบัติดังต่อไปนี้ เป็นผู้มีสิทธิ์เลือกตั้ง(1) มีสัญชาติไทย แต่บุคคลผู้มีสัญชาติไทยโดยการแปลงสัญชาติ ต้องได้สัญชาติไทยมาแล้วไม่น้อยกว่า 5 ปี
(2) มีอายุไม่ต่ำกว่า 18 ปีบริบูรณ์ในวันที่ 1 มกราคม ของปีที่มีการเลือกตั้ง และ
(3) มีชื่ออยู่ในทะเบียนบ้านในเขตเลือกตั้งเป็นเวลาติดต่อกันจนถึงวันเลือกตั้ง ไม่น้อยกว่า 90 วัน
มาตรา 12 บุคคลผู้มีลักษณะใดลักษณะหนึ่งดังต่อไปนี้ในวันเลือกตั้ง เป็นบุคคลต้องห้ามมิให้ใช้สิทธิ์เลือกตั้งสมาชิกสภานครปัตตานี คือ
(1) วิกลจริตหรือจิตฟั่นเฟือนไม่สมประกอบ(2) ภิกษุ สามเณร นักพรต หรือนักบวช(3) ต้องคุมขังอยู่โดยหมายของศาลหรือคำสั่งที่ชอบด้วยกฎหมาย
(4) อยู่ในระหว่างถูกเพิกถอนสิทธิ์เลือกตั้งมาตรา 13 ผู้มีสิทธิ์สมัครรับเลือกตั้งเป็นสมาชิกสภานครปัตตานีต้องมีคุณสมบัติดังต่อไปนี้
(1) สัญชาติไทยโดยการเกิด(2) อายุไม่ต่ำกว่า 25 ปีบริบูรณ์ในวันเลือกตั้ง และ(3) มีชื่ออยู่ในทะเบียนบ้านในเขตนครปัตตานีเป็นเวลาติดต่อกันจนถึงวันสมัครไม่น้อยกว่า 180 วัน หรือมีชื่ออยู่ในทะเบียนบ้านในเขตนครปัตตานี และได้เสียภาษีตามกฎหมายว่าด้วยภาษีโรงเรือนและที่ดิน หรือตามกฎหมายว่าด้วยภาษีบำรุงท้องที่ ให้นครปัตตานีในปีที่สมัครหรือปีก่อนที่สมัคร 1 ปี
มาตรา 14 บุคคลผู้มีลักษณะดังต่อไปนี้ เป็นบุคคลต้องห้ามมิให้ใช้สิทธิ์สมัครรับเลือกตั้งเป็นสมาชิกสภานครปัตตานี คือ
(1) ติดยาเสพติดให้โทษ(2) เป็นบุคคลล้มละลาย ซึ่งศาลยังไม่สั่งให้พ้นจากคดี(3) เป็นบุคคลผู้มีลักษณะต้องห้ามมิให้ใช้สิทธิ์เลือกตั้งตามมาตรา 12 (1) (2) หรือ (4)
(4) ต้องคำพิพากษาให้จำคุก และถูกคุมขังอยู่โดยหมายของศาล(5) เคยต้องคำพิพากษาให้จำคุกตั้งแต่ 2 ปีขึ้นไป โดยได้พ้นโทษมายังไม่ถึง 5 ปีในวันเลือกตั้ง เว้นแต่ความผิดอันได้กระทำโดยประมาท
(6) เป็นบุคคลหูหนวกและเป็นใบ้(7) เป็นสมาชิกสภาซึ่งมีหน้าที่ในทางนิติบัญญัติ สมาชิกสภาท้องถิ่น คณะผู้บริหารท้องถิ่น หรือผู้บริหารท้องถิ่น
(8) เป็นผู้สมัครรับเลือกตั้งเป็นสมาชิกสภาซึ่งมีหน้าที่ในทางนิติบัญญัติ สมาชิกสภาท้องถิ่น คณะผู้บริหารท้องถิ่น หรือผู้บริหารท้องถิ่น
(9) เป็นข้าราชการซึ่งมีตำแหน่งหรือเงินเดือนประจำ(10) เป็นพนักงานหรือลูกจ้างของหน่วยงานของรัฐ หรือรัฐวิสาหกิจหรือของราชการส่วนท้องถิ่น
(11) เป็นบุคคลซึ่งทางราชการหรือรัฐวิสาหกิจไล่ออก ปลดออก ให้ออกหรือเลิกจ้าง เพราะทุจริตต่อหน้าที่ หรือถือว่ากระทำการทุจริตและประพฤติมิชอบในวงราชการ
(12) เป็นผู้ถูกถอดถอนให้ออกจากตำแหน่งสมาชิกสภานครปัตตานีถึงวันสมัครรับเลือกตั้งยังไม่ครบ 4 ปี
(13) เป็นผู้ถูกให้ออกจากตำแหน่งสมาชิกสภานครปัตตานี ตามมาตรา 21 (8) ถึงวันสมัครรับเลือกตั้งยังไม่ครบ 4 ปี
(14) เคยต้องคำพิพากษาหรือคำสั่งของศาลให้ทรัพย์สินตกเป็นของแผ่นดิน เพราะร่ำรวยผิดปกติ หรือมีทรัพย์สินเพิ่มขึ้นผิดปกติ
มาตรา 15 อายุของสภานครปัตตานีมีกำหนดคราวละ 4 ปี นับแต่วันเลือกตั้งสมาชิกสภานครปัตตานี
เมื่ออายุของสภานครปัตตานีสิ้นสุดลง ให้จัดการเลือกตั้งสมาชิกสภานครปัตตานีขึ้นใหม่เป็นการเลือกตั้งทั่วไป ซึ่งต้องกำหนดวันเลือกตั้งภายใน 60 วันนับแต่วันที่อายุของสภานครปัตตานีสิ้นสุดลง และวันเลือกตั้งนั้นต้องกำหนดวันเดียวกันทั่วนครปัตตานี
ส่วนที่ 2 ผู้ว่าราชการนครปัตตานีมาตรา 42 ให้นครปัตตานีมีผู้ว่าราชการนครปัตตานีคนหนึ่งซึ่งราษฎรเลือกตั้งขึ้น โดยวิธีการออกเสียงลงคะแนนโดยตรงและลับ
การเลือกตั้งผู้ว่าราชการนครปัตตานีจะกระทำได้ต้องมีพระราชกฤษฎีกากำหนดให้มีการเลือกตั้งแล้ว ในพระราชกฤษฎีกานั้นให้ระบุวันเลือกตั้งและระยะเวลารับสมัครเลือกตั้ง
หลักเกณฑ์และวิธีการเลือกตั้งผู้ว่าราชการนครปัตตานีให้เป็นไปตามกฎหมายว่าด้วยการเลือกตั้งสมาชิกสภานครปัตตานีและผู้ว่าราชการปัตตานีมหานคร
ผลของการเลือกตั้งผู้ว่าราชการนครปัตตานีให้ประกาศในราชกิจจานุเบกษา
มาตรา 43 ผู้มีสิทธิ์เลือกตั้งผู้ว่าราชการนครปัตตานีต้องมีคุณสมบัติตามมาตรา 11 และไม่มีลักษณะต้องห้ามตามมาตรา 12
มาตรา 44 ผู้มีสิทธิ์สมัครรับเลือกตั้งเป็นผู้ว่าราชการนครปัตตานีต้องเป็นผู้มีคุณสมบัติตามมาตรา 13 และไม่มีลักษณะต้องห้ามตามมาตรา 14
มาตรา 45 ผู้ว่าราชการนครปัตตานีมีวาระอยู่ในตำแหน่งคราวละ 4 ปีนับแต่วันเลือกตั้ง
เมื่อผู้ว่าราชการนครปัตตานีพ้นจากตำแหน่งวาระ ให้จัดการเลือกตั้งขึ้นใหม่ภายใน 60 วันนับแต่วันสิ้นสุดวาระ แต่ถ้าตำแหน่งผู้ว่าราชการปัตตานีมหานครว่างลงโดยเหตุอื่น ให้ทำการเลือกตั้งขึ้นใหม่ภายใน 90 วัน และให้ผู้ได้รับการเลือกตั้งอยู่ในตำแหน่งโดยเริ่มนับวาระใหม่
มาตรา 46 ให้ผู้ว่าราชการนครปัตตานีดำรงตำแหน่งนับแต่วันเลือกตั้ง
ให้มีการมอบหมายงานในหน้าที่ผู้ว่าราชการนครปัตตานีภายใน 7 วันนับแต่วันเลือกตั้ง
มาตรา 47 ผู้ว่าราชการนครปัตตานีมีอำนาจหน้าที่ดังต่อไปนี้(1) กำหนดนโยบายและบริหารราชการของนครปัตตานีให้เป็นไปตามกฎหมาย
(2) สั่ง อนุญาต อนุมัติเกี่ยวกับราชการของนครปัตตานี (3) แต่งตั้งและถอดถอนรองผู้ว่าราชการนครปัตตานี เลขานุการผู้ว่าราชการนครปัตตานี ผู้ช่วยเลขานุการผู้ว่าราชการนครปัตตานี และแต่งตั้งและถอดถอนผู้ทรงคุณวุฒิเป็นประธานที่ปรึกษา ที่ปรึกษา หรือคณะที่ปรึกษาของผู้ว่าราชการนครปัตตานี หรือเป็นคณะกรรมการเพื่อปฏิบัติราชการใดๆ
(4) บริหารราชการตามที่คณะรัฐมนตรี นายกรัฐมนตรี หรือรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทยมอบหมาย
(5) วางระเบียบเพื่อให้งานของนครปัตตานีเป็นไปโดยเรียบร้อย(6) รักษาการให้เป็นไปตามข้อบัญญัตินครปัตตานี(7) อำนาจหน้าที่อื่นตามที่บัญญัติไว้ในพระราชบัญญัตินี้ และกฎหมายอื่น
มาตรา 48 ให้ผู้ว่าราชการนครปัตตานีเป็นผู้บังคับบัญชาข้าราชการนครปัตตานี และลูกจ้างนครปัตตานี และรับผิดชอบในการปฏิบัติราชการของนครปัตตานี และให้มีอำนาจหน้าที่ตามที่กฎหมายอื่นได้กำหนดให้เป็นอำนาจหน้าที่ของผู้ว่าราชการจังหวัด นายกเทศมนตรี หรือคณะเทศมนตรี แล้วแต่กรณีโดยอนุโลม ทั้งนี้ เว้นแต่พระราชบัญญัตินี้จะได้บัญญัติไว้เป็นอย่างอื่น
มาตรา 49 ผู้ว่าราชการนครปัตตานี(1) ต้องไม่ดำรงตำแหน่งหรือปฏิบัติหน้าที่อื่นใด ในส่วนราชการหรือหน่วยงานของรัฐ หรือรัฐวิสาหกิจ หรือการพาณิชย์ของนครปัตตานี หรือบริษัทซึ่งนครปัตตานีถือหุ้นหรือตำแหน่งผู้บริหารท้องถิ่น หรือพนักงานส่วนท้องถิ่น เว้นแต่ตำแหน่งที่ต้องดำรงตามบทบัญญัติแห่งกฎหมาย
(2) ต้องไม่รับเงินหรือประโยชน์ใดๆ เป็นพิเศษจากส่วนราชการ หรือหน่วยงานของรัฐหรือรัฐวิสาหกิจ หรือการพาณิชย์ของนครปัตตานี หรือบริษัทซึ่งนครปัตตานีถือหุ้นนอกเหนือไปจากที่ส่วนราชการหรือหน่วยงานของรัฐหรือรัฐวิสาหกิจ หรือการพาณิชย์หรือบริษัทปฏิบัติกับบุคคลอื่นในธุรกิจการงานตามปกติ
(3) ต้องไม่เป็นคู่สัญญาหรือมีส่วนได้เสียในสัญญาที่ทำกับปัตตานีมหานคร หรือการพาณิชย์ของนครปัตตานี หรือบริษัทซึ่งนครปัตตานีถือหุ้น เว้นแต่กรณีที่ผู้ว่าราชการนครปัตตานีได้เป็นคู่สัญญาหรือเป็นผู้มีส่วนได้เสียในสัญญาอยู่ก่อนได้รับการเลือกตั้ง
บทบัญญัติตามมาตรานี้มิให้ใช้บังคับในกรณีที่ผู้ว่าราชการนครปัตตานีรับเบี้ยหวัดบำเหน็จบำนาญหรือเงินปีพระบรมวงศานุวงศ์ หรือเงินอื่นใดในลักษณะเดียวกัน และมิให้ใช้บังคับในกรณีที่ผู้ว่าราชการนครปัตตานีรับเงินตอบแทนเงินค่าเบี้ยประชุม หรือเงินอื่นใด เนื่องจากการดำรงตำแหน่งกรรมาธิการของรัฐสภา หรือวุฒิสภา หรือสภาผู้แทนราษฎร หรือสภานครปัตตานี หรือสภาท้องถิ่นอื่น หรือกรรมการที่ได้รับแต่งตั้งในฐานะผู้ทรงคุณวุฒิตามบทบัญญัติแห่งกฎหมาย หรือกรรมการที่มีกฎหมายบัญญัติให้เป็นโดยตำแหน่ง
หมวด 5 อำนาจหน้าที่ของนครปัตตานีมาตรา 73 ภายใต้บังคับแห่งกฎหมายอื่น ให้นครปัตตานีมีอำนาจหน้าที่ดำเนินกิจการในเขตนครปัตตานี ในเรื่องดังต่อไปนี้
(1) จัดทำยุทธศาสตร์ด้านการพัฒนาจังหวัดนราธิวาส จังหวัดยะลา และจังหวัดปัตตานี ในลักษณะบูรณาการ
(2) จัดทำแผนปฏิบัติการที่จะดำเนินการในจังหวัดนราธิวาส จังหวัดยะลา และจังหวัดปัตตานี ให้เป็นไปตามยุทธศาสตร์ด้านการพัฒนาจังหวัดชายแดนภาคใต้
(3) การรักษาความสงบเรียบร้อยของประชาชน ทั้งนี้ ตามข้อบัญญัตินครปัตตานี และตามกฎหมายอื่นที่กำหนดให้เป็นอำนาจหน้าที่ของนครปัตตานี
(4) การทะเบียนตามที่กฎหมายกำหนด(5) การป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย(6) การรักษาความสะอาดและความเป็นระเบียบเรียบร้อยของบ้านเมือง
(7) การผังเมือง(8) การจัดให้มีและบำรุงรักษาทางบก ทางน้ำ และทางระบายน้ำ
(9) การวิศวกรรมจราจร(10) การขนส่ง
(11) การจัดให้มีและควบคุมตลาด ท่าเทียบเรือ ท่าข้ามและที่จอดรถ
(12) การดูแลรักษาที่สาธารณะ(13) การจัดให้มีและบำรุงรักษาสถานที่พักผ่อนหย่อนใจ(14) การพัฒนาและอนุรักษ์สิ่งแวดล้อม(15) บำรุงรักษาศิลปะ จารีตประเพณี ภูมิปัญญาท้องถิ่น และวัฒนธรรมอันดีของท้องถิ่น
(16) ส่งเสริมแนวคิดด้านพหุวัฒนธรรมในฐานะที่เป็นส่วนสำคัญของวัฒนธรรมแห่งชาติ รวมถึงการลดการผูกขาดทางวัฒนธรรมหรือการขจัดการเลือกปฏิบัติทางวัฒนธรรมโดยไม่เป็นธรรมต่อบุคคล ทั้งนี้ เท่าที่ไม่ขัดต่อบทบัญญัติแห่งรัฐธรรมนูญและกฎหมาย
(17) ส่งเสริม สนับสนุน อำนวยความสะดวกและแก้ไขปัญหาแก่คนไทยในจังหวัดนราธิวาส จังหวัดยะลา และจังหวัดปัตตานี ที่เดินทางไปประกอบพิธีฮัจญ์ ณ ราชอาณาจักรซาอุดีอาระเบีย
(18) ส่งเสริมการมีส่วนร่วมของประชาชนทุกภาคส่วนในการแก้ไขปัญหาในจังหวัดชายแดนภาคใต้
(19) การสาธารณูปโภค(20) การสาธารณสุข การอนามัยครอบครัว และการรักษาพยาบาล
(21) การควบคุมความปลอดภัย ความเป็นระเบียบเรียบร้อยและการอนามัยในโรงมหรสพ และสาธารณสถานอื่นๆ
(22) การจัดการศึกษา(23) การสาธารณูปการ(24) การสังคมสงเคราะห์(25) การส่งเสริมการกีฬา(26) การส่งเสริมการประกอบอาชีพ(27) การพาณิชย์ของนครปัตตานี(28) หน้าที่อื่นๆ ตามที่กฎหมายอื่นกำหนดบรรดาอำนาจหน้าที่ใด ซึ่งเป็นของราชการส่วนกลางหรือราชการส่วนภูมิภาค จะมอบให้นครปัตตานีปฏิบัติก็ได้ โดยให้ทำเป็นพระราชกฤษฎีกา กฎกระทรวง ข้อบังคับ หรือประกาศแล้วแต่กรณี ในกรณีที่ทำเป็นข้อบังคับหรือประกาศ ต้องได้รับความเห็นชอบจากรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย
มาตรา 74 ให้นครปัตตานีจัดทำสรุปสถานการณ์ ปัญหา และอุปสรรคในการแก้ไขปัญหาในจังหวัดชายแดนภาคใต้เสนอต่อคณะรัฐมนตรีทุก 1 ปี และให้คณะรัฐมนตรีเสนอรัฐสภาเพื่อทราบ
มาตรา 75 นครปัตตานีอาจให้บริการแก่เอกชน ส่วนราชการ หน่วยงานของรัฐ รัฐวิสาหกิจ หรือราชการส่วนท้องถิ่น โดยเรียกค่าบริการได้โดยตราเป็นข้อบัญญัตินครปัตตานี
มาตรา 76 นครปัตตานีอาจดำเนินกิจการนอกเขตนครปัตตานีได้เมื่อ
(1) การนั้นจำเป็นต้องกระทำและเป็นการที่เกี่ยวเนื่องกับกิจการที่ดำเนินการตามอำนาจหน้าที่ที่อยู่ในเขตนครปัตตานี หรือเป็นประโยชน์แก่ประชาชนในนครปัตตานี
(2) ได้รับความเห็นชอบจากสภานครปัตตานี และ(3) ได้รับความยินยอมจากผู้ว่าราชการนครปัตตานี ราชการส่วนท้องถิ่นหรือส่วนราชการที่เกี่ยวข้อง แล้วแต่กรณี
มาตรา 77 นครปัตตานีอาจทำกิจการร่วมกับบุคคลอื่น โดยก่อตั้งบริษัทหรือถือหุ้นในบริษัทได้เมื่อ
(1) บริษัทนั้นมีวัตถุประสงค์เฉพาะกิจการเป็นสาธารณูปโภค แต่ทั้งนี้ไม่กระทบกระเทือนถึงกิจการที่นครปัตตานีได้กระทำอยู่แล้วก่อนวันที่พระราชบัญญัตินี้ใช้บังคับ และ
(2) นครปัตตานีต้องถือหุ้นเป็นมูลค่าเกินร้อยละห้าสิบของทุนที่บริษัทนั้นจดทะเบียนไว้ในกรณีที่มีนครปัตตานี ส่วนราชการหน่วยงานของรัฐ รัฐวิสาหกิจ หรือราชการส่วนท้องถิ่นถือหุ้นอยู่ในบริษัทเดียวกัน ให้นับหุ้นที่ถือนั้นรวมกัน และ
(3) สภานครปัตตานีมีมติให้ความเห็นชอบด้วยคะแนนเสียงเกินกึ่งหนึ่งของจำนวนสมาชิกสภานครปัตตานีทั้งหมด และ
(4) ได้รับความเห็นชอบจากรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย การเปลี่ยนแปลงจำนวนหุ้นที่นครปัตตานีถืออยู่ต้องได้รับอนุมัติจากสภานครปัตตานี
มาตรา 78 ถ้ากิจการใดอยู่ภายใต้อำนาจหน้าที่ของนครปัตตานี นครปัตตานีอาจดำเนินการนั้นร่วมกับส่วนราชการ หน่วยงานของรัฐ รัฐวิสาหกิจ หรือราชการส่วนท้องถิ่นอื่นได้โดยจัดตั้งเป็นองค์การเรียกว่า สหการ มีฐานะเป็นนิติบุคคล และมีคณะกรรมการบริหาร ประกอบด้วย ผู้แทนของนครปัตตานี ส่วนราชการ หน่วยงานของรัฐ รัฐวิสาหกิจ และราชการส่วนท้องถิ่นที่เกี่ยวข้องแล้วแต่กรณี
การจัดตั้งสหการจะกระทำได้โดยตราเป็นพระราชกฤษฎีกา ในพระราชกฤษฎีกานั้นให้กำหนดชื่อ อำนาจหน้าที่ และวิธีดำเนินงาน เมื่อจะยุบเลิกสหการให้ตราเป็นพระราชกฤษฎีกา และให้ระบุวิธีจัดการทรัพย์สินไว้ด้วย
มาตรา 79 ในกรณีจำเป็น นครปัตตานีอาจมอบให้เอกชนกระทำกิจการ ซึ่งอยู่ในอำนาจหน้าที่ของนครปัตตานี และเรียกเก็บค่าธรรมเนียม ค่าบริการ หรือค่าตอบแทนที่เกี่ยวข้องแทนนครปัตตานีได้ แต่ต้องได้รับความเห็นชอบจากสภานครปัตตานี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทยเสียก่อน หลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขในการให้กระทำกิจการตามวรรคหนึ่งให้เป็นไปตามระเบียบนครปัตตานี ซึ่งได้รับความเห็นชอบจากสภานครปัตตานี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย
สิทธิในการกระทำกิจการตามวรรคหนึ่ง เป็นสิทธิเฉพาะตัว จะโอนไปมิได้
หมวด 8 ความสัมพันธ์ระหว่างรัฐบาลกับนครปัตตานีมาตรา 102 เพื่อประโยชน์ในการปฏิบัติหน้าที่ราชการอื่นนอกเหนือจากที่พระราชบัญญัตินี้และกฎหมายอื่นกำหนด ให้เป็นอำนาจหน้าที่ของนครปัตตานี ถ้ากระทรวง ทบวง กรมใด เห็นสมควรส่งข้าราชการมาประจำนครปัตตานี เพื่อปฏิบัติราชการในหน้าที่ ของกระทรวง ทบวง กรม นั้นๆ ก็ย่อมกระทำได้โดยทำความตกลงกับนครปัตตานี
มาตรา 103 การตั้งงบประมาณเป็นเงินอุดหนุนในนครปัตตานี ให้รัฐบาลตั้งให้นครปัตตานีโดยตรงภายใต้บังคับแห่งกฎหมายอื่น เงินอุดหนุนที่รัฐบาลจัดนครปัตตานีนั้น รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทยจะออกระเบียบกำหนดการใช้จ่ายเงินดังกล่าวก็ได้
มาตรา 114 ให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทยมีอำนาจหน้าที่ควบคุมดูแลการปฏิบัติราชการของนครปัตตานี เพื่อการนี้ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทยมีอำนาจสั่งสอบสวนข้อเท็จจริง หรือสั่งให้ผู้ว่าราชการนครปัตตานีชี้แจงแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับการปฏิบัติราชการของนครปัตตานี ในกรณีที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทยเห็นว่าการปฏิบัติใดๆ ของผู้ว่าราชการนครปัตตานีขัดต่อกฎหมาย มติของคณะรัฐมนตรี หรือเป็นไปในทางที่อาจทำให้เสียประโยชน์ของนครปัตตานี รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทยจะยับยั้งหรือสั่งการตามที่เห็นสมควรก็ได้
มาตรา 115 นโยบายเสริมสร้างสันติสุข ยุทธศาสตร์การแก้ไขปัญหาความมั่นคงและการรักษาความมั่นคงภายในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ เป็นหน้าที่และความรับผิดชอบของรัฐบาล.
แสดงความคิดเห็น
รายละเอียดกระทู้
หมายเหตุ : สาระสำคัญบางมาตรา จากทั้งหมด 121 มาตรา ของร่างพระราชบัญญัติระเบียบบริหารราชการนครปัตตานี พ.ศ....ที่พรรคเพื่อไทยได้ยกร่างไว้ในการหาเสียงเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร เมื่อวันที่ 3 กรกฎาคม 2554 มาตรา 1 พระราชบัญญัตินี้เรียกว่า "ระเบียบบริหารราชการนครปัตตานี พ.ศ...." มาตรา 2 พระราชบัญญัตินี้ให้ใช้บังคับตั้งแต่วันถัดจากวันประกาศในราชกิจจานุเบกษา เป็นต้นไป มาตรา 3 "นครปัตตานี" หมายความว่า จังหวัดนราธิวาส จังหวัดยะลา และจังหวัดปัตตานี บทบัญญัติแห่งกฎหมาย กฎ ข้อบังคับ ระเบียบหรือคำสั่งอื่นใด อ้างถึงนครปัตตานี จังหวัด อำเภอ ตำบล องค์การบริหารส่วนจังหวัด เทศบาล องค์การบริหารส่วนตำบล ให้ถือว่าบทบัญญัติแห่งกฎหมาย กฎ ข้อบังคับ ระเบียบหรือคำสั่งนั้น อ้างถึงนครปัตตานี ตามพระราชบัญญัตินี้ แล้วแต่กรณีเท่าที่ไม่ขัดหรือแย้งกับบทบัญญัติแห่งพระราชบัญญัตินี้ มาตรา 4 ให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทยรักษาการตาม พระราชบัญญัตินี้ หมวด 1 การจัดระเบียบบริหารราชการนครปัตตานีมาตรา 5 ให้นครปัตตานีมีฐานะเป็นนิติบุคคลและเป็นราชการบริหารส่วนท้องถิ่นรูปแบบพิเศษ มีระเบียบการบริหารตามพระราชบัญญัตินี้ และมีอาณาเขตท้องที่ครอบคลุมพื้นที่จังหวัดนราธิวาส จังหวัดยะลา และจังหวัดปัตตานี มีอยู่ในวันที่พระราชบัญญัตินี้ใช้บังคับ การแก้ไขเปลี่ยนแปลงอาณาเขตท้องที่นครปัตตานีให้ตราเป็นพระราชบัญญัติ มาตรา 6 ให้พื้นที่การบริหารนครปัตตานีให้ครอบคลุมพื้นที่จังหวัดนราธิวาส จังหวัดยะลา และจังหวัดปัตตานี รวมทั้งองค์การบริหารส่วนจังหวัด เทศบาล องค์การบริหารส่วนตำบลในพื้นที่ 3 จังหวัดดังกล่าว การตั้ง ยุบ หรือเปลี่ยนแปลงพื้นที่เขตให้กระทำโดยประกาศของกระทรวงมหาดไทย และให้ประกาศในราชกิจจานุเบกษา หมวด 2 การบริหารนครปัตตานีมาตรา 8 การบริหารนครปัตตานี ประกอบด้วย(1) สภานครปัตตานี(2) ผู้ว่าราชการนครปัตตานี ส่วนที่ 1 สภานครปัตตานีมาตรา 9 สภานครปัตตานีประกอบด้วย สมาชิกซึ่งราษฎรเลือกตั้งจากตัวแทนอำเภอในพื้นที่จังหวัดนราธิวาส จังหวัดยะลา และจังหวัดปัตตานี มีจำนวนตามจำนวนอำเภอในพื้นที่ 3 จังหวัดดังกล่าว มาตรา 10 การเลือกตั้งสมาชิกสภานครปัตตานี จะกระทำได้เมื่อได้มีพระราชกฤษฎีกากำหนดให้มีการเลือกตั้งแล้ว ในพระราชกฤษฎีกานั้นให้ระบุวันเลือกตั้งและระยะเวลารับสมัครเลือกตั้ง การกำหนดเขตเลือกตั้ง ให้ถือพื้นที่อำเภอเป็นเขตเลือกตั้งในเขตเลือกตั้งหนึ่งให้มีสมาชิกสภานครปัตตานีได้ 1 คนการกำหนดเขตเลือกตั้งให้อำเภอที่กระทรวงมหาดไทยประกาศครั้งสุดท้ายก่อนวันประกาศพระราชกฤษฎีกาให้มีการเลือกตั้งสมาชิกสภานครปัตตานี และให้ทำเป็นประกาศของกระทรวงมหาดไทย มาตรา 11 บุคคลผู้มีคุณสมบัติดังต่อไปนี้ เป็นผู้มีสิทธิ์เลือกตั้ง(1) มีสัญชาติไทย แต่บุคคลผู้มีสัญชาติไทยโดยการแปลงสัญชาติ ต้องได้สัญชาติไทยมาแล้วไม่น้อยกว่า 5 ปี (2) มีอายุไม่ต่ำกว่า 18 ปีบริบูรณ์ในวันที่ 1 มกราคม ของปีที่มีการเลือกตั้ง และ (3) มีชื่ออยู่ในทะเบียนบ้านในเขตเลือกตั้งเป็นเวลาติดต่อกันจนถึงวันเลือกตั้ง ไม่น้อยกว่า 90 วัน มาตรา 12 บุคคลผู้มีลักษณะใดลักษณะหนึ่งดังต่อไปนี้ในวันเลือกตั้ง เป็นบุคคลต้องห้ามมิให้ใช้สิทธิ์เลือกตั้งสมาชิกสภานครปัตตานี คือ (1) วิกลจริตหรือจิตฟั่นเฟือนไม่สมประกอบ(2) ภิกษุ สามเณร นักพรต หรือนักบวช(3) ต้องคุมขังอยู่โดยหมายของศาลหรือคำสั่งที่ชอบด้วยกฎหมาย (4) อยู่ในระหว่างถูกเพิกถอนสิทธิ์เลือกตั้งมาตรา 13 ผู้มีสิทธิ์สมัครรับเลือกตั้งเป็นสมาชิกสภานครปัตตานีต้องมีคุณสมบัติดังต่อไปนี้ (1) สัญชาติไทยโดยการเกิด(2) อายุไม่ต่ำกว่า 25 ปีบริบูรณ์ในวันเลือกตั้ง และ(3) มีชื่ออยู่ในทะเบียนบ้านในเขตนครปัตตานีเป็นเวลาติดต่อกันจนถึงวันสมัครไม่น้อยกว่า 180 วัน หรือมีชื่ออยู่ในทะเบียนบ้านในเขตนครปัตตานี และได้เสียภาษีตามกฎหมายว่าด้วยภาษีโรงเรือนและที่ดิน หรือตามกฎหมายว่าด้วยภาษีบำรุงท้องที่ ให้นครปัตตานีในปีที่สมัครหรือปีก่อนที่สมัคร 1 ปี มาตรา 14 บุคคลผู้มีลักษณะดังต่อไปนี้ เป็นบุคคลต้องห้ามมิให้ใช้สิทธิ์สมัครรับเลือกตั้งเป็นสมาชิกสภานครปัตตานี คือ (1) ติดยาเสพติดให้โทษ(2) เป็นบุคคลล้มละลาย ซึ่งศาลยังไม่สั่งให้พ้นจากคดี(3) เป็นบุคคลผู้มีลักษณะต้องห้ามมิให้ใช้สิทธิ์เลือกตั้งตามมาตรา 12 (1) (2) หรือ (4) (4) ต้องคำพิพากษาให้จำคุก และถูกคุมขังอยู่โดยหมายของศาล(5) เคยต้องคำพิพากษาให้จำคุกตั้งแต่ 2 ปีขึ้นไป โดยได้พ้นโทษมายังไม่ถึง 5 ปีในวันเลือกตั้ง เว้นแต่ความผิดอันได้กระทำโดยประมาท (6) เป็นบุคคลหูหนวกและเป็นใบ้(7) เป็นสมาชิกสภาซึ่งมีหน้าที่ในทางนิติบัญญัติ สมาชิกสภาท้องถิ่น คณะผู้บริหารท้องถิ่น หรือผู้บริหารท้องถิ่น (8) เป็นผู้สมัครรับเลือกตั้งเป็นสมาชิกสภาซึ่งมีหน้าที่ในทางนิติบัญญัติ สมาชิกสภาท้องถิ่น คณะผู้บริหารท้องถิ่น หรือผู้บริหารท้องถิ่น (9) เป็นข้าราชการซึ่งมีตำแหน่งหรือเงินเดือนประจำ(10) เป็นพนักงานหรือลูกจ้างของหน่วยงานของรัฐ หรือรัฐวิสาหกิจหรือของราชการส่วนท้องถิ่น (11) เป็นบุคคลซึ่งทางราชการหรือรัฐวิสาหกิจไล่ออก ปลดออก ให้ออกหรือเลิกจ้าง เพราะทุจริตต่อหน้าที่ หรือถือว่ากระทำการทุจริตและประพฤติมิชอบในวงราชการ (12) เป็นผู้ถูกถอดถอนให้ออกจากตำแหน่งสมาชิกสภานครปัตตานีถึงวันสมัครรับเลือกตั้งยังไม่ครบ 4 ปี (13) เป็นผู้ถูกให้ออกจากตำแหน่งสมาชิกสภานครปัตตานี ตามมาตรา 21 (8) ถึงวันสมัครรับเลือกตั้งยังไม่ครบ 4 ปี (14) เคยต้องคำพิพากษาหรือคำสั่งของศาลให้ทรัพย์สินตกเป็นของแผ่นดิน เพราะร่ำรวยผิดปกติ หรือมีทรัพย์สินเพิ่มขึ้นผิดปกติ มาตรา 15 อายุของสภานครปัตตานีมีกำหนดคราวละ 4 ปี นับแต่วันเลือกตั้งสมาชิกสภานครปัตตานี เมื่ออายุของสภานครปัตตานีสิ้นสุดลง ให้จัดการเลือกตั้งสมาชิกสภานครปัตตานีขึ้นใหม่เป็นการเลือกตั้งทั่วไป ซึ่งต้องกำหนดวันเลือกตั้งภายใน 60 วันนับแต่วันที่อายุของสภานครปัตตานีสิ้นสุดลง และวันเลือกตั้งนั้นต้องกำหนดวันเดียวกันทั่วนครปัตตานี ส่วนที่ 2 ผู้ว่าราชการนครปัตตานีมาตรา 42 ให้นครปัตตานีมีผู้ว่าราชการนครปัตตานีคนหนึ่งซึ่งราษฎรเลือกตั้งขึ้น โดยวิธีการออกเสียงลงคะแนนโดยตรงและลับ การเลือกตั้งผู้ว่าราชการนครปัตตานีจะกระทำได้ต้องมีพระราชกฤษฎีกากำหนดให้มีการเลือกตั้งแล้ว ในพระราชกฤษฎีกานั้นให้ระบุวันเลือกตั้งและระยะเวลารับสมัครเลือกตั้ง หลักเกณฑ์และวิธีการเลือกตั้งผู้ว่าราชการนครปัตตานีให้เป็นไปตามกฎหมายว่าด้วยการเลือกตั้งสมาชิกสภานครปัตตานีและผู้ว่าราชการปัตตานีมหานคร ผลของการเลือกตั้งผู้ว่าราชการนครปัตตานีให้ประกาศในราชกิจจานุเบกษา มาตรา 43 ผู้มีสิทธิ์เลือกตั้งผู้ว่าราชการนครปัตตานีต้องมีคุณสมบัติตามมาตรา 11 และไม่มีลักษณะต้องห้ามตามมาตรา 12 มาตรา 44 ผู้มีสิทธิ์สมัครรับเลือกตั้งเป็นผู้ว่าราชการนครปัตตานีต้องเป็นผู้มีคุณสมบัติตามมาตรา 13 และไม่มีลักษณะต้องห้ามตามมาตรา 14 มาตรา 45 ผู้ว่าราชการนครปัตตานีมีวาระอยู่ในตำแหน่งคราวละ 4 ปีนับแต่วันเลือกตั้ง เมื่อผู้ว่าราชการนครปัตตานีพ้นจากตำแหน่งวาระ ให้จัดการเลือกตั้งขึ้นใหม่ภายใน 60 วันนับแต่วันสิ้นสุดวาระ แต่ถ้าตำแหน่งผู้ว่าราชการปัตตานีมหานครว่างลงโดยเหตุอื่น ให้ทำการเลือกตั้งขึ้นใหม่ภายใน 90 วัน และให้ผู้ได้รับการเลือกตั้งอยู่ในตำแหน่งโดยเริ่มนับวาระใหม่ มาตรา 46 ให้ผู้ว่าราชการนครปัตตานีดำรงตำแหน่งนับแต่วันเลือกตั้ง ให้มีการมอบหมายงานในหน้าที่ผู้ว่าราชการนครปัตตานีภายใน 7 วันนับแต่วันเลือกตั้ง มาตรา 47 ผู้ว่าราชการนครปัตตานีมีอำนาจหน้าที่ดังต่อไปนี้(1) กำหนดนโยบายและบริหารราชการของนครปัตตานีให้เป็นไปตามกฎหมาย (2) สั่ง อนุญาต อนุมัติเกี่ยวกับราชการของนครปัตตานี (3) แต่งตั้งและถอดถอนรองผู้ว่าราชการนครปัตตานี เลขานุการผู้ว่าราชการนครปัตตานี ผู้ช่วยเลขานุการผู้ว่าราชการนครปัตตานี และแต่งตั้งและถอดถอนผู้ทรงคุณวุฒิเป็นประธานที่ปรึกษา ที่ปรึกษา หรือคณะที่ปรึกษาของผู้ว่าราชการนครปัตตานี หรือเป็นคณะกรรมการเพื่อปฏิบัติราชการใดๆ (4) บริหารราชการตามที่คณะรัฐมนตรี นายกรัฐมนตรี หรือรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทยมอบหมาย (5) วางระเบียบเพื่อให้งานของนครปัตตานีเป็นไปโดยเรียบร้อย(6) รักษาการให้เป็นไปตามข้อบัญญัตินครปัตตานี(7) อำนาจหน้าที่อื่นตามที่บัญญัติไว้ในพระราชบัญญัตินี้ และกฎหมายอื่น มาตรา 48 ให้ผู้ว่าราชการนครปัตตานีเป็นผู้บังคับบัญชาข้าราชการนครปัตตานี และลูกจ้างนครปัตตานี และรับผิดชอบในการปฏิบัติราชการของนครปัตตานี
จัดฟอร์แม็ตข้อความและมัลติมีเดีย
รายละเอียดการใส่ ลิงค์ รูปภาพ วิดีโอ เพลง (Soundcloud)