เงื่อนไขสุกงอม พร้อมระเบิด

แสดงความคิดเห็น

ขอบคุณ http://www.thairath.co.th/column/pol/wikroh/329821

ไทยรัฐออนไลน์ 3 มี.ค.56

การเมือง “ปะทุ” หลังศึกชิงเมืองหลวง “ปู” หมดเวลาอั้น

ถึง เวลาที่คนเมืองกรุงจะได้ใช้สิทธิที่มีอยู่ในมือ เข้าคูหาตัดสินใจกากบาทเลือกคนที่คิดว่าดีที่สุด ไว้วางใจได้มากที่สุดมาเป็นผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร

รับภาระดูแลคุณภาพชีวิตความเป็นอยู่ของชาวเมืองหลวงไปอีก 4 ปีข้างหน้า

ไม่ใช่แค่อารมณ์สะใจในบรรยากาศความขัดแย้งวิกฤติการเมือง 2 ขั้วเท่านั้น

แต่ ไม่ว่าผลจะออกมาอย่างไร ใครแพ้ ใครชนะ ตามปรากฏการณ์หลังเสร็จศึกเลือกตั้งผู้ว่าฯ กทม.ปิดฉากสนามเล็ก กระแสการเมืองก็จะเปิดม่านกลับสู่เวทีใหญ่

กที่อั้นกันไว้ เพราะกลัวกระเทือนคะแนนเสียง

เบื้องแรกเลย กับ “ลูกติดพัน” ในอารมณ์ของฝ่ายชนะก็ต้อง “ปูนบำเหน็จ” ให้รางวัลตอบแทนขุนพลที่ร่วมแรงร่วมใจทำให้ถึงเป้าหมาย

ตรงกันข้ามกับฝ่ายพ่ายแพ้จะต้องเจอแน่กับคิว “เช็กบิล”

ตามเงื่อนไขที่ประเมินกันได้ ถ้าเป็นฝ่ายประชาธิปัตย์ที่พลาดท่า แนวโน้มต้องนำมาซึ่งการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่

ตาม เค้ารางที่นายพิชัย รัตตกุล อดีตหัวหน้าพรรค ออกมาจั่วนำร่องไว้ แม่ทัพอย่างนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรค หนีไม่พ้นโดนกระแสกดดันให้แสดงสปิริตลาออก

รับผิดชอบหากนำทีมพ่ายแพ้ ทั้งๆที่ฐานคะแนนหน้าตักเป็นต่อ

หล่ออยู่คนเดียว แต่ไม่เอาพวกพ้อง

ขณะ ที่พรรคเพื่อไทยที่ทุ่มทุนสร้าง ระดมสรรพกำลังทั้งเกมการตลาดที่ได้ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี นำทีมรัฐมนตรีลงพื้นที่หาเสียงช่วยผู้สมัครของพรรคชิงพื้นที่ข่าวได้รายวัน ไหนจะบวกความได้เปรียบในฐานะกุมอำนาจรัฐ

มีเครื่องทุ่นแรงช่วยเต็มอัตรา

ถ้าไม่ชนะก็ต้องมีการเคลียร์บัญชี โดนไล่บี้ทั้งทีมงานการเมืองในพรรคทั้งเจ้าหน้าที่หน่วยงานรัฐ

ถือเป็นปกติวิสัยหลังเกมการต่อสู้ในสนามเลือกตั้ง

ที่ต้องติดตามก็คือช็อตหลังจากนั้น แกะรอยตามชนวนหัวเชื้อสารพัดเงื่อนไขที่ถูกกลบไว้ชั่วคราว จะได้จังหวะขยับคืบหน้าต่อตามโปรแกรม

เข้าสู่จุดวัดดวงได้เสียเข้าไปทุกขณะ

ไล่ตั้งแต่ปมร้อน “นิรโทษกรรม” ที่กลายเป็นชนวนขัดแย้งระหว่างแนวร่วมคนเสื้อแดง

หันปลายดาบมาทิ่มแทงกันเอง

เรื่อง ลามเตลิดถึงขั้นแฉคลิปสาวไส้พฤติกรรมเบื้องหลัง ประจานแกนนำบางคน “ใหญ่คับฟ้า” ขนาดอวดศักดามีอำนาจสั่งย้ายนายตำรวจใหญ่ในพื้นที่ได้

นี่ยังไง “ประชาธิปไตยกินได้”

ปากอ้างประชาชนแต่หนีไม่พ้นอำนาจและผลประโยชน์

แต่ จุดหลักๆเลย ที่มาของปรากฏการณ์แดงแตกคอ เมื่อฝ่ายหนึ่ง นายขวัญชัย ไพรพนา แกนนำคนเสื้อแดงอุดร เปิดฉากถล่มนางธิดา ถาวรเศรษฐ ประธานแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.) ไม่พอใจที่กดดันให้รัฐบาลพรรคเพื่อไทยเดินหน้าออกพระราชกำหนดนิรโทษกรรม

อ้างความจำเป็นในการประคอง “ยิ่งลักษณ์” ไว้ไม่ให้เข้าเหลี่ยมฝ่ายจ้องล้มกระดาน

ขณะ ที่ฝ่ายของนางธิดา ซึ่งรวมถึงแกนนำใหญ่ นปช.อย่างนายจตุพร พรหมพันธุ์ นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ นพ.เหวง โตจิราการ ฯลฯ ที่กระโดดถือหางนางธิดา ก็ยืนยันความจำเป็นในการเร่งเกมนิรโทษกรรม เพื่อช่วยเหลือแนวร่วมคนเสื้อแดงที่ยังถูกขังอยู่ในเรือนจำ

ขณะที่คดีของแกนนำเสื้อแดง ก็จ่อรอศาลพิพากษาเข้าไปทุกขณะ

ระหว่างช่วยคนลำบากในคุก กับ ประคองสถานการณ์รัฐบาล เงื่อนไขขัดกัน

โจทย์หิน กดดันนายกฯ ยิ่งลักษณ์ต้องเลือกทางใดทางหนึ่ง

จาก ปมนิรโทษกรรมก็โยงชนวนมาถึงประเด็นการแก้ไขรัฐธรรมนูญ ที่วันนี้ความเคลื่อนไหวทางลึกของพรรคเพื่อไทยและพรรคร่วมรัฐบาลลงความเห็น ตรงกัน

เดินหน้าลุยรื้อแบบรายมาตรา

แน่นอนธงนำหน้าอยู่ที่ มาตรา 237 ว่าด้วยเงื่อนไขยุบพรรค การเมือง เพราะนักเลือกตั้งร้อยทั้งร้อยไม่ว่าฝ่ายรัฐบาล หรือฝ่ายค้าน ต่างก็อยากโละทิ้งด้วยกันทั้งนั้น

ไม่มีใครอยากเหนื่อยลุ้นติดบ่วงคดียุบพรรค

แต่ ที่ยังกั๊กกันไว้ เพราะพรรคประชาธิปัตย์และฝ่ายต้านพรรคเพื่อ– ไทยระแวงว่า จะมีรายการสอดไส้วาระแฝงช่วยเหลือ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ให้ได้ล้างโทษ

โละคดีความที่ถูกพันธนาการไว้

เอาเป็นว่า ตามรูปการณ์ถ้ายุทธศาสตร์แก้รัฐธรรมนูญแบบรายมาตราสามารถเดินหน้าได้

หยั่งกระแสต้านแล้วเบาบาง

โดย รูปเกมฉวยจังหวะเล่นเร็ว โอกาสที่จะมีรายการรวบรัดไปสู่การรื้อรัฐธรรมนูญมาตรา 309 เพื่อล้มล้างคดีที่มีผลพวงมาจากการรัฐประหารก็มีทางเป็นไปได้

และถึงจังหวะนั้น รัฐบาลก็ต้องพร้อมเดินเข้าสู่จุดเสี่ยง

นิรโทษ กรรมกับแก้ไขรัฐธรรมนูญ เส้นทางอันตรายที่ไม่ว่านายกฯ ยิ่งลักษณ์จะลอยตัว ดึงจังหวะยื้อเวลายังไง ก็ไม่สามารถหลีกเลี่ยงเป้าหมายปลายทางสุดท้ายของพี่ชายได้

ขณะที่รายการป่วนระหว่างทาง สถานการณ์ร้อนๆตามโปรแกรม

ไล่ ตามคิว ตั้งแต่การปรับคณะรัฐมนตรีแทนตำแหน่งว่างของนายชุมพล ศิลปอาชา อดีตรองนายกฯ และ รมว.การท่องเที่ยวฯ ที่ถึง แก่อสัญกรรม โดยความคืบหน้าล่าสุดพรรคชาติไทยพัฒนาได้ส่ง รายชื่อรัฐมนตรีใหม่ไปให้นายกฯ พิจารณาแล้ว อยู่ระหว่างการดำเนินการตามขั้นตอน

แน่นอน โดยยุทธศาสตร์ นายกฯ ยิ่งลักษณ์คงไม่อยากปรับหลายตำแหน่งให้เกิดแรงกระเพื่อม ตามความจำเป็นก็แค่ปรับในส่วนของพรรคร่วมรัฐบาลแทนเก้าอี้ที่ว่าง

แต่ โดยธรรมชาติของการปรับ ครม.ทุกรอบ เมื่อมีจังหวะปลดล็อกเมื่อไหร่ ยังไงก็ไม่พ้นอาการกระเพื่อม แรงกระฉอกจากบรรดาพวกจ้องเสียบเก้าอี้รัฐมนตรี

โดยเฉพาะคิวจ่อของนายจตุพร พรหมพันธุ์ ที่พลาดมาแล้วหลายรอบ

เอา เป็นว่า หลังเสร็จศึกเลือกตั้งผู้ว่าฯ กทม.ไม่นานตาม กรอบเวลานายกรัฐมนตรีจะต้องดำเนินการปรับ ครม.เพื่อความจำเป็นในการบริหารราชการแผ่นดิน

ต่อจากเกมปรับ ครม. รัฐบาลก็ต้องเหนื่อยกับศึกใหญ่

ตาม โปรแกรมล่าสุดที่นายวราเทพ รัตนากร รมต.ประจำสำนักนายกฯ รายงานให้ที่ประชุม ครม.รับทราบปฏิทินงานในสภาผู้แทน ราษฎร โดยรัฐบาลเตรียมเสนอร่าง พ.ร.บ.ให้อำนาจกระทรวงการคลังกู้เงิน เพื่อลงทุนโครงสร้างพื้นฐาน วงเงิน 2.2 ล้านล้านบาท

เพื่อเดินแผนยุทธศาสตร์พัฒนาระบบคมนาคมขนส่งของ ประเทศ ทั้งโครงการรถไฟความเร็วสูง 4 เส้นทางเชื่อมภาคเหนือ ภาคอีสาน ภาคใต้ โปรเจกต์รถไฟฟ้า 10 สาย เชื่อมกรุงเทพฯ กับชานเมือง

ผันเงิน เดินเครื่องเมกะโปรเจกต์กันแบบสุดกำลัง

รวมทั้งการเสนอร่าง พ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายประจำปี 2557 เข้าที่ประชุมสภาสมัยสามัญนิติบัญญัติ ภายในเดือน มีนาคมนี้

ขณะ ที่นายเจริญ จรรย์โกมล รองประธานสภาผู้แทนราษฎรได้ทำหนังสือเวียนถึงประธานคณะกรรมาธิการสามัญประจำ สภาผู้แทนราษฎรทั้ง 35 คณะ เพื่อแจ้งขอความร่วมมือในการงดเดินทางไปดูงานที่ต่างประเทศ ระหว่างวันที่ 28 พฤษภาคม ถึงวันที่ 2 มิถุนายน

เนื่องจากช่วงเวลาดังกล่าว สภาฯ จะเปิดสมัยวิสามัญพิจารณาร่าง พ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายประจำปี 2557 ในวาระที่ 2–3

เดิมพันอภิมหางบประมาณก้อนใหญ่

แน่ นอนด้วยเม็ดเงินมหาศาลที่สามารถโยงได้ทั้งทุนเลือกตั้ง ทั้งคะแนนเสียง เข้ายุทธศาสตร์การวางฐานการเมืองระยะยาว ของรัฐบาลพรรคเพื่อไทย

อย่างไรเสียพรรคประชาธิปัตย์คงไม่ยอมให้ผ่านไปได้โดยสะดวกโยธินแน่

เกมการเมืองในสภามีหวังต้องสู้กันหนัก

ขณะ ที่สถานการณ์นอกสภา ก็ยังมีกรณีคาราคาซังของปัญหาเขาพระวิหาร ข้อพิพาทชายแดนไทย–กัมพูชา ที่อยู่ระหว่างการเลี้ยงไฟไว้รอศาลโลกตัดสิน

ดีเดย์ลุ้นระทึกได้เสียในช่วงปลายปี

ที่แน่ๆระหว่างนี้จังหวะขยับของรัฐบาลถูกจับจ้องอยู่ตลอดเวลา

ล่า สุด พล.อ.อ.สุกำพล สุวรรณทัต รมว.กลาโหม ขึ้นไปกินข้าวกับ พล.อ.เตีย บันห์ รองนายกฯ และ รมว.กลาโหมของกัมพูชา ก็โดนวิพากษ์วิจารณ์ โยงกับผลประโยชน์ที่เอื้อกันระหว่างอดีตนายกฯ ทักษิณ ชินวัตร กับนายกฯ ฮุน เซน ของเขมร

ขยายประเด็นปลุกกระแสฝ่ายต้านไว้ก่อน

ตามสถานการณ์ ถ้าเข้าล็อก ม็อบธรรมยาตราเครือข่ายพันธมิตรฯ ก็พร้อมอาละวาดทันที

ใน ห้วงจังหวะที่ต้องมากันตามฤดูกาลทุกปี ม็อบเกษตรกรเดือดร้อนจากปัญหาภัยแล้ง พืชผลเกษตรราคาตกต่ำ เดินทางมาเรียกร้องให้รัฐบาลแก้ปัญหา

และเหมือนจะเป็นประเพณีการเมืองในช่วง 3–4 ปี หลังม็อบจะชุกชุมในช่วงสงกรานต์

รัฐบาลจึงต้องคุมเกมไม่ให้ม็อบชาวบ้านเดือดร้อนผสมโรงม็อบการเมือง

เรื่องของเรื่อง เกมในสภาก็เหนื่อย สถานการณ์นอกสภาก็ยังมีเค้าร้อนแรง ปมนิรโทษกรรม ประเด็นแก้ไขรัฐธรรมนูญ

สารพัดเผือกร้อนได้เวลาระอุเต็มที่

ถึงเวลาที่แต่ละกลุ่มที่ยึดโยงผลประโยชน์ ออกมาทวงสิทธิ์พึงมีพึงได้

ตาม เงื่อนไขกลุ่มคนเสื้อแดง นปช.ก็ต้องทวงคำตอบสุดท้ายเรื่องนิรโทษกรรม ตามความจำเป็นต้องช่วยแนวร่วมที่ถูกขังอยู่ในเรือนจำ รวมถึงช่วยแกนนำที่จ่อติดคุก

วัดใจรัฐบาลพรรคเพื่อไทยที่สู้เคียงบ่าเคียงไหล่กันมา

ใน ขณะที่รายการแก้ไขรัฐธรรมนูญก็ต้องมีความชัดเจนในประเด็นการแก้ไข ในอารมณ์ที่ฝ่ายต้านก็เค้นคอถามนายกฯ ยิ่งลักษณ์ว่า จะทำเพื่อส่วนรวมหรือทำเพื่อพี่ชาย

เช่นเดียวกันพวกแนวร่วมที่หวังช่วย “นายใหญ่” กลับบ้านก็ต้องไล่บี้ถามความจริงใจจากน้องสาวกันแล้วว่า รัฐบาลจะกล้าลุยเลยหรือไม่

สิ่งที่รัฐบาลของนายกฯ ยิ่งลักษณ์ พยายามดึงเกมซื้อเวลาไว้

มันถึงเวลาอั้นไม่อยู่

เงื่อนไขสุกงอม พร้อมระเบิดเต็มที่

สถานการณ์งวดเข้ามาถึงจุดที่นายกฯยิ่งลักษณ์จะใช้ ยุทธศาสตร์ “ตีกรรเชียง” ลอยตัวชิ่งไปชิ่งมาแบบที่ผ่านมาไม่ได้แล้ว

และในฐานะที่รัฐบาลพรรคเพื่อไทยกุมเสียงข้างมากในสภา สามารถชี้ทิศทางได้

ทุกกลุ่มทุกฝ่ายต้องการคำตอบ

แน่นอน “ยิ่งลักษณ์” คือคนที่ต้องตอบโจทย์ร้อนๆ.

“ทีมการเมือง”

ที่มา: ไทยรัฐออนไลน์
วันที่โพสต์: 3/03/2556 เวลา 02:41:43

แสดงความคิดเห็น

ความคิดเห็น*
จัดฟอร์แม็ต ดูการแสดงผล

ชื่อ*

อีเมล์

คำถามกันสแปม* สอง คูณ สอง เท่ากับ

ยกเลิก