เรียนรู้เกษตรทฤษฎีใหม่แบบอินทรีย์ ของ เกษตรกรดีเด่น ปราจีนบุรี

เรียนรู้เกษตรทฤษฎีใหม่แบบอินทรีย์ ของ เกษตรกรดีเด่น ปราจีนบุรี

ที่ตำบลโคกไทย อำเภอศรีมโหสถ จังหวัดปราจีนบุรี เป็นพื้นที่ที่ทำการเกษตรของเกษตรกรจำนวนมาก และหนึ่งในนั้นมี คุณสมชาย ภาวศิลป์ เกษตรกรผู้ได้รับรางวัลที่ 2 ของประเทศ ในการประกวดเกษตรกรดีเด่น สาขาไร่นาสวนผสมระดับประเทศ ประจำปี 2556 ที่ผ่านมา

เกษตรกรรายนี้ประกอบอาชีพทำนาและทำสวนผัก ผลไม้ เพื่อการบริโภคและจำหน่าย รวมทั้งเลี้ยงกบและชันโรง โดยได้น้อมนำพระราชดำริของพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช มาปฏิบัติใช้ด้วยการทำการเกษตรตามแนวทางเกษตรทฤษฎีใหม่

ซึ่งเป็นทฤษฎีที่แก้ปัญหาการขาดแคลนที่ดินทำกินของเกษตรกร และการประกอบอาชีพทางการเกษตร โดยเฉพาะในเขตที่ใช้น้ำฝนทำนาเป็นหลัก เกษตรกรจะมีความเสี่ยงสูง เป็นเหตุให้ผลผลิตอยู่ในระดับต่ำ ไม่เพียงพอต่อการบริโภค ด้วยพระอัจฉริยะในการแก้ปัญหา จึงได้พระราชทาน “ทฤษฎีใหม่” ให้ดำเนินการในพื้นที่ทำกินที่มีขนาดเล็ก ประมาณ 15 ไร่ ด้วยวิธีการจัดการทรัพยากรระดับไร่นาอย่างเหมาะสม ด้วยการจัดสรรการใช้ประโยชน์ในที่ดิน โดยให้มีการจัดสร้างแหล่งน้ำในที่ดินสำหรับการทำการเกษตรแบบผสมผสานอย่างได้ผล เพื่อให้เกษตรกรสามารถเลี้ยงตัวเองได้ ให้มีรายได้ไว้ใช้จ่าย และมีอาหารไว้บริโภคตลอดปี ซึ่งได้ดำเนินการอย่างแพร่หลายในปัจจุบัน เพื่อการผลิตทางเกษตรกรรมที่ยั่งยืนสำหรับเกษตรกรชาวไทย

เรียนรู้เกษตรทฤษฎีใหม่แบบอินทรีย์ ของ เกษตรกรดีเด่น ปราจีนบุรี

พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ได้มีพระราชดำรัสว่า

“…ถึงบอกว่า เศรษฐกิจพอเพียงและทฤษฎีใหม่ สองอย่างนี้จะทำความเจริญแก่ประเทศได้ แต่ต้องมีความเพียร แล้วต้องอดทน ต้องไม่ใจร้อน…”

คุณชาตรี บุญนาค ผู้อำนวยการสำนักงานส่งเสริมและพัฒนาการเกษตรที่ 3 จังหวัดระยอง เปิดเผยว่า สำนักงานส่งเสริมและพัฒนาการเกษตรที่ 3 จังหวัดระยอง ได้รับนโยบายจากอธิบดีกรมส่งเสริมการเกษตร คุณสมชาย ชาญณรงค์กุล ให้มีการขับเคลื่อนในเรื่องของงานนโยบายทั้งหมด โดยเฉพาะในเรื่องของแปลงใหญ่กับศูนย์เรียนรู้การเพิ่มประสิทธิภาพการผลิตสินค้าเกษตร (ศพก.) เพราะ ศพก. นั้น เป็นศูนย์เรียนรู้เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการผลิตสินค้าเกษตร การส่งเสริมนั้นจะแยกออกเป็น

2 ลักษณะ โดยส่วนงานของกรมส่งเสริมการเกษตรจะเข้าไปดำเนินการเอง กับประสานงานกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องและหน่วยงานภาคีเข้าไปร่วมดำเนินการ โดยเน้นการน้อมนำแนวทางของทฤษฎีใหม่มาดำเนินการ โดยส่วนงานของกรมส่งเสริมการเกษตร จะส่งเสริมในเรื่องการบริหารจัดการการปลูกพืชเป็นหลัก เช่น จะให้เกษตรกรปลูกอะไร ปลูกอย่างไร หรือบริหารจัดการพื้นที่เพื่อการเพาะปลูกอย่างไร เพื่อให้เกิดประสิทธิภาพสูงสุด และเหมาะสมกับสภาพพื้นที่และภูมิสังคม

เรียนรู้เกษตรทฤษฎีใหม่แบบอินทรีย์ ของ เกษตรกรดีเด่น ปราจีนบุรี

“ทำอย่างไร จะให้เกษตรกรลดต้นทุนได้ เราก็จะเข้าไปดูแลเรื่องการปลูก การบำรุงรักษา การเก็บเกี่ยว ที่มีคุณภาพ เพื่อลดต้นทุนการผลิตให้ได้ โดยนำเทคโนโลยีที่ทันสมัยและนวัตกรรม องค์ความรู้เข้าไปให้เกษตรกรได้ดำเนินการ ตลอดถึงนำพันธุ์พืชที่ดีมีคุณภาพไปส่งเสริมให้เกษตรกรปลูก สำหรับในพื้นที่เขต 3 มีเป้าหมายว่า ศพก. ที่เป็นจุดเรียนรู้ จะมีทั้งหมด 73 ศพก. 73 ศูนย์ ในการที่จะถ่ายทอดองค์ความรู้ไปสู่เกษตรกร” ผู้อำนวยการสำนักงานส่งเสริมและพัฒนาการเกษตรที่ 3 จังหวัดระยอง กล่าว

เรียนรู้เกษตรทฤษฎีใหม่แบบอินทรีย์ ของ เกษตรกรดีเด่น ปราจีนบุรี

ด้าน คุณปรารถนา แก้วพร้อม เกษตรอำเภอศรีมโหสถ จังหวัดปราจีนบุรี เปิดเผยถึงการส่งเสริมเกษตรกรในพื้นที่ให้ทำการเกษตรแบบเกษตรทฤษฎีใหม่ว่า เกษตรกรตำบลโคกไทย อำเภอศรีมโหสถ ที่ผ่านมาจะปลูกข้าวหอมมะลิ ซึ่งทำได้แค่ปีละ 1 ครั้ง เมื่อพ้นจากการทำนาแล้วก็ไม่มีอาชีพอื่นใดเข้ามาเสริมรายได้ให้กับครอบครัว ก็นำเอาทฤษฎีใหม่ของพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช เข้ามาส่งเสริม แทนที่จะทำนาอย่างเดียว ก็ทำสวนผลไม้ ปลูกพืชผักสวนครัว เลี้ยงปลา เลี้ยงไก่ ด้วยการจัดแบ่งพื้นที่ มีแหล่งน้ำ มีแปลงปลูกพืชให้ผล มีแปลงปลูกผัก มีนาข้าว มีพื้นที่เลี้ยงสัตว์ จำพวกเป็ด ไก่ เพื่อบริโภคไข่และเนื้อ ในสระน้ำเลี้ยงปลาด้วย นอกจากจะเอาน้ำมาใช้ในแปลงปลูกพืช

การที่เกษตรกรมีการปลูกพืชหลากชนิด ทั้งข้าว ไม้ผล และพืชผัก ยามที่ผลผลิตประเภทใดประเภทหนึ่งไม่มีตลาด หรือมีราคาถูก ขายไม่คุ้มทุน เกษตรกรก็จะมีผลผลิตจากพืชตัวอื่นๆ เข้ามาทดแทน ที่สำคัญเป็นการใช้ที่ดินที่มีอยู่อย่างคุ้มค่า คือสามารถให้รายได้แก่เกษตรกรได้ตลอดทั้งปีและทุกฤดูกาล

เรียนรู้เกษตรทฤษฎีใหม่แบบอินทรีย์ ของ เกษตรกรดีเด่น ปราจีนบุรี

ในบางพื้นที่พืชผักบางอย่างปลูกไม่ได้ เพราะพื้นที่มักเจอกับสภาพน้ำท่วม ทาง ศพก. ก็จัดทำแปลงสาธิตการปลูกพืชผักในพื้นที่แม้น้ำท่วมก็ปลูกได้ เช่น หัวไชเท้า คะน้า ปลูกลงในกระถาง ก็สามารถที่จะปลูกได้ และนำมาบริโภคหรือจำหน่ายได้ ที่สำคัญได้มีการส่งเสริมโดยการขยายองค์ความรู้สู่เกษตรกรในการปลูกพืชผักแบบอินทรีย์ ด้วยการแนะนำและถ่ายทอดความรู้เรื่องการป้องกันกำจัดศัตรูพืช โดยใช้ไตรโคเดอร์ม่า และบิวเวอเรีย เพื่อป้องกันกำจัดเชื้อราในพืช ซึ่งทำให้เกษตรกรสามารถลดต้นทุนได้มากขึ้น

“การทำเกษตรอินทรีย์ เกษตรกรได้กำไรในชีวิตแล้ว 20 เปอร์เซ็นต์ เป็นกำไรที่ไม่สามารถหาซื้อได้ในตัวเอง ก็คือโรคร้ายต่างๆ ที่เกิดจากการใช้สารเคมี อันจะทำให้สุขภาพร่างกายของเกษตรกรแข็งแรงสมบูรณ์ ปราศจากโรคที่เป็นผลมาจากสารเคมีตกค้างในร่างกาย” เกษตรอำเภอศรีมโหสถ กล่าว

นับเป็นอีกหนึ่งแนวทางที่ทางสำนักงานส่งเสริมและพัฒนาการเกษตรที่ 3 จังหวัดระยอง ได้นำนโยบายของกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ในการส่งเสริมให้เกษตรกรผลิตแบบลดต้นทุนมาดำเนินการ และเป็นการปฏิบัติตามแนวทางของอธิบดีกรมส่งเสริมการเกษตร ที่ต้องการให้หน่วยงานในสังกัดส่งเสริมสนับสนุนเกษตรกรผลิตแบบเกษตรอินทรีย์ ที่ตรงกับความต้องการของตลาด ซึ่งนับว่าลงตัวและก่อเกิดประโยชน์แก่เกษตรกรและประเทศชาติโดยภาครวมอย่างเห็นเป็นรูปธรรม

ขอบคุณ... https://www.technologychaoban.com/agricultural-technology/article_18460

ที่มา: เทคโนโลยีชาวบ้านออนไลน์/มูลนิธิพัฒนาคนพิการไทย 9 พ.ค.60
วันที่โพสต์: 9/05/2560 เวลา 11:07:56 ดูภาพสไลด์โชว์ เรียนรู้เกษตรทฤษฎีใหม่แบบอินทรีย์ ของ เกษตรกรดีเด่น ปราจีนบุรี