“ชุดปลูกพืชแนวตั้ง” ตอบโจทย์เกษตรคนเมือง ใช้พื้นที่น้อย ดูแลง่าย ส่งออก 90 %

“ชุดปลูกพืชแนวตั้ง” ตอบโจทย์เกษตรคนเมือง ใช้พื้นที่น้อย ดูแลง่าย ส่งออก 90 %

ขอแสดงความยินดีย้อนหลังกับผู้ประกอบการภายใต้การสนับสนุนของศูนย์บ่มเพาะวิสาหกิจ อุทยานวิทยาศาสตร์ มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ ที่ได้รับรางวัล จากงาน Thailand Synergy เพื่อ SMEs ไทย ประจำปี 2017 ณ ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ เมื่อเดือนมีนาคมที่ผ่านมา

รางวัลสุดยอดนวัตกรรม 7innovation Awards 2017 ด้านเศรษฐกิจ ประเภทนักประดิษฐ์ มีผู้รับรางวัล จำนวน 3 ราย ได้แก่

1. รศ.ดร. นันทกาญจน์ มุรศิต บจก. วอนนาเทค ผลงาน “ผลิตภัณฑ์ สเปรย์พ่นเคลือบรองเท้าผ้าใบสีขาว SmartWhite”

2. คุณพิชัย จงไพรัตน์ บจก. สยามคลาสสิค เวลล์เนส ผลงาน “ผลิตภัณฑ์เสริมอาหารจากเห็ดถังเช่าสีทอง”

3. คุณอับดุลเลาะ เจ๊ะอุบง บจก. เจบีโกล เบเกอรี่ (ประเทศไทย) ผลงาน “ผลิตภัณฑ์โรตีแช่แข็ง” ส่ว นรางวัลสุดยอดนวัตกรรม 7innovation Awards 2017 ด้านสังคม ประเภทนักประดิษฐ์ ตกเป็นของ “คุณมนต์ชัย แซ่ว่อง” บจก. ไทยแอดวานซ์ อะกรีเทค เจ้าของผลิตภัณฑ์ “ชุดปลูกพืชแนวตั้ง”

เสน่ห์ “ชุดปลูกพืชแนวตั้ง” โดนใจผู้ซื้อ

จุดเด่นนวัตกรรม “ผลิตภัณฑ์กระถางปลูกผักไฮโดรโปนิกส์แนวตั้ง” อยู่ที่รูปแบบการเพิ่มผลผลิตการเพาะปลูกในพื้นที่จำกัด ประหยัดพื้นที่ได้มากกว่าการปลูกแนวนอนถึง 3 เท่า ใช้คนทำงานน้อย ผลผลิตมีคุณภาพสูงและดูแลง่ายกว่า มีระบบการปั๊มน้ำขึ้นให้ถึงชั้นบนสุด แล้วปล่อยไหลลงมาในแต่ละชั้น ทำให้เพิ่มปริมาณอากาศในน้ำและการจัดเรียงโมเลกุลของน้ำ ผลิตจากพลาสติก Food Grade ทำให้มั่นใจว่าไม่มีสารพิษจากพลาสติกตกค้างเข้าไปในพืชผัก ปลอดภัยต่อผู้บริโภค และผ่านการจดอนุสิทธิบัตรและจดความคุ้มครองระหว่างประเทศ

ผลิตภัณฑ์ชิ้นนี้ได้เปิดตัวเข้าสู่ตลาดเมื่อ 2-3 ปีที่แล้ว พบว่า ได้รับความนิยมจากผู้ซื้อทั้งในประเทศและตลาดส่งออกได้แก่ มาเลเซีย อินโดนีเซีย ศรีลังกา อินเดีย สิงคโปร์ ญี่ปุ่น ฯลฯ ในปี 2559 สามารถสร้างยอดขายได้มากกว่า 3.3 ล้านบาท โดยยอดขายส่วนใหญ่มาจากตลาดส่งออกถึง 90% ส่วนอีก 10% เป็นยอดขายในประเทศ

ผลิตภัณฑ์กระถางปลูกผักไฮโดรโปนิกส์แนวตั้ง

ปัจจัยบวกที่นวัตกรรมชิ้นนี้โดดใจผู้ซื้อมากที่สุด ก็คือ “ชุดปลูกพืชแนวตั้ง” ช่วยเพิ่มผลผลิตการเพาะปลูกพืชได้ในพื้นที่จำกัด สร้างโอกาสให้ผู้อาศัยในคอนโดมิเนียม หรือตึกสูงในเมือง สามารถปลูกพืชผักรับประทานเองได้ ที่สำคัญยังเป็นผักปลอดสารพิษที่สะอาดและปลอดภัยอีกต่างหาก

จุดกำเนิด “นวัตกรรม”

คุณมนต์ชัย เป็นคนชอบรับประทานผักมากๆ และตั้งใจปลูกผักสำหรับบริโภคในครัวเรือนด้วยตัวเอง เขาลงทุนซื้ออุปกรณ์ปลูกผักไร้ดิน หรือการปลูกผักในระบบไฮโดรโปนิกส์ (hydroponics) บนหลังคาตึก เนื่องจากครอบครัวของเขาทำธุรกิจด้านพลาสติกอยู่แล้ว จึงเกิดความสงสัยว่า อุปกรณ์การปลูกผักไร้ดินทำมาจากพลาสติกทั่วไป ไม่ใช่พลาสติกสำหรับใช้ในอุตสาหกรรมผลิตอาหารและเครื่องดื่ม จะมีปัญหาสารเคมีตกค้างปนเปื้อนผักที่ปลูกไว้หรือไม่

คุณมนต์ชัย แซ่ว่อง เจ้าของนวัตกรรมชุดปลูกพืชแนวตั้ง

เพื่อคลายข้อสงสัยดังกล่าว เขาได้จัดส่งตัวอย่างผักที่ปลูกไปให้ อาจารย์ปฐมพงษ์ วงศ์เลี้ยงนักวิชาการกลุ่มงานสถานีวิจัยและบริการกลาง คณะทรัพยากรธรรมชาติ มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ (มอ.) ช่วยตรวจสอบ ก็ได้ข้อสรุปว่า ผักที่ปลูกมีสารพิษปนเปื้อนอย่างที่เขากลัวจริงๆ สารพิษดังกล่าว มาจากการใช้พลาสติกผิดประเภท เมื่อท่อพลาสติกถูกแสงแดด ทำให้เสื่อมสภาพ ปลดปล่อยสารพิษปะปนกับน้ำและปุ๋ยที่ใช้ในการปลูกผัก เมื่อนำผักไปทำอาหาร ทำให้ผู้บริโภคได้รับสารพิษประเภทกรดอะซีติก และไดออกซิน ซึ่งเป็นสารก่อมะเร็งเข้าสู่ร่างกายตามไปด้วย นอกจากนี้ เอกชนบางรายได้ใช้กระเบื้องลอนคู่แทน ท่อ พีวีซี ในการปลูกผักไร้ดิน ทำให้มีสารประกอบของแร่ใยหินปนเปื้อนเข้าสู่ผักด้วย ซึ่งเป็นเรื่องที่น่ากลัวมากเช่นกัน

จากปัญหาที่พบเจอ ทำให้คุณมนต์ชัยเกิดแรงบันดาลใจที่จะใช้อุปกรณ์ชุดปลูกผักที่ปลอดภัยสำหรับผู้บริโภค โดยศึกษาด้วยตัวเองควบคู่กับพัฒนาระบบร่วมกับมหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ ตั้งแต่ปี พ.ศ. 2555-2557 จนได้ชุดปลูกพืชแนวตั้งที่ผลิตจากเม็ดพลาสติก Food Grade ผสมสารยูวี มีฉนวนกันความร้อน ช่วยลดอุณหภูมิน้ำ รวมทั้งผสมสารกันแสง ทำให้ไม่มีตะไคร่จับภายในท่อ ลดการหมักหมมที่ทำให้เกิดเชื้อโรค เนื้อพลาสติก Food Grade ไม่ทำปฏิกิริยากับน้ำปุ๋ยและสามารถใช้งานได้ประมาณ 4-5 ปี หรือมากกว่านั้นขึ้นอยู่กับลักษณะการใช้งานและการดูแลรักษา ชุดปลูกผักไร้ดินแนวตั้ง แบ่งเป็นชั้นๆ มีตั้งแต่ 4-7 ชั้น แต่ละชั้นมีช่องปลูก 4-5 ช่อง มีเสาแกนพลาสติกอยู่ตรงกลาง ภายในเป็นท่อสแตนเลส ทำหน้าที่ปั๊มน้ำผสมปุ๋ยจากถังเก็บส่วนล่างขึ้นบน โดยวางระบบให้น้ำจากถังเก็บด้านล่างสูบขึ้นมาด้วย ปั๊มขึ้นไปตามท่อด้านบน ปล่อยน้ำให้ไหลลงมาสู่ถาดปลูกด้านบนสุดก่อน จึงค่อยไหลลงมาสู่ถาดปลูกด้านล่างตามลำดับ สุดท้ายน้ำจะถูกดูดไหลไปรวมกันที่ถังเก็บเช่นเดิม ทำให้อุณหภูมิน้ำเย็นกว่าน้ำที่อยู่ในแนวราบ ช่วยให้พืชได้รับน้ำและธาตุอาหารอย่างเหมาะสม แล้วยังเพิ่มปริมาณออกซิเจนในน้ำมากขึ้นด้วย ทำให้ระบบรากพืชแข็งแรง ไม่มีปัญหาโรครากเน่า

ชุดปลูกแนวตั้ง การปลูกผักแนวตั้ง พืชสามารถจะดูดซึมสารอาหารจากน้ำปุ๋ยได้เต็มที่และเติบโตได้รวดเร็ว เฉลี่ย 15-20 วัน ต่อ 1 รอบการปลูก ขณะที่การปลูกผักไร้ดินแนวราบ โดยทั่วไปจะใช้ปลูกดูแลเฉลี่ย 40-45 วัน ต่อ 1 รอบการปลูก

ชุดปลูกพืชแนวตั้งที่ได้รับรางวัลสุดยอดนวัตกรรม 7innovation Awards 2017

คุณมนต์ชัย ได้นำผักที่ปลูกในชุดปลูกพืชแนวตั้งของเขาไปให้อาจารย์ปฐมพงษ์ตรวจสอบอีกครั้ง ก็ไม่พบสารพิษปนเปื้อน ผลงานชิ้นนี้ได้รับรางวัล STI AWARDS 2015 ระดับภาคใต้ คุณมนต์ชัย ตัดสินใจผลิตชุดปลูกพืชแนวตั้งออกจำหน่ายใน 2 รูปแบบ ได้แก่

1. แบบ I-stack มีช่องปลูก 4 ช่อง เหมาะกับปลูกพืชอายุสั้น

2. แบบ star-stack มีช่องปลูก 5 ช่อง เหมาะกับปลูกพืชอายุยาว ราคาจำหน่ายโดยเฉลี่ย ประมาณ 3,000-4,300 บาท

สามารถปลูกได้ทั้งไม้ดอกไม้ประดับ สตรอเบอรี่ ผักสลัด ผักสวนครัว ประเภทผักบุ้งจีน ผักกาดหอม ผักคะน้า ผักกวางตุ้ง กะเพรา เป็นต้น

นวัตกรรมนี้ใช้ปลูกสตรอเบอรี่ได้ผลผลิตงาม

ภายหลังเปิดทดลองขาย ปรากฏว่า ผลงานชิ้นนี้ขายดิบขายดี เป็นที่สนใจของผู้ซื้อทั้งในประเทศและต่างประเทศ เพราะนวัตกรรมชิ้นนี้สามารถตอบโจทย์วิถีชีวิตคนเมืองรุ่นใหม่ ซึ่งพักอาศัยในตึกสูง คอนโดมิเนียม ที่มีข้อจำกัดในเรื่องพื้นที่การใช้สอย เนื่องจากชุดปลูกแนวตั้งใช้พื้นที่น้อย แต่สามารถปลูกผักได้มากกว่าการปลูกแนวนอน

ปลูกผักหรือไม้ดอกไม้ประดับก็ให้ผลผลิตที่ดี และมีความสวยงาม

ชุดปลูกพืชแนวตั้ง ช่วยประหยัดพื้นที่ที่ใช้ในการปลูกพืชหรือผัก สามารถปลูกได้ในพื้นที่ที่จำกัด ไม่ว่าจะเป็นบริเวณระเบียงห้อง หรือบริเวณหน้าบ้าน สามารถปลูกผักได้หลายชนิด ถ้าปลูกผักแนวตั้งในระดับอุตสาหกรรมก็จะได้ผลผลิตที่มากกว่าการปลูกแบบทั่วไป ชุดปลูกพืชแนวตั้งชนิดนี้สามารถประกอบได้ด้วยตัวเอง เก็บง่าย ดูแลง่าย สามารถปลูกได้หลายระบบ โดยใช้น้ำและใช้ดิน สามารถปลูกได้ทั้งดอกไม้ ผักสลัด หรือผักสวนครัว ผักที่ได้มีความสะอาดและปลอดภัย เพราะปลูกด้วยตัวเอง การร่วมกันปลูกผักภายในครอบครัวสามารถเสริมสร้างความสัมพันธ์ได้ดียิ่งขึ้น ชุดปลูกพืชแนวตั้งของคุณมนต์ชัย นับเป็น “นวัตกรรมเพื่อธุรกิจ” เหมาะสำหรับปลูกผักเชิงการค้า ในลักษณะฟาร์มขนาดใหญ่ด้วย โดยทั่วไปการปลูกผักไร้ดิน ที่ใช้อุปกรณ์เพาะปลูกแนวนอน มักมีต้นทุนเฉลี่ย ไร่ละ 3-4 ล้านบาท แต่การปลูกโดยใช้อุปกรณ์ชุดปลูกพืชแนวตั้ง รวมกับระบบโรงเรือน EVAP (Evaporative Cooling Greenhouse) จะมีต้นทุนค่าใช้จ่ายสูงกว่าประมาณ 50% แต่ให้ผลตอบแทนการลงทุนที่คุ้มค่า เพราะได้ผลผลิตในปริมาณมาก ที่สำคัญสามารถคืนทุนได้ในระยะเวลาสั้นๆ เพียงแค่ปีเศษเท่านั้น

ปลูกผักหรือไม้ดอกไม้ประดับก็ให้ผลผลิตที่ดี และมีความสวยงาม

เปิดศูนย์เรียนรู้การปลูกผักไร้ดิน ที่หาดใหญ่

ปัจจุบัน คุณมนต์ชัย ได้ทำฟาร์มปลูกพืชไร้ดินในแนวตั้งไฮโดรโปนิกส์ ชื่อว่า “Urban Vertical Hydroponics Farming” เนื้อที่ 1 ไร่ ตั้งอยู่เลขที่ 228/1 หมู่ที่ 8 ตำบลบ้านพรุ อำเภอหาดใหญ่ จังหวัดสงขลา ฟาร์มแห่งนี้ได้นำอุปกรณ์การปลูกพืชแนวตั้ง มาปลูกพืชอายุสั้น เช่น ผักกาดหอม ผักสลัด ผักกาดขาว ผักฮ่องเต้ ฯลฯ และปลูกพืชอายุยาว อายุ 1 ปี เช่น มะเขือเทศเชอร์รี่ ฯลฯ โดยไม่ใช้ยาฆ่าแมลง แต่อาศัยสารชีวภาพช่วยดูแลกำจัดแมลงแทน ในอนาคตเตรียมพัฒนาพื้นที่แห่งนี้เป็นศูนย์เรียนรู้เรื่องการปลูกพืชไร้ดินให้กับเยาวชนและประชาชน เพื่อเป็นอาชีพเสริมรายได้ให้กับผู้สนใจทั่วไป

ผู้สนใจสามารถสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับนวัตกรรมชิ้นนี้ได้ที่ บริษัท ไทย แอดวานซ์ อะกรี เทค จำกัด เลขที่ 84/56-57 หมู่ที่ 7 ตำบลคอหงส์ อำเภอหาดใหญ่ จังหวัดสงขลา เบอร์โทร. (089) 492-2470, (085) 585-3331 เฟซบุ๊ก verticalhydroponic หรือ Line ID : thaiadvanceagritech ตั้งแต่ เวลา 08.00-17.00 น. ได้ทุกวัน

ขอบคุณ... https://www.sentangsedtee.com/farming-trendy/article_31310

ที่มา: เส้นทางเศรษฐีออนไลน์/มูลนิธิพัฒนาคนพิการไทย 26 เม.ย. 60
วันที่โพสต์: 26/04/2560 เวลา 09:54:59 ดูภาพสไลด์โชว์ “ชุดปลูกพืชแนวตั้ง” ตอบโจทย์เกษตรคนเมือง ใช้พื้นที่น้อย ดูแลง่าย ส่งออก 90 %