องค์การตลาด เร่งปรับตัว 360 องศา พัฒนา ‘บางคล้า’ เป็นศูนย์กระจายภาคตะวันออก

องค์การตลาด เร่งปรับตัว 360 องศา พัฒนา ‘บางคล้า’ เป็นศูนย์กระจายภาคตะวันออก

องค์การตลาด กระทรวงมหาดไทย ปรับตัว 360 องศา ลุยพัฒนา 5 ตลาดในสังกัด ทุ่ม 40 กว่าล้าน ปั้นตลาดบางคล้าเป็นศูนย์กระจายสินค้าเกษตรปลอดภัยของภาคตะวันออก ดันตลาดอุโมง เมืองลำพูน เป็นตลาดสีเขียว ช่วยเกษตรกรขายสินค้าออร์แกนิกในราคาสูงขึ้น พร้อมเจรจาโมเดิร์นเทรดขายสินค้าโอท็อปและสินค้าเกษตรที่ล้นตลาด เตรียมตั้งเว็บไซต์เป็นตัวกลางให้ผู้ซื้อผู้ขายมาพบกัน

นายภาณุพล รัตนกาญจนภัทร ผู้อำนวยการองค์การตลาด (อต.) กระทรวงมหาดไทย เปิดเผย “ประชาชาติธุรกิจ” ถึงการเข้ามาบริหารองค์การตลาดว่า นอกเหนือจากองค์การตลาดจะเป็นผู้ป้อนอาหารที่ปลอดภัยทั้งประเภทเนื้อหมู เนื้อไก่ ผัก ให้กับเรือนจำ 70 กว่าแห่งทั่วประเทศที่มีผู้ต้องขัง 3-4 แสนคน จากทั้งหมด 134 แห่ง ของกรมราชทัณฑ์ การจัดส่งอาหารให้โรงพยาบาลทหารและค่ายทหาร การจัดหาถุงยังชีพเพื่อช่วยเหลือผู้ประสบภัยน้ำท่วมให้กับกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) แล้ว อต. มีแผนจะเข้าไปพัฒนาตลาดในสังกัด 5 แห่ง ให้ผู้บริโภคเกิดความมั่นใจในความปลอดภัยและถูกสุขลักษณะมากขึ้น

ประกอบด้วย 1. ตลาดปากคลองตลาด กรุงเทพมหานคร 2. ตลาดตลิ่งชันในซอยสวนผัก 3. ตลาดตำบลอุโมง จังหวัดลำพูน 4. ตลาดอำเภอหนองม่วง จังหวัดลพบุรี และ 5. ตลาดบางคล้า จังหวัดฉะเชิงเทรา โดยเฉพาะตลาดอุโมงจะใช้งบประมาณ 14-15 ล้านบาท พัฒนาเป็นตลาด “กรีน มาร์เก็ต” เป็นจุดที่ผู้ซื้อ-ผู้ขายมาตกลงเรื่องการซื้อผัก ผลไม้ ปลอดสารพิษ ผัก ผลไม้ ที่ปลูกแบบเกษตรอินทรีย์หรือออร์แกนิก ผัก ผลไม้ แปรรูป โดยจะดึงโรงแรมในเขตจังหวัดเชียงใหม่ และใกล้เคียง ตลอดจนนักท่องเที่ยวมาซื้อสินค้าที่ตลาดแห่งนี้ ทั้งนี้ อต. จะสร้างโรงตัดแต่ง ห้องเย็น กำลังการผลิตไม่เกินวันละ 5 ตัน รองรับสินค้า พร้อมกับจะดึงสินค้าโครงการหลวงมาซื้อขายที่นี่ด้วย สาเหตุการพัฒนาตลาดแห่งนี้ เนื่องจากเกษตรกรร้องเรียนมาว่า ปลูกผักอินทรีย์แต่ขายได้ในราคาเท่าผักที่ใช้สารเคมี ทาง อต. และกระทรวงมหาดไทยจึงต้องการแก้ไขปัญหานี้ รวมทั้งสนองนโยบายภาครัฐที่จะปั้นเชียงใหม่และจังหวัดใกล้เคียงให้เป็นเมืองเกษตรสีเขียวด้วย

ตลาดตลิ่งชันที่ติดกับคลองมหาสวัสดิ์ที่มีประวัติศาสตร์มาตั้งแต่สมัยรัชกาลที่ 5 จะพัฒนาเป็นตลาดน้ำเชิงท่องเที่ยว โดยจะร่วมกับจังหวัดนนทบุรีกับกรุงเทพมหานคร (กทม.) มาร่วมพัฒนา ซึ่งแบบแปลนตลาดนี้ยังไม่เสร็จ ส่วนตลาดบางคล้าจะพัฒนาเป็นศูนย์กระจายสินค้าเกษตรปลอดภัยของจังหวัดฉะเชิงเทราและของภาคตะวันออก ได้รับงบประมาณจากทางจังหวัดมาแล้วประมาณ 40 ล้านบาทเศษ

นอกจากนี้ จะนำสินค้าโอท็อปเข้าโมเดิร์นเทรดเพื่อช่วยเหลือชุมชน รวมทั้งช่วยเหลือระบายสินค้าเกษตรโดยเฉพาะผลไม้เข้าช่องทางจำหน่ายต่างๆ เช่น ลองกองที่มีปัญหา นอกจากจะมีโครงการประชารัฐช่วยเป็นหลักแล้ว อต. ยังช่วยเชื่อมช่องทางจำหน่ายทั้งโมเดิร์นเทรดและเรือนจำ ทำให้ระบายช่วยได้กว่า 100 ตัน การประสานกับกรมการปกครองเพื่อวางแผนระบายลำไย หัวหอมแดง หอมหัวใหญ่ที่จะล้นตลาดผ่านทางผู้ว่าราชการจังหวัดของแหล่งผลิตของสินค้า หากสินค้าเกรดบีขึ้นไปก็เข้าโมเดิร์นเทรด หากต่ำกว่าเกรดบีก็เข้าครัวร้อนของโมเดิร์นเทรด และ อต. กำลังเจรจาร่วมมือกับกรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่น ที่มีตลาด 700 แห่ง ทั่วประเทศเพื่อช่วยเหลือเกษตรกรชุมชนต่างๆ นำสินค้าไปขาย

“ตอนนี้เรากำลังเจรจากับโมเดิร์นเทรดเทสโก้ โลตัส นำสินค้าโอท็อป 19 รายการ ประเภทสแน็กของขบเคี้ยววางจำหน่าย ซึ่งกำลังช่วยชุมชนเจรจาเรื่องค่าเก็บสินค้าในศูนย์กระจายสินค้า ค่าสินค้าแรกเข้า เครดิตเทอม คาดว่าภายใน 2 สัปดาห์ข้างหน้าจะเห็นเป็นรูปธรรม รวมทั้งการร่วมมือกับ บริษัท ไปรษณีย์ดิสทริบิวชั่น จำกัด บริษัทลูกของ บริษัท ไปรษณีย์ไทย จำกัด จัดส่งสินค้าให้ผู้ซื้อทั่วประเทศอีกด้วย”

นายภาณุพล กล่าวต่อว่า อต. กำลังจัดทำเว็บกลาง ชื่อ “SEP Market” ให้ผู้ซื้อพอเพียง ผู้ขายพอเพียงมาพบกัน โดยปีแรกตั้งเป้าหมายเป็นการเชื่อมโยงบอกข่าว ปีที่สองจะเริ่มทำเป็นเว็บอีคอมเมิร์ซซื้อขายสินค้ากัน ซึ่งภารกิจที่กำลังจะดำเนินการเพิ่มเติมนี้ ถือเป็นการปรับตัว 360 องศา ของ อต. ก็ว่าได้

ขอบคุณข้อมูลจากประชาชาติธุรกิจ

ขอบคุณ... https://www.technologychaoban.com/bullet-news-today/article_14288

ที่มา: เทคโนโลยีชาวบ้านออนไลน์/มูลนิธิพัฒนาคนพิการไทย 14 มี.ค.60
วันที่โพสต์: 14/03/2560 เวลา 09:07:56 ดูภาพสไลด์โชว์ องค์การตลาด เร่งปรับตัว 360 องศา พัฒนา ‘บางคล้า’ เป็นศูนย์กระจายภาคตะวันออก