เกษตรกร โครงการหลวงปางดะวันนี้ ใช้ระบบสหกรณ์บริหารจัดการกิจการ

สถานีเกษตรหลวงปางดะ ตำบล สะเมิงใต้ อำเภอสะเมิง จังหวัดเชียงใหม่ เป็นสถานีวิจัยหนึ่งในสี่ของมูลนิธิโครงการหลวง เป็นศูนย์การเรียนรู้การขยายพันธุ์ไม้ผลให้ กับผู้ที่สนใจตลอดจนเป็นแหล่งศึกษาดูงาน และฝึกงานของนักศึกษา พร้อมกับการใช้พื้นที่อย่างถูกต้องบนพื้นฐานการอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติ

สถานีเกษตรหลวงปางดะ ตำบล สะเมิงใต้ อำเภอสะเมิง จังหวัดเชียงใหม่ เป็นสถานีวิจัยหนึ่งในสี่ของมูลนิธิโครงการหลวง เป็นศูนย์การเรียนรู้การขยายพันธุ์ไม้ผลให้ กับผู้ที่สนใจตลอดจนเป็นแหล่งศึกษาดูงาน และฝึกงานของนักศึกษา พร้อมกับการใช้พื้นที่อย่างถูกต้องบนพื้นฐานการอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติ โดยมีเป้าหมายสำคัญในการเป็นแหล่งการขยายพันธุ์พืช เพื่อการนำไปปลูกของเกษตรกรในพื้นที่

เมื่อวันที่ 12 กุมภาพันธ์ 2530 ที่ผ่านมา พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช เสด็จพระราชดำเนินพร้อมด้วยสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ทอดพระเนตรกิจการของศูนย์ขยายพันธุ์พืชปางดะโครงการหลวงแห่งนี้เป็นครั้งแรก และจากวันนั้นเป็นต้นมาจวบจนทุกวันนี้ โครงการฯ ได้ดำเนินกิจการแบบก้าวรุดหน้ายังผลให้เกษตรกรในโครง การฯ และที่เกี่ยวข้องกับโครงการฯ มีช่องทางในการทำกินอย่างมั่นคง

ซึ่งภายในโครงการปัจจุบันนอกจากจะทำการศึกษาวิจัยเกี่ยวกับพืชที่เหมาะสมต่อการปลูกในพื้นที่สูงแล้ว ก็ยังมีการขยายผลพันธ์ุพืชที่ผ่านการศึกษาทดลองแล้วขยายสู่เกษตรกร โดยทางโครงการฯ จะทำการผลิตต้นกล้าพืชภายใต้การดำเนินการของเกษตรกรในพื้นที่ที่มีการรวมกลุ่มกันแล้วจัดตั้งเป็นสหกรณ์ขึ้นมาทำการบริหารจัด การกิจการ

นางวรรณี รัตนวราหะ อดีตรองอธิบดีและรักษาการอธิบดีกรมส่งเสริมสหกรณ์ ปัจจุบัน ดำรงตำแหน่งที่ปรึกษากรมส่งเสริมสหกรณ์ด้านการส่งเสริมและพัฒนาสหกรณ์ในพื้นที่โครงการ หลวง เปิดเผยว่า เมื่อปี 2535-36 ได้มีการหารือกับทางกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ซึ่งผลการหารือได้กำหนดให้กรมส่งเสริมสหกรณ์เข้าไปพิจารณาในเรื่องของการจัดตั้งสหกรณ์ในโครงการ หลวง เพื่อการดำเนินงานของเกษตรกรสามารถช่วยตัวเองได้ ซึ่งจะต้องให้เกษตรกรเข้าใจและรู้จักวิธีการสหกรณ์ คือร่วมกันทำการผลิต รวมกันขาย แล้วแบ่งปันผลประโยชน์ร่วมกัน ภายใต้แนวทางช่วยตัวเองและช่วยเหลือซึ่งกันและกัน ตามหลักการและอุดมการณ์ของสหกรณ์

“เมื่อตั้งเป็นสหกรณ์แล้ว สมาชิกก็ได้เรียนรู้ว่าสหกรณ์จะต้องทำอะไรบ้าง ทางสมาชิก สหกรณ์ที่เป็นชาวเขาเขาจะต้องรับผิดชอบอะไรในการเป็นสมาชิกสหกรณ์บ้าง และสหกรณ์จะดูแลให้การช่วยเหลือสมาชิกอย่างไรบ้าง จากการดำเนินงานที่ผ่านมาของสหกรณ์แห่งนี้ พบว่ามีความคืบหน้าเป็นลำดับ มีการนำปัจจัยการผลิตมาสนับสนุนเกษตรกรสมาชิก ซึ่งเป็นการช่วยให้สมาชิกสามารถลดต้นทุนในการทำการเพาะปลูกได้ และมีการจัดระบบการรวบรวมผลผลิตมาไว้ที่สหกรณ์แล้วก็เอาลงไปจำหน่ายโดยสหกรณ์เอง ตอนนี้สหกรณ์แห่งนี้ค่อนข้างเป็นปึกแผ่นพอสมควร” นางวรรณี กล่าว

ทางด้าน นายพันธ์ สิมะวงศ์ ประธานสหกรณ์การเกษตรโครงการหลวงปางดะ อำเภอสะเมิง จังหวัดเชียงใหม่ เปิดเผยถึงการดำเนินงานของสหกรณ์ ว่า สหกรณ์ได้จดทะเบียนเมื่อวันที่ 12 มิถุนายน 2552 ที่ผ่านมา โดยไม่ได้จัดจ้างพนักงานเป็นของตนเอง การปฏิบัติงานด้านการเงินและการบัญชีรวมถึงด้านอื่น ๆ นั้นทางสหกรณ์ได้รับการสนับสนุนงบประมาณจากสํานักงานสหกรณ์จังหวัดเชียงใหม่ เพื่อจัดหาพนักงานมาทำหน้าที่ 1 ตําแหน่ง มีหน้าที่จําหน่าย สินค้า จัดทําบัญชีเก็บรักษาเงินสด ฯลฯ และในระหว่างปีดําเนินธุรกิจมีการจัดหาสินค้ามาจําหน่าย และจัดทำธุรกิจสินเชื่อให้กับสมาชิกฯ การดำเนินงานที่ผ่านมาของสหกรณ์มีผลการดําเนินงาน กําไรสุทธิอย่างต่อเนื่องทุกปี

ในการดำเนินกิจกรรมนั้นทางสห กรณ์จะเอื้ออำนวยให้กับสมาชิกในการทำการเพาะปลูกแบบครบวงจร โดยสหกรณ์จะให้สมาชิกส่วนหนึ่งมาทำการผลิตต้นกล้าพันธ์ุพืชที่เหมาะสมกับการปลูกในพื้นที่สูงอย่างถูกหลักวิชาการ จากนั้นจะมอบให้กับสมาชิกนำไปเพาะปลูก ควบคู่กับการสนับสนุนปัจจัยการผลิตอื่น ๆ เช่น วัสดุการบำรุงต้นพืช โดยที่เกษตรกรสมาชิกยังไม่ต้องจ่ายเงินให้กับสหกรณ์ เมื่อเกษตรกรสมาชิกเพาะปลูกพืชจนเก็บเกี่ยวผลผลิตแล้วก็นำผลผลิตมาส่งให้กับโครงการหลวง ทางโครงการหลวงก็จะจ่ายเงินให้กับสหกรณ์ สหกรณ์ก็จ่ายให้เกษตรกรสมาชิกโดยหักค่าพันธุ์พืชและปัจจัยการผลิตอื่น ๆ

“เกษตรกรสมาชิกสหกรณ์ที่นำพันธุ์พืชไปปลูกแทบจะไม่ต้องลงทุนอะไรมากนักนอกจากแรงงาน ขณะที่พันธุ์พืชก็ได้พันธุ์ที่ดีมีคุณภาพและตรงตามความต้องการของตลาด และผลผลิตที่ได้ก็มีผู้รับซื้อที่แน่นอน และที่สำคัญได้ราคาที่สูงกว่าเกษตรกรราย

ขอบคุณ... http://www.dailynews.co.th/agriculture/533953 (ขนาดไฟล์: 167)

ที่มา: เดลินิวส์ออนไลน์/มูลนิธิพัฒนาคนพิการไทย 4 พ.ย.59
วันที่โพสต์: 4/11/2559 เวลา 09:46:49