รู้หรือไม่!!!อาชีพไหน??? มีกิจกรรมทางกายมากที่สุด
จากการสำรวจสถานการณ์การมีกิจกรรมทางกายของประเทศไทย พ.ศ.2555 โดยสถาบันวิจัยประชากรและสังคม มหาวิทยาลัยมหิดล และสำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) พบว่าภายใน 24 ชั่วโมง คนไทยมีพฤติกรรมเฉื่อยถึง 13.4 ชั่วโมง คิดเป็น 55% นอนหลับ 8.2 ชั่วโมง คิดเป็น 35% และมีกิจกรรมทางกายที่เพียงพอแค่ 2 ชั่วโมง คิดเป็น 10% ขณะที่ควรมีกิจกรรมทางกายอยู่ที่ 6 ชั่วโมง/วัน
โดย กิจกรรมทางกายระดับปานกลางในการทำงาน จากการสำรวจพบว่า อาชีพเกษตรกรรม ปศุสัตว์ มีกิจกรรมทางกายมากที่สุดคือ 83.6% รองลงมาอาชีพธุรกิจ กิจการส่วนตัว 78.4% ลำดับต่อมาคือ อาชีพรับจ้างทั่วไป 75.8% ถัดมาคือ อาชีพพนักงานบริษัทโรงงาน 70.0% และข้าราชการ 69.2% ส่วนนักเรียนมีกิจกรรมทางกายในการทำงานน้อยที่สุดคือ 35.4%
ด้าน กิจกรรมทางกายระดับปานกลางในยามว่าง พบว่า อาชีพนักเรียนมีกิจกรรมทางกายในยามว่างมากที่สุดคือ 77.2% รองลงมาคือ ข้าราชการ 62.0% ส่วนพนักงานบริษัทโรงงานมีกิจกรรมทางกายที่ 43.3% รับจ้างทั่วไปอยู่ที่ 34.5% และกิจการส่วนตัวที่ 33.8% โดยอาชีพเกษตรกรรม ปศุสัตว์ มีกิจกรรมทางกายน้อยที่สุดคือ 28.7%
ส่วน กิจกรรมทางกายระดับปานกลางในการเดินทาง พบว่า แต่ละอาชีพมีกิจกรรมทางกายไล่เลี่ยกันคือ อาชีพนักเรียนมีกิจกรรมทางกายในการเดินทางมากที่สุดคือ 49.6% รองลงมาคือเกษตรกรรม ปศุสัตว์ 47.3% อาชีพรับจ้างทั่วไป 42.9% กิจการส่วนตัว 41.5% ส่วนข้าราชการ 35.7 และพนักงานบริษัทโรงงานมีกิจกรรมทางกายในการเดินทางน้อยที่สุดคือ 35.4%
จากสถานการณ์ดังกล่าว ทาง สสส.จึงวางยุทธศาสตร์เพื่อตอบโจทย์ในการส่งเสริมกิจกรรมทางกายที่ เหมาะสม อาทิ สำรวจเส้นทางและขยายเครือข่ายที่เอื้อต่อการเดิน/ปั่นจักรยานในชีวิต ประจำวัน โดยตั้งเป้าปี 2557 เพิ่มสัดส่วนผู้มีกิจกรรมทางกายที่เพียงพอเพิ่มขึ้นอีก 10% เพื่อส่งเสริมรูปแบบกิจกรรมทางกายที่เหมาะสมกับกลุ่มวัย และเพิ่มพื้นที่สุขภาวะร่วมกับท้องถิ่นเพื่อเอื้อให้คนไทยมีสุขภาพที่ แข็งแรงต่อไป
แสดงความคิดเห็น
รายละเอียดกระทู้
จากการสำรวจสถานการณ์การมีกิจกรรมทางกายของประเทศไทย พ.ศ.2555 โดยสถาบันวิจัยประชากรและสังคม มหาวิทยาลัยมหิดล และสำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) พบว่าภายใน 24 ชั่วโมง คนไทยมีพฤติกรรมเฉื่อยถึง 13.4 ชั่วโมง คิดเป็น 55% นอนหลับ 8.2 ชั่วโมง คิดเป็น 35% และมีกิจกรรมทางกายที่เพียงพอแค่ 2 ชั่วโมง คิดเป็น 10% ขณะที่ควรมีกิจกรรมทางกายอยู่ที่ 6 ชั่วโมง/วัน โดย กิจกรรมทางกายระดับปานกลางในการทำงาน จากการสำรวจพบว่า อาชีพเกษตรกรรม ปศุสัตว์ มีกิจกรรมทางกายมากที่สุดคือ 83.6% รองลงมาอาชีพธุรกิจ กิจการส่วนตัว 78.4% ลำดับต่อมาคือ อาชีพรับจ้างทั่วไป 75.8% ถัดมาคือ อาชีพพนักงานบริษัทโรงงาน 70.0% และข้าราชการ 69.2% ส่วนนักเรียนมีกิจกรรมทางกายในการทำงานน้อยที่สุดคือ 35.4% ด้าน กิจกรรมทางกายระดับปานกลางในยามว่าง พบว่า อาชีพนักเรียนมีกิจกรรมทางกายในยามว่างมากที่สุดคือ 77.2% รองลงมาคือ ข้าราชการ 62.0% ส่วนพนักงานบริษัทโรงงานมีกิจกรรมทางกายที่ 43.3% รับจ้างทั่วไปอยู่ที่ 34.5% และกิจการส่วนตัวที่ 33.8% โดยอาชีพเกษตรกรรม ปศุสัตว์ มีกิจกรรมทางกายน้อยที่สุดคือ 28.7% ส่วน กิจกรรมทางกายระดับปานกลางในการเดินทาง พบว่า แต่ละอาชีพมีกิจกรรมทางกายไล่เลี่ยกันคือ อาชีพนักเรียนมีกิจกรรมทางกายในการเดินทางมากที่สุดคือ 49.6% รองลงมาคือเกษตรกรรม ปศุสัตว์ 47.3% อาชีพรับจ้างทั่วไป 42.9% กิจการส่วนตัว 41.5% ส่วนข้าราชการ 35.7 และพนักงานบริษัทโรงงานมีกิจกรรมทางกายในการเดินทางน้อยที่สุดคือ 35.4% จากสถานการณ์ดังกล่าว ทาง สสส.จึงวางยุทธศาสตร์เพื่อตอบโจทย์ในการส่งเสริมกิจกรรมทางกายที่ เหมาะสม อาทิ สำรวจเส้นทางและขยายเครือข่ายที่เอื้อต่อการเดิน/ปั่นจักรยานในชีวิต ประจำวัน โดยตั้งเป้าปี 2557 เพิ่มสัดส่วนผู้มีกิจกรรมทางกายที่เพียงพอเพิ่มขึ้นอีก 10% เพื่อส่งเสริมรูปแบบกิจกรรมทางกายที่เหมาะสมกับกลุ่มวัย และเพิ่มพื้นที่สุขภาวะร่วมกับท้องถิ่นเพื่อเอื้อให้คนไทยมีสุขภาพที่ แข็งแรงต่อไป ขอบคุณ http://www.google.co.th/webhp?hl=th&gl=th&tbm=nws#q=อาชีพ&hl=th&gl=th&tbm=nws&ei=hEnGUfPSMsvNrQfj6IDQDQ&start=0&sa=N&bav=on.2,or.r_qf.&fp=b3a893
จัดฟอร์แม็ตข้อความและมัลติมีเดีย
รายละเอียดการใส่ ลิงค์ รูปภาพ วิดีโอ เพลง (Soundcloud)