'ต้นไม้แคระ' ธุรกิจดาวรุ่ง ตอบไลฟ์สไตล์แต่งสวนคนเมือง

แสดงความคิดเห็น

ทับทิมแคระ

ต้นไม้แคระ เป็นไม้ประดับที่ได้รับความนิยมอย่างมากในช่วงที่ผ่านมา เพราะด้วยลักษณะของต้นไม้ ที่ลำต้นไม่ใหญ่ ไม่ต้องใช้พื้นที่มาก เหมาะกับ ที่อยู่อาศัยในยุคปัจจุบัน ซึ่งมีพื้นที่น้อย

ที่ผ่านมา ต้นไม้แคระที่ทุกคนรู้จักกันดี ก็จะมีอยู่ในกลุ่มของบอนไซ ซึ่งได้รับอิทธิพลมาจากประเทศญี่ปุ่น แต่ปัจจุบันการพัฒนาไม้แคระไม่ได้มีอยู่เฉพาะในกลุ่มของบอนไซเท่านั้น แต่ไม้ผล ไม้ดอก บ้านเรา ชาวสวนก็สามารถที่จะพัฒนา เป็นไม้แคระ หรือไม้กระถางออกมาจำหน่ายรองรับความต้องการของคนเมือง ซึ่งไม่มีพื้นที่ปลูกต้นไม้ใหญ่ได้เช่นกัน

ฝรั่งแคระ

สำหรับ “พิรุณพร เอมชาวนา” เธอเป็นหนึ่งในผู้ปลูกต้นไม้แคระจำหน่าย โดยยึดช่องทางการขายผ่านทางเว็บไซต์ “เกษตรพอเพียงดอทคอม” ซึ่ง ด้วยระยะเวลาที่เริ่มต้นทำอาชีพตรงนี้ได้ไม่นาน บวกกับเป็นอาชีพเสริม จากงานประจำ รายได้ก็ยังถือว่าไม่ดีนัก แต่เธอก็พอใจ เพราะทำด้วยใจรักในการปลูกต้นไม้ และได้แบ่งปันและแลกเปลี่ยนประสบการณ์กับคนที่ชื่นชอบไม้แคระเช่นเดียวกับ เธอ

พิรุณพร เล่าว่า เริ่มจากความชอบต้นไม้ที่สามารถปลูกในกระถางเล็กๆ และสามารถออกดอกและผลได้เหมือนต้นใหญ่ทั่วไป เนื่องจากบ้านที่พักอาศัยมีพื้นที่น้อย และไม่มีพื้นดินสำหรับลงปลูกต้นไม้ จึงชอบลักษณะของไม้แคระเป็นพิเศษ

กุหลาบจิ๋ว

โดยไม้แคระที่ได้ส่วนใหญ่ซื้อพันธุ์มาจากตลาดนัดธนบุรี หรือ สนามหลวง 2 และบางส่วนก็รับมาจากสวนอีกทอดหนึ่งและนำมาปลูกไว้จนออกลูกออกผล เนื่องจากซื้อต่อมาบางครั้งราคาสูง ทำกำไรไม่ได้ ระยะหลัง จึงเริ่มเพาะปลูกเองบ้างบางส่วน อย่างไรก็ตาม เนื่องจากไม้แคระส่วนใหญ่มีการเจริญเติบโตที่ค่อนข้างช้า บางอย่างต้องเพาะเมล็ดวิธีเดียวเท่านั้น จึงต้องใช้พื้นที่พอสมควรในการฟูมฟักให้ต้นไม้โตจนสามารถจำหน่ายได้ ซึ่งเราเองไม่มีพื้นที่มากพอ บางส่วนจึงยังต้องรับจากสวนคนอื่นๆ

สะระแหน่

สำหรับประเภทของต้นไม้ของทางร้าน ประกอบไปด้วย ไม้ผลกินได้ เช่น ชมพู่จิ๋วออสเตรเลีย หรือ Beach Cherry / Bay Cherry, ฝรั่งแคระ, ทับทิมแคระ, เชอรี่แคระ ฯลฯ ประเภทไม้ดอก เช่น กุหลาบจิ๋ว แก้วแคระดอกหอม แก้วแคระใบประยงค์ ดอกไม้จีนแคระ พุดซ้อนแคระ เข็มแคระ ฯลฯ และประเภทไม้ประดับ เช่นหูกระจงแคระ แก้วแคระอินโด โมกแคระ โมกเงินแคระ หางกระรอกแดงเลื้อยแคระ ลิ้นมังกรแคระฯลฯ

“พิรุณพร เอมชาวนา” เจ้าของสวน

พิรุณพร เล่าถึง ราคา ต้นไม้แคระ ว่า จริงๆ แล้ว ราคาไม้แคระไม่ได้ต่างจากไม้ทั่วไปมากนัก เช่นกลุ่มไม้ผล อาทิ ทับทิมแคระ จำหน่ายในราคาต้นละ 80 บาท ขนาดกระถางปลูก 6 นิ้ว ให้ดอกและผลแล้ว ในขณะที่ทับทิมทั่วไปมีจำหน่ายตั้งแต่ราคา 80 บาท ขึ้นไป ขึ้นอยู่กับสายพันธุ์และขนาด สำหรับต้นที่มีราคาแพงที่สุดในขณะนี้ คือ หูกระจงแคระ จำหน่ายในราคาต้นละ 220 บาท ในกระถางปลูกขนาด 6 นิ้ว (ถ้าขนาดต้นใหญ่ราคาก็จะแพงขึ้นตามขนาดและความสวยของรูปทรงต้นไม้ด้วยเช่น กัน) เนื่องจาก เป็นไม้ที่ขยายพันธุ์ยาก ค่อนข้างโตช้าและเป็นไม้ที่นิยมนำมาเลี้ยงเป็นบอนไซ จึงมีราคาค่อนข้างสูง ส่วนต้นที่ราคาถูกที่สุด คือ หางกระรอกแดงเลื้อยแคระ ราคาต้นละ 40 บาท ในกระถางปลูกขนาด 3.5 นิ้ว เนื่องจากเป็นไม้ที่สามารถขยายพันธุ์ได้ง่าย ปลูกและดูแลง่าย จึงมีราคาค่อนข้างถูก เป็นต้น

หูกระจกแคระ

ในส่วนของช่องทางการจำหน่าย เนื่องจากยังไม่มีร้าน ยึดช่องทางการขายผ่านทางเว็บไซต์ เป็น หลัก เพราะด้วยเวลาที่มีจำกัด เนื่องจากปกติมีอาชีพเป็นแม่บ้าน จึงมีเวลาว่างในช่วงกลางวัน เพื่อแพคสินค้าและจัดส่งทางไปรษณีย์ ส่วน กลุ่มลูกค้าเป็นผู้ที่ชื่นชอบการปลูกต้นไม้ และอาจจะมีพื้นที่สำหรับปลูกไม่มากนัก หรือผู้ที่สนใจไม้ประเภทนี้ บางคนก็เป็นผู้ที่ชื่นชอบการทำบอนไซ

สำหรับรายได้ยังไม่แน่นอนมากนัก เนื่องจากที่ผ่านมาการเข้าใช้งานของทางเว็บไซต์ ยังไม่เสถียรนัก มีการปรับปรุงระบบเป็นระยะๆ โดยเฉลี่ยรายได้ 7 เดือนที่จำหน่ายสินค้า อยู่ที่ประมาณ เดือนละ 7,000 บาท โดยคิดเป็นกำไรสุทธิอยู่ที่ประมาณ 2,500 ต่อเดือน ถือว่าเป็นรายได้เสริมที่ว่างจากการเป็นแม่บ้านช่วยเหลือ ครอบครัวอีกทางหนึ่ง

“จุดเริ่มต้น เริ่มจากการแลกเปลี่ยนต้นไม้กับสมาชิกในเกษตรพอเพียงด้วยกัน และเห็นว่ามีเพื่อนๆ สมาชิกจำนวนไม่น้อยที่มีความชื่นชอบในประเภทไม้แคระ จึงลองนำไม้ที่ปลูกเองในบ้านมาลองจำหน่ายในกระดานขายของทางเว็บไซต์ เริ่มขายเมื่อเดือน กันยายน 2555 ถึงปัจจุบันเป็นเวลาประมาณ 7 เดือน ซึ่งความนิยมต้นไม้แคระอยู่ในเกณฑ์ดี และยังเป็นสิ่งใหม่สำหรับนักปลูกมือใหม่ ความน่าสนใจในต้นไม้แคระมาจากการย่อส่วนของต้นไม้ที่สามารถปลูกในพื้นที่ จำกัดได้ สามารถให้ดอกและผลเหมือนต้นขนาดปกติทุกประการ ประหยัดพื้นที่ปลูก เหมาะกับสังคมคนเมืองและสังคมสมัยใหม่ซึ่งอาจมีพื้นที่ในการใช้ชีวิตจำกัด มากขึ้น”

โทร. 081-424-4668, http://www.kasetporpeang

ที่มาของ ต้นไม้แคระ

เกิดขึ้นมาจากเจริญเติบโตของต้นไม้ที่ผิดปกติ เกิดมาจากธรรมชาติส่วนหนึ่ง และส่วนหนึ่งมาจากการบังคับของผู้ปลูก ซึ่งตามธรรมชาติต้นไม้เจริญเติบโตได้ดีเพียงใดขึ้นอยู่กับราก เปรียบเสมือนท่อลำเลียง ทำหน้าที่หาอาหารส่งไปเลี้ยงลำต้น กิ่งและใบ ตลอดจน ดอกและผล และส่วนใต้ดินที่อุดมสมบูรณ์ ถ้าทั้งสองส่วนสัมพันธ์กัน ถ้ารากเจริญดีก็อาหารได้มาก แต่ถ้าต้องการให้ต้นไม้แคระ ก็จะต้องใช้วิธีบังคับให้เจริญเติบโตในสภาพที่ต้องการ ซึ่งต้องพิจารณาจากปัจจัยต่อไปนี้

1 . กระถาง ดิน ราก เลือก ใช้กระถางเล็กพื้นที่จำกัด ดินที่บรรจุในกระถางมีปริมาณน้อย คือ ให้ได้ปริมาณพอเพียงที่รากจะหาอาหารได้พอที่จะอยู่ได้ ไม่มากเกินจนไม้เติบโตงอกงามเกินไป หรือน้อยเกินไปจนต้นไม้ขาดอาหาร ไม้จึงถูกบังคับให้ต้นแคระแกรนได้อย่างคงที่ ดังนั้นเมื่อปลูกไว้นานๆ จนรากกินดินไปเกือบหมด ก็จำเป็นต้องเปลี่ยนกระถางเปลี่ยนดิน ตัดเล็มรากให้น้อยลง

ทับทิมแคระ

2. การตัดแต่ง การตัดแต่งเป็นการบังคับมิให้ต้นไม้โตเกินไป และป้องกันมิให้เกิดการผิดสัดส่วน เสียหรือเปลี่ยนรูปทรง การดูแลตัด เล็ม กิ่งใบจึง ต้องกระทำอยู่เสมอ

3. การรดน้ำ ควรควบคุมปริมาณน้ำที่ ใช้รดแต่ละกระถางให้พอเหมาะ มีลม อากาศถ่ายเทอย่างดี ดังนั้นเมื่อไม้ตากแดดตากลม ตลอดวัน ดินในกระถางก็จะแห้งเร็ว การให้น้ำมากเกินไปก็จะทำให้ต้นไม้โตเร็วหรือดินอาจแฉะเกินไปทำให้รากเน่า ได้ แต่ถ้าขาดน้ำก็จะเหี่ยวเฉาและตายในที่สุด

ขอบคุณ http://manager.co.th/iBizchannel/ViewNews.aspx?NewsID=9560000051091 (ขนาดไฟล์: 185)

ที่มา: ASTVผู้จัดการออนไลน์/มูลนิธิพัฒนาคนพิการไทย 30 เม.ย 56
วันที่โพสต์: 2/05/2556 เวลา 03:03:26 ดูภาพสไลด์โชว์ 'ต้นไม้แคระ' ธุรกิจดาวรุ่ง ตอบไลฟ์สไตล์แต่งสวนคนเมือง

แสดงความคิดเห็น

รอตรวจสอบ
จัดฟอร์แม็ต ดูการแสดงผล

รอตรวจสอบ

รอตรวจสอบ

รอตรวจสอบ

ยกเลิก

รายละเอียดกระทู้

ทับทิมแคระ ต้นไม้แคระ เป็นไม้ประดับที่ได้รับความนิยมอย่างมากในช่วงที่ผ่านมา เพราะด้วยลักษณะของต้นไม้ ที่ลำต้นไม่ใหญ่ ไม่ต้องใช้พื้นที่มาก เหมาะกับ ที่อยู่อาศัยในยุคปัจจุบัน ซึ่งมีพื้นที่น้อย ที่ผ่านมา ต้นไม้แคระที่ทุกคนรู้จักกันดี ก็จะมีอยู่ในกลุ่มของบอนไซ ซึ่งได้รับอิทธิพลมาจากประเทศญี่ปุ่น แต่ปัจจุบันการพัฒนาไม้แคระไม่ได้มีอยู่เฉพาะในกลุ่มของบอนไซเท่านั้น แต่ไม้ผล ไม้ดอก บ้านเรา ชาวสวนก็สามารถที่จะพัฒนา เป็นไม้แคระ หรือไม้กระถางออกมาจำหน่ายรองรับความต้องการของคนเมือง ซึ่งไม่มีพื้นที่ปลูกต้นไม้ใหญ่ได้เช่นกัน ฝรั่งแคระ สำหรับ “พิรุณพร เอมชาวนา” เธอเป็นหนึ่งในผู้ปลูกต้นไม้แคระจำหน่าย โดยยึดช่องทางการขายผ่านทางเว็บไซต์ “เกษตรพอเพียงดอทคอม” ซึ่ง ด้วยระยะเวลาที่เริ่มต้นทำอาชีพตรงนี้ได้ไม่นาน บวกกับเป็นอาชีพเสริม จากงานประจำ รายได้ก็ยังถือว่าไม่ดีนัก แต่เธอก็พอใจ เพราะทำด้วยใจรักในการปลูกต้นไม้ และได้แบ่งปันและแลกเปลี่ยนประสบการณ์กับคนที่ชื่นชอบไม้แคระเช่นเดียวกับ เธอ พิรุณพร เล่าว่า เริ่มจากความชอบต้นไม้ที่สามารถปลูกในกระถางเล็กๆ และสามารถออกดอกและผลได้เหมือนต้นใหญ่ทั่วไป เนื่องจากบ้านที่พักอาศัยมีพื้นที่น้อย และไม่มีพื้นดินสำหรับลงปลูกต้นไม้ จึงชอบลักษณะของไม้แคระเป็นพิเศษ กุหลาบจิ๋ว โดยไม้แคระที่ได้ส่วนใหญ่ซื้อพันธุ์มาจากตลาดนัดธนบุรี หรือ สนามหลวง 2 และบางส่วนก็รับมาจากสวนอีกทอดหนึ่งและนำมาปลูกไว้จนออกลูกออกผล เนื่องจากซื้อต่อมาบางครั้งราคาสูง ทำกำไรไม่ได้ ระยะหลัง จึงเริ่มเพาะปลูกเองบ้างบางส่วน อย่างไรก็ตาม เนื่องจากไม้แคระส่วนใหญ่มีการเจริญเติบโตที่ค่อนข้างช้า บางอย่างต้องเพาะเมล็ดวิธีเดียวเท่านั้น จึงต้องใช้พื้นที่พอสมควรในการฟูมฟักให้ต้นไม้โตจนสามารถจำหน่ายได้ ซึ่งเราเองไม่มีพื้นที่มากพอ บางส่วนจึงยังต้องรับจากสวนคนอื่นๆ สะระแหน่ สำหรับประเภทของต้นไม้ของทางร้าน ประกอบไปด้วย ไม้ผลกินได้ เช่น ชมพู่จิ๋วออสเตรเลีย หรือ Beach Cherry / Bay Cherry, ฝรั่งแคระ, ทับทิมแคระ, เชอรี่แคระ ฯลฯ ประเภทไม้ดอก เช่น กุหลาบจิ๋ว แก้วแคระดอกหอม แก้วแคระใบประยงค์ ดอกไม้จีนแคระ พุดซ้อนแคระ เข็มแคระ ฯลฯ และประเภทไม้ประดับ เช่นหูกระจงแคระ แก้วแคระอินโด โมกแคระ โมกเงินแคระ หางกระรอกแดงเลื้อยแคระ ลิ้นมังกรแคระฯลฯ “พิรุณพร เอมชาวนา” เจ้าของสวน พิรุณพร เล่าถึง ราคา ต้นไม้แคระ ว่า จริงๆ แล้ว ราคาไม้แคระไม่ได้ต่างจากไม้ทั่วไปมากนัก เช่นกลุ่มไม้ผล อาทิ ทับทิมแคระ จำหน่ายในราคาต้นละ 80 บาท ขนาดกระถางปลูก 6 นิ้ว ให้ดอกและผลแล้ว ในขณะที่ทับทิมทั่วไปมีจำหน่ายตั้งแต่ราคา 80 บาท ขึ้นไป ขึ้นอยู่กับสายพันธุ์และขนาด สำหรับต้นที่มีราคาแพงที่สุดในขณะนี้ คือ หูกระจงแคระ จำหน่ายในราคาต้นละ 220 บาท ในกระถางปลูกขนาด 6 นิ้ว (ถ้าขนาดต้นใหญ่ราคาก็จะแพงขึ้นตามขนาดและความสวยของรูปทรงต้นไม้ด้วยเช่น กัน) เนื่องจาก เป็นไม้ที่ขยายพันธุ์ยาก ค่อนข้างโตช้าและเป็นไม้ที่นิยมนำมาเลี้ยงเป็นบอนไซ จึงมีราคาค่อนข้างสูง ส่วนต้นที่ราคาถูกที่สุด คือ หางกระรอกแดงเลื้อยแคระ ราคาต้นละ 40 บาท ในกระถางปลูกขนาด 3.5 นิ้ว เนื่องจากเป็นไม้ที่สามารถขยายพันธุ์ได้ง่าย ปลูกและดูแลง่าย จึงมีราคาค่อนข้างถูก เป็นต้น หูกระจกแคระ ในส่วนของช่องทางการจำหน่าย เนื่องจากยังไม่มีร้าน ยึดช่องทางการขายผ่านทางเว็บไซต์ เป็น หลัก เพราะด้วยเวลาที่มีจำกัด เนื่องจากปกติมีอาชีพเป็นแม่บ้าน จึงมีเวลาว่างในช่วงกลางวัน เพื่อแพคสินค้าและจัดส่งทางไปรษณีย์ ส่วน กลุ่มลูกค้าเป็นผู้ที่ชื่นชอบการปลูกต้นไม้ และอาจจะมีพื้นที่สำหรับปลูกไม่มากนัก หรือผู้ที่สนใจไม้ประเภทนี้ บางคนก็เป็นผู้ที่ชื่นชอบการทำบอนไซ สำหรับรายได้ยังไม่แน่นอนมากนัก เนื่องจากที่ผ่านมาการเข้าใช้งานของทางเว็บไซต์ ยังไม่เสถียรนัก มีการปรับปรุงระบบเป็นระยะๆ โดยเฉลี่ยรายได้ 7 เดือนที่จำหน่ายสินค้า อยู่ที่ประมาณ เดือนละ 7,000 บาท โดยคิดเป็นกำไรสุทธิอยู่ที่ประมาณ 2,500 ต่อเดือน ถือว่าเป็นรายได้เสริมที่ว่างจากการเป็นแม่บ้านช่วยเหลือ ครอบครัวอีกทางหนึ่ง “จุดเริ่มต้น เริ่มจากการแลกเปลี่ยนต้นไม้กับสมาชิกในเกษตรพอเพียงด้วยกัน และเห็นว่ามีเพื่อนๆ สมาชิกจำนวนไม่น้อยที่มีความชื่นชอบในประเภทไม้แคระ จึงลองนำไม้ที่ปลูกเองในบ้านมาลองจำหน่ายในกระดานขายของทางเว็บไซต์ เริ่มขายเมื่อเดือน กันยายน 2555 ถึงปัจจุบันเป็นเวลาประมาณ 7 เดือน ซึ่งความนิยมต้นไม้แคระอยู่ในเกณฑ์ดี และยังเป็นสิ่งใหม่สำหรับนักปลูกมือใหม่ ความน่าสนใจในต้นไม้แคระมาจากการย่อส่วนของต้นไม้ที่สามารถปลูกในพื้นที่ จำกัดได้ สามารถให้ดอกและผลเหมือนต้นขนาดปกติทุกประการ ประหยัดพื้นที่ปลูก เหมาะกับสังคมคนเมืองและสังคมสมัยใหม่ซึ่งอาจมีพื้นที่ในการใช้ชีวิตจำกัด มากขึ้น” โทร. 081-424-4668, http://www.kasetporpeang ที่มาของ ต้นไม้แคระ เกิดขึ้นมาจากเจริญเติบโตของต้นไม้ที่ผิดปกติ เกิดมาจากธรรมชาติส่วนหนึ่ง และส่วนหนึ่งมาจากการบังคับของผู้ปลูก ซึ่งตามธรรมชาติต้นไม้เจริญเติบโตได้ดีเพียงใดขึ้นอยู่กับราก เปรียบเสมือนท่อลำเลียง ทำหน้าที่หาอาหารส่งไปเลี้ยงลำต้น กิ่งและใบ ตลอดจน ดอกและผล และส่วนใต้ดินที่อุดมสมบูรณ์ ถ้าทั้งสองส่วนสัมพันธ์กัน ถ้ารากเจริญดีก็อาหารได้มาก แต่ถ้าต้องการให้ต้นไม้แคระ ก็จะต้องใช้วิธีบังคับให้เจริญเติบโตในสภาพที่ต้องการ ซึ่งต้องพิจารณาจากปัจจัยต่อไปนี้ 1 . กระถาง ดิน ราก เลือก ใช้กระถางเล็กพื้นที่จำกัด ดินที่บรรจุในกระถางมีปริมาณน้อย คือ ให้ได้ปริมาณพอเพียงที่รากจะหาอาหารได้พอที่จะอยู่ได้ ไม่มากเกินจนไม้เติบโตงอกงามเกินไป หรือน้อยเกินไปจนต้นไม้ขาดอาหาร ไม้จึงถูกบังคับให้ต้นแคระแกรนได้อย่างคงที่ ดังนั้นเมื่อปลูกไว้นานๆ จนรากกินดินไปเกือบหมด ก็จำเป็นต้องเปลี่ยนกระถางเปลี่ยนดิน ตัดเล็มรากให้น้อยลง ทับทิมแคระ 2. การตัดแต่ง การตัดแต่งเป็นการบังคับมิให้ต้นไม้โตเกินไป และป้องกันมิให้เกิดการผิดสัดส่วน เสียหรือเปลี่ยนรูปทรง การดูแลตัด เล็ม กิ่งใบจึง ต้องกระทำอยู่เสมอ 3. การรดน้ำ ควรควบคุมปริมาณน้ำที่ ใช้รดแต่ละกระถางให้พอเหมาะ มีลม อากาศถ่ายเทอย่างดี ดังนั้นเมื่อไม้ตากแดดตากลม ตลอดวัน ดินในกระถางก็จะแห้งเร็ว การให้น้ำมากเกินไปก็จะทำให้ต้นไม้โตเร็วหรือดินอาจแฉะเกินไปทำให้รากเน่า ได้ แต่ถ้าขาดน้ำก็จะเหี่ยวเฉาและตายในที่สุด ขอบคุณ http://manager.co.th/iBizchannel/ViewNews.aspx?NewsID=9560000051091

จัดฟอร์แม็ตข้อความและมัลติมีเดีย

  1. เพิ่ม
  2. เพิ่ม ลบ
  3. เพิ่ม ลบ
  4. เพิ่ม ลบ
  5. เพิ่ม ลบ
  6. เพิ่ม ลบ
  7. เพิ่ม ลบ
  8. เพิ่ม ลบ
  9. เพิ่ม ลบ
  10. ลบ
เลือกการตกแต่งที่ต้องการ

ตกลง ยกเลิก

รายละเอียดการใส่ ลิงค์ รูปภาพ วิดีโอ เพลง (Soundcloud)

Waiting...