มองทิศทาง 'อาชีพตลาดต้องการ' ปรับตัวเตรียมพร้อมพิชิตงาน...ความสำเร็จ

แสดงความคิดเห็น

บรรยากาศภายในห้องเรียนของนักศึกษาระดับอุดมศึกษา

ปัจจุบันมีอาชีพอยู่มากมายให้ทุกคนได้เลือกตามความชอบและความถนัด โดยแต่ละอาชีพต่างก็มีคุณค่าความสำคัญแตกต่างกันไป การเลือกประกอบอาชีพที่เหมาะสมตรงกับฝีมือและความสนใจของแต่ละบุคคลนั้น นอกเหนือจากความสุขใจที่ได้ทำงานแล้ว ยังมีโอกาสเจริญก้าวหน้าประสบความสำเร็จในการประกอบอาชีพที่ตนเองรักอีกด้วย

บุญเลิศ ธีระตระกูล ผู้อำนวยการ กองวิจัยตลาดแรงงาน กรมการจัดหางาน กระทรวงแรงงาน ให้ความรู้เล่าถึงความต้อง การของตลาดแรงงานและทิศทางการเปลี่ยนแปลงของอาชีพว่า สถานการณ์ตอนนี้ยังคงมีความต้องการแรงงานอยู่มากมีตำแหน่งงานที่ขาดแคลนหลาย อัตราที่พร้อมเปิดรับ

นักศึกษาสาขาคหกรรม กำลังประกอบอาหาร กลุ่มอาชีพที่เป็นที่ต้องการ ในวุฒิการศึกษา ปวช. ปวส. สายช่างยังคงเป็นที่ต้องการมาก ขณะที่สายพาณิชย์ พนักงานขาย พนักงานบัญชี เจ้าหน้าที่เก็บเงิน พนักงานทั่วไปก็เป็นที่ต้องการมากเช่นเดียวกัน เรียกว่าทุกตำแหน่งในด้านการผลิตยังคงมีความขาดแคลน ที่ผ่านมากระทรวงฯ จึงได้จัดการประชุมสร้างฐานข้อมูล รายละเอียดเพื่อให้ครอบคลุมด้านต่าง ๆ มากยิ่งขึ้น ซึ่งก็จะมีความชัดเจนถึงการขาดแคลนแรงงาน นำไปสู่การแก้ปัญหาอย่างยั่งยืน

ส่วนแนวโน้มงานในภาคการผลิตและบริการที่มีศักยภาพในอนาคตนั้น ในภาคการผลิตที่เห็นได้ชัดอย่าง เกษตรกรรมซึ่งมีสินค้า ข้าว ข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ พืชพลังงาน มันสำปะหลัง อ้อย การประมง ปศุสัตว์ ฯลฯ เหล่านี้สร้างงานสร้างอาชีพได้ทั้งสิ้น ดังนั้นหากมีความถนัดสนใจก็จะเป็นหนึ่งในอาชีพที่มีความโดดเด่น อีกทั้งปัจจุบันพบว่าคนรุ่นใหม่ที่แม้จะไม่ได้จบตรงสาขาแต่ให้ความสนใจหันมา ทำการเกษตรมากขึ้น

นักศึกษาสาขานิเทศศาสตร์ กำลังตัดต่อการแสดงภายในห้องควบคุมการตัดต่อ ทางด้านอุตสาหกรรม มีผลิตภัณฑ์อาหารซึ่งก็จะมีอาหารกระป๋อง ผลไม้กระ ป๋อง ปศุสัตว์แปรรูป ปิโตรเคมี ไบโอดีเซล ยานยนต์ เครื่องใช้ไฟฟ้าและอิเล็กทรอนิกส์

ฯลฯ รวมถึง อุตสาหกรรมอนาคต ไบโอพลาสติก ผลิตภัณฑ์เพื่อสุขภาพ โซลาร์เซลล์ ฯลฯ อีกทั้งอุตสาหกรรมสร้างสรรค์งานออกแบบ แฟชั่น ฯลฯ ก็มีอนาคตสดใสเช่นเดียวกับ ภาคบริการ ทางด้านการท่องเที่ยว การสื่อสารและโทรคมนาคม และบริการด้านสุขภาพ ฯลฯ

“ปัญหาของการว่างงานไม่ได้ขึ้นอยู่กับการที่จะต้องเป็นลูกจ้างหรือการเรียน ที่ไม่ตรงสาขา ประเด็นสำคัญอยู่ที่ผู้ทำงานต้องมีความรู้ความเข้าใจก่อนก้าวสู่เส้นทาง อาชีพว่ามีความถนัดสนใจในเรื่องใด ซึ่งเป็นสิ่งสำคัญของการขจัดปัญหาการว่างงาน ทั้งนี้หากทำงานอาชีพที่ตนเองถนัดและสนใจก็จะนำไปสู่ความสำเร็จ ตลาดงานขณะนี้ยังคงเปิดกว้างพร้อมรองรับผู้ที่จะทำงาน ซึ่งการเข้าถึงข้อมูลตลาดงาน กรมการจัดหางานให้บริการคำปรึกษาแนะนำ รวมทั้งมี เว็บไซต์ http://lmi.doe.go.th ให้ได้สืบค้นตำแหน่งงาน และสมัครงานด้วยตนเอง”

จากสถิติแม้พบการว่างงานมีอยู่ไม่มากเมื่อเปรียบเทียบกับปีที่ผ่านมาซึ่งไม่ แตกต่างกันและเป็นคล้ายกันแทบทุกปี การที่มีอัตราการว่างงานต่ำถือเป็นเรื่องที่ดีแต่แม้จะมีอัตราการว่างงานต่ำ แต่ในความเป็นห่วงก็มีในเรื่องคุณภาพของกำลังแรงงานและด้วยอาชีพที่มี ศักยภาพของประเทศ ซึ่งเป็นภาคอุตสาหกรรม ภาคบริการ รวมทั้งเกษตรด้วยนั้น เมื่อประชาคมเศรษฐกิจอาเซียนเกิดขึ้นในอีก 2 ปีข้างหน้าก็จะมีการเดินทางติดต่อกันเพิ่มมากขึ้น งานด้านบริการทั้งทางด้านการขนส่งคมนาคม การท่องเที่ยว การค้าขาย ฯลฯ จะเติบโตขึ้น สิ่งที่เห็นได้ชัดคือ ธุรกิจท่องเที่ยว โรงแรมและบริการ ร้านอาหารในสายท่องเที่ยวจะเติบโตแน่นอน

การค้าข้ามแดนก็จะเฟื่อง การขนส่งอีกทั้งการรักษาความปลอดภัยก็น่าจะมีเพิ่มขึ้น อีกทั้งในเรื่องของสังคมผู้สูงอายุ ธุรกิจเกี่ยวกับการดูแลผู้สูงอายุก็จะมีเพิ่มขึ้นและคงไม่ได้ดูเฉพาะใน เรื่องประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน การก้าวไปสู่สังคมผู้สูงอายุควรต้องมีการเตรียมความพร้อมงานทางด้านนี้ก็จะ เฟื่องฟูขึ้น

โดยหลักการเรียนที่สอดคล้องกับงานจึงมีความจำเป็น แต่สิ่งที่สำคัญกว่านั้นคือผู้เรียนควรมีความตั้งใจมากยิ่งขึ้น พัฒนาศักยภาพของตนเอง ทั้งนี้เพราะโลกข้างหน้ามีการแข่งขันสูง อีกทั้งต้องค้นพบรู้จักตนเองว่ามีความถนัดสนใจเรื่องใด มีความรู้ความสามารถด้านใดเป็นพิเศษ ทั้งนี้เพราะถือเป็นปัจจัยความสำเร็จประกอบกันทั้งหมด

การปรับตัวเตรียมความพร้อมผู้อำนวยการกองวิจัยตลาดแรงงานให้คำแนะนำทิ้งท้าย อีกว่าควรต้องเรียนรู้ 3 สิ่งสำคัญคือ รู้จักตัวเราเอง, รู้จักโลกอาชีพว่ามีอาชีพด้านใดบ้าง และควรมีความรู้ทิศทางตลาดแรงงานว่าจะไปทางไหน เมื่อทราบสามหลักซึ่งเป็นหัวใจสำคัญนี้แล้วก็จะสามารถวางแผนชีวิตของตนเอง อีกทั้งมีความมุ่งมั่นตั้งใจแน่วแน่ในการทำงานประกอบอาชีพก็จะสามารถประสบ ความสำเร็จในอาชีพได้

ผศ.ดร.ประพันธ์ ชัยกิจอุราใจ ผู้อำนวยการหลักสูตรวิทยาศาสตรมหาบัณฑิต สาขาวิชาการจัดการทรัพยากรมนุษย์ วิทยาลัยบัณฑิตศึกษาด้านการจัดการ มหาวิทยาลัยศรีปทุมวิทยาคารพญาไท ให้มุมมองถึงแนวโน้มอาชีพเพิ่มเติมอีกว่า จากที่ผ่านมา มหาวิทยาลัยศรีปทุม ร่วมกับสภาอุตสาหกรรมสำรวจค่าจ้างและสวัสดิการประจำปี 2555/2556 ซึ่งจากข้อมูลผลการสำรวจโดยเปรียบเทียบค่าจ้างกับปี 2554/2555 ที่เพิ่มขึ้น วุฒิ ป.ตรี จำแนกตามสาขา พบว่า การเติบโตของตัวเลขค่าจ้างที่เพิ่มขึ้นสูงสุด 5 อันดับแรก ได้แก่ เภสัชศาสตร์ 18.83% คหกรรมศาสตร์ 17.66% สัตวแพทย์ 13.82% บริหารธุรกิจ 13.19% และสังคมศาสตร์ 12.94% น่าจะสะท้อนได้ว่าสาขาทางด้านสาธารณสุข ได้แก่ แพทยศาสตร์ ซึ่งไม่ได้สำรวจ เภสัชศาสตร์ สัตวแพทย์ พยาบาลศาสตร์ เป็นต้น ยังคงเป็นที่ต้องการในตลาดแรงงาน ทั้งนี้อาจเนื่องมาจากค่านิยมของเด็กรุ่นใหม่ที่อยู่กับเทคโนโลยี เด็กรุ่นใหม่ที่เรียนเก่งคงไม่เลือกเรียนสาขาเหล่านี้แบบในอดีต ประกอบกับสังคมคาดหวังการรักษาที่ดี ดูแลเอาใจใส่คนไข้จากบุคลากรทางการแพทย์สูงขึ้น

พนักงานในโรงงานอุตสาหกรรมกำลังทำงาน ขณะที่ความต้องการบริการทางด้านสาธารณสุขทั่วประเทศ โดยเฉพาะในถิ่นทุรกันดารของประเทศยังมีความต้องการบุคลากรทางด้านนี้อยู่อีก มาก ส่วนสาขาคหกรรมศาสตร์ ปรับเพิ่มค่าจ้างสูง อาจเป็นเพราะแนวโน้มที่ผู้คนในสังคมให้ความสำคัญกับอาหารเพื่อสุขภาพมากขึ้น ๆ ประกอบกับทิศทางครัวไทยสู่ครัวโลก ทำให้งานด้านอาหารและโภชนาการเป็นที่ต้องการมากขึ้น ในขณะที่สาขาบริหารธุรกิจ และสังคมศาสตร์ ก็อาจเป็นเพราะสาขาเหล่านี้จบมาสามารถทำงานอยู่ตามส่วนงานต่าง ๆ ในองค์กรทั่วไปได้

ส่วนทิศทางอาชีพในอนาคตมีหลายปัจจัยเข้ามาเกี่ยวข้อง อย่างกระแสประชาคมเศรษฐกิจอาเซียนจะทำให้เกิดการเคลื่อนย้ายแรงงานได้อย่าง เสรีมากขึ้นใน 10 ประเทศอาเซียนโดยเฉพาะประเทศไทยที่ถือว่าได้เปรียบด้านทำเลที่ตั้ง เป็นศูนย์กลางของภูมิภาคอาเซียน ประกอบกับค่าแรงขั้นต่ำ 300 บาททั่วประเทศ จะทำให้แรงงานต่างด้าวหลั่งไหลเข้ามาทำงานในประเทศไทยมากขึ้น คนในองค์กรจะต้องทำงานร่วมกับคนที่มีหลากหลายทั้งทางด้านเชื้อชาติ ศาสนา ภาษา และวัฒนธรรมมากขึ้น สาขาที่มีความเป็นนานาชาติ อย่าง วิทยาลัยนานาชาติ ภาษาจะเป็นที่ต้องการ เพราะต้องฝึกการเรียนรู้แบบรู้เขารู้เรา ทั้งคำพูด ภาษา วัฒนธรรมจากคนชาติอื่น ทำกิจ กรรมร่วมกับผู้คนที่มีหลากหลายและแตกต่างจากตนเอง รวมถึงสาขาด้านการจัดการทรัพยากรมนุษย์ ซึ่งต้องอาศัยศาสตร์และศิลป์ในการบริหารจัดการคนในองค์การที่มีความหลากหลาย ให้มีประสิทธิภาพในการทำงานให้ได้

การพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานด้านคมนาคมขนส่งของประเทศ จะทำให้เกิดโครงการก่อสร้างในประเทศอีกจำนวนมาก รวมถึงอสังหาริมทรัพย์ที่เกิดขึ้นมากตามเมืองท่องเที่ยว และหัวเมืองหลักของแต่ละภูมิภาคในประเทศ ธุรกิจสายการบินที่ขยายตัวตาม ทำให้เกิดงานรับเหมาก่อสร้างขึ้นอีกเป็นจำนวนมาก จึงน่าจะเป็นโอกาสของ สาขาวิศวกรรมโยธา สาขาช่างเทคนิค สาขาใหม่อย่างธุรกิจการบิน

นอกจากนี้ในอนาคตจะมีดิจิทัลทีวี จะมีช่องเพิ่มมากขึ้น โดยแต่ละช่องจะต้องแข่งขันกันเพื่อผลิตเนื้อหารายการให้น่าสนใจเพื่อดึงดูด ผู้ชม รวมทั้งความก้าวหน้าทางด้านเทคโนโลยีที่มีมากขึ้น จนไปถึงดิจิทัลโมบาย จึงน่าจะเป็นโอกาสของสาขานิเทศศาสตร์ สาขาช่างเทคนิค สาขาเทคโนโลยีสารสนเทศ รวมไปถึงสาขาใหม่อย่างดิจิทัลมีเดีย ที่จะเป็นที่ต้องการของตลาดแรงงานมากยิ่งขึ้นตามไปด้วย.

ขอบคุณ http://www.dailynews.co.th/article/224/200952 (ขนาดไฟล์: 167)

ที่มา: เดลินิวส์ออนไลน์/มูลนิธิพัฒนาคนพิการไทย 1 พ.ค.56
วันที่โพสต์: 1/05/2556 เวลา 04:10:48 ดูภาพสไลด์โชว์ มองทิศทาง 'อาชีพตลาดต้องการ' ปรับตัวเตรียมพร้อมพิชิตงาน...ความสำเร็จ

แสดงความคิดเห็น

รอตรวจสอบ
จัดฟอร์แม็ต ดูการแสดงผล

รอตรวจสอบ

รอตรวจสอบ

รอตรวจสอบ

ยกเลิก

รายละเอียดกระทู้

บรรยากาศภายในห้องเรียนของนักศึกษาระดับอุดมศึกษา ปัจจุบันมีอาชีพอยู่มากมายให้ทุกคนได้เลือกตามความชอบและความถนัด โดยแต่ละอาชีพต่างก็มีคุณค่าความสำคัญแตกต่างกันไป การเลือกประกอบอาชีพที่เหมาะสมตรงกับฝีมือและความสนใจของแต่ละบุคคลนั้น นอกเหนือจากความสุขใจที่ได้ทำงานแล้ว ยังมีโอกาสเจริญก้าวหน้าประสบความสำเร็จในการประกอบอาชีพที่ตนเองรักอีกด้วย บุญเลิศ ธีระตระกูล ผู้อำนวยการ กองวิจัยตลาดแรงงาน กรมการจัดหางาน กระทรวงแรงงาน ให้ความรู้เล่าถึงความต้อง การของตลาดแรงงานและทิศทางการเปลี่ยนแปลงของอาชีพว่า สถานการณ์ตอนนี้ยังคงมีความต้องการแรงงานอยู่มากมีตำแหน่งงานที่ขาดแคลนหลาย อัตราที่พร้อมเปิดรับ นักศึกษาสาขาคหกรรม กำลังประกอบอาหารกลุ่มอาชีพที่เป็นที่ต้องการ ในวุฒิการศึกษา ปวช. ปวส. สายช่างยังคงเป็นที่ต้องการมาก ขณะที่สายพาณิชย์ พนักงานขาย พนักงานบัญชี เจ้าหน้าที่เก็บเงิน พนักงานทั่วไปก็เป็นที่ต้องการมากเช่นเดียวกัน เรียกว่าทุกตำแหน่งในด้านการผลิตยังคงมีความขาดแคลน ที่ผ่านมากระทรวงฯ จึงได้จัดการประชุมสร้างฐานข้อมูล รายละเอียดเพื่อให้ครอบคลุมด้านต่าง ๆ มากยิ่งขึ้น ซึ่งก็จะมีความชัดเจนถึงการขาดแคลนแรงงาน นำไปสู่การแก้ปัญหาอย่างยั่งยืน ส่วนแนวโน้มงานในภาคการผลิตและบริการที่มีศักยภาพในอนาคตนั้น ในภาคการผลิตที่เห็นได้ชัดอย่าง เกษตรกรรมซึ่งมีสินค้า ข้าว ข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ พืชพลังงาน มันสำปะหลัง อ้อย การประมง ปศุสัตว์ ฯลฯ เหล่านี้สร้างงานสร้างอาชีพได้ทั้งสิ้น ดังนั้นหากมีความถนัดสนใจก็จะเป็นหนึ่งในอาชีพที่มีความโดดเด่น อีกทั้งปัจจุบันพบว่าคนรุ่นใหม่ที่แม้จะไม่ได้จบตรงสาขาแต่ให้ความสนใจหันมา ทำการเกษตรมากขึ้น นักศึกษาสาขานิเทศศาสตร์ กำลังตัดต่อการแสดงภายในห้องควบคุมการตัดต่อทางด้านอุตสาหกรรม มีผลิตภัณฑ์อาหารซึ่งก็จะมีอาหารกระป๋อง ผลไม้กระ ป๋อง ปศุสัตว์แปรรูป ปิโตรเคมี ไบโอดีเซล ยานยนต์ เครื่องใช้ไฟฟ้าและอิเล็กทรอนิกส์ ฯลฯ รวมถึง อุตสาหกรรมอนาคต ไบโอพลาสติก ผลิตภัณฑ์เพื่อสุขภาพ โซลาร์เซลล์ ฯลฯ อีกทั้งอุตสาหกรรมสร้างสรรค์งานออกแบบ แฟชั่น ฯลฯ ก็มีอนาคตสดใสเช่นเดียวกับ ภาคบริการ ทางด้านการท่องเที่ยว การสื่อสารและโทรคมนาคม และบริการด้านสุขภาพ ฯลฯ “ปัญหาของการว่างงานไม่ได้ขึ้นอยู่กับการที่จะต้องเป็นลูกจ้างหรือการเรียน ที่ไม่ตรงสาขา ประเด็นสำคัญอยู่ที่ผู้ทำงานต้องมีความรู้ความเข้าใจก่อนก้าวสู่เส้นทาง อาชีพว่ามีความถนัดสนใจในเรื่องใด ซึ่งเป็นสิ่งสำคัญของการขจัดปัญหาการว่างงาน ทั้งนี้หากทำงานอาชีพที่ตนเองถนัดและสนใจก็จะนำไปสู่ความสำเร็จ ตลาดงานขณะนี้ยังคงเปิดกว้างพร้อมรองรับผู้ที่จะทำงาน ซึ่งการเข้าถึงข้อมูลตลาดงาน กรมการจัดหางานให้บริการคำปรึกษาแนะนำ รวมทั้งมี เว็บไซต์ http://lmi.doe.go.th ให้ได้สืบค้นตำแหน่งงาน และสมัครงานด้วยตนเอง” จากสถิติแม้พบการว่างงานมีอยู่ไม่มากเมื่อเปรียบเทียบกับปีที่ผ่านมาซึ่งไม่ แตกต่างกันและเป็นคล้ายกันแทบทุกปี การที่มีอัตราการว่างงานต่ำถือเป็นเรื่องที่ดีแต่แม้จะมีอัตราการว่างงานต่ำ แต่ในความเป็นห่วงก็มีในเรื่องคุณภาพของกำลังแรงงานและด้วยอาชีพที่มี ศักยภาพของประเทศ ซึ่งเป็นภาคอุตสาหกรรม ภาคบริการ รวมทั้งเกษตรด้วยนั้น เมื่อประชาคมเศรษฐกิจอาเซียนเกิดขึ้นในอีก 2 ปีข้างหน้าก็จะมีการเดินทางติดต่อกันเพิ่มมากขึ้น งานด้านบริการทั้งทางด้านการขนส่งคมนาคม การท่องเที่ยว การค้าขาย ฯลฯ จะเติบโตขึ้น สิ่งที่เห็นได้ชัดคือ ธุรกิจท่องเที่ยว โรงแรมและบริการ ร้านอาหารในสายท่องเที่ยวจะเติบโตแน่นอน การค้าข้ามแดนก็จะเฟื่อง การขนส่งอีกทั้งการรักษาความปลอดภัยก็น่าจะมีเพิ่มขึ้น อีกทั้งในเรื่องของสังคมผู้สูงอายุ ธุรกิจเกี่ยวกับการดูแลผู้สูงอายุก็จะมีเพิ่มขึ้นและคงไม่ได้ดูเฉพาะใน เรื่องประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน การก้าวไปสู่สังคมผู้สูงอายุควรต้องมีการเตรียมความพร้อมงานทางด้านนี้ก็จะ เฟื่องฟูขึ้น โดยหลักการเรียนที่สอดคล้องกับงานจึงมีความจำเป็น แต่สิ่งที่สำคัญกว่านั้นคือผู้เรียนควรมีความตั้งใจมากยิ่งขึ้น พัฒนาศักยภาพของตนเอง ทั้งนี้เพราะโลกข้างหน้ามีการแข่งขันสูง อีกทั้งต้องค้นพบรู้จักตนเองว่ามีความถนัดสนใจเรื่องใด มีความรู้ความสามารถด้านใดเป็นพิเศษ ทั้งนี้เพราะถือเป็นปัจจัยความสำเร็จประกอบกันทั้งหมด การปรับตัวเตรียมความพร้อมผู้อำนวยการกองวิจัยตลาดแรงงานให้คำแนะนำทิ้งท้าย อีกว่าควรต้องเรียนรู้ 3 สิ่งสำคัญคือ รู้จักตัวเราเอง, รู้จักโลกอาชีพว่ามีอาชีพด้านใดบ้าง และควรมีความรู้ทิศทางตลาดแรงงานว่าจะไปทางไหน เมื่อทราบสามหลักซึ่งเป็นหัวใจสำคัญนี้แล้วก็จะสามารถวางแผนชีวิตของตนเอง อีกทั้งมีความมุ่งมั่นตั้งใจแน่วแน่ในการทำงานประกอบอาชีพก็จะสามารถประสบ ความสำเร็จในอาชีพได้ ผศ.ดร.ประพันธ์ ชัยกิจอุราใจ ผู้อำนวยการหลักสูตรวิทยาศาสตรมหาบัณฑิต สาขาวิชาการจัดการทรัพยากรมนุษย์ วิทยาลัยบัณฑิตศึกษาด้านการจัดการ มหาวิทยาลัยศรีปทุมวิทยาคารพญาไท ให้มุมมองถึงแนวโน้มอาชีพเพิ่มเติมอีกว่า จากที่ผ่านมา มหาวิทยาลัยศรีปทุม ร่วมกับสภาอุตสาหกรรมสำรวจค่าจ้างและสวัสดิการประจำปี 2555/2556 ซึ่งจากข้อมูลผลการสำรวจโดยเปรียบเทียบค่าจ้างกับปี 2554/2555 ที่เพิ่มขึ้น วุฒิ ป.ตรี จำแนกตามสาขา พบว่า การเติบโตของตัวเลขค่าจ้างที่เพิ่มขึ้นสูงสุด 5 อันดับแรก ได้แก่ เภสัชศาสตร์ 18.83% คหกรรมศาสตร์ 17.66% สัตวแพทย์ 13.82% บริหารธุรกิจ 13.19% และสังคมศาสตร์ 12.94% น่าจะสะท้อนได้ว่าสาขาทางด้านสาธารณสุข ได้แก่ แพทยศาสตร์ ซึ่งไม่ได้สำรวจ เภสัชศาสตร์ สัตวแพทย์ พยาบาลศาสตร์ เป็นต้น ยังคงเป็นที่ต้องการในตลาดแรงงาน ทั้งนี้อาจเนื่องมาจากค่านิยมของเด็กรุ่นใหม่ที่อยู่กับเทคโนโลยี เด็กรุ่นใหม่ที่เรียนเก่งคงไม่เลือกเรียนสาขาเหล่านี้แบบในอดีต ประกอบกับสังคมคาดหวังการรักษาที่ดี ดูแลเอาใจใส่คนไข้จากบุคลากรทางการแพทย์สูงขึ้น พนักงานในโรงงานอุตสาหกรรมกำลังทำงานขณะที่ความต้องการบริการทางด้านสาธารณสุขทั่วประเทศ โดยเฉพาะในถิ่นทุรกันดารของประเทศยังมีความต้องการบุคลากรทางด้านนี้อยู่อีก มาก ส่วนสาขาคหกรรมศาสตร์ ปรับเพิ่มค่าจ้างสูง อาจเป็นเพราะแนวโน้มที่ผู้คนในสังคมให้ความสำคัญกับอาหารเพื่อสุขภาพมากขึ้น ๆ ประกอบกับทิศทางครัวไทยสู่ครัวโลก ทำให้งานด้านอาหารและโภชนาการเป็นที่ต้องการมากขึ้น ในขณะที่สาขาบริหารธุรกิจ และสังคมศาสตร์ ก็อาจเป็นเพราะสาขาเหล่านี้จบมาสามารถทำงานอยู่ตามส่วนงานต่าง ๆ ในองค์กรทั่วไปได้ ส่วนทิศทางอาชีพในอนาคตมีหลายปัจจัยเข้ามาเกี่ยวข้อง อย่างกระแสประชาคมเศรษฐกิจอาเซียนจะทำให้เกิดการเคลื่อนย้ายแรงงานได้อย่าง เสรีมากขึ้นใน 10 ประเทศอาเซียนโดยเฉพาะประเทศไทยที่ถือว่าได้เปรียบด้านทำเลที่ตั้ง เป็นศูนย์กลางของภูมิภาคอาเซียน ประกอบกับค่าแรงขั้นต่ำ 300 บาททั่วประเทศ จะทำให้แรงงานต่างด้าวหลั่งไหลเข้ามาทำงานในประเทศไทยมากขึ้น คนในองค์กรจะต้องทำงานร่วมกับคนที่มีหลากหลายทั้งทางด้านเชื้อชาติ ศาสนา ภาษา และวัฒนธรรมมากขึ้น สาขาที่มีความเป็นนานาชาติ อย่าง วิทยาลัยนานาชาติ ภาษาจะเป็นที่ต้องการ เพราะต้องฝึกการเรียนรู้แบบรู้เขารู้เรา ทั้งคำพูด ภาษา วัฒนธรรมจากคนชาติอื่น ทำกิจ กรรมร่วมกับผู้คนที่มีหลากหลายและแตกต่างจากตนเอง รวมถึงสาขาด้านการจัดการทรัพยากรมนุษย์ ซึ่งต้องอาศัยศาสตร์และศิลป์ในการบริหารจัดการคนในองค์การที่มีความหลากหลาย ให้มีประสิทธิภาพในการทำงานให้ได้ การพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานด้านคมนาคมขนส่งของประเทศ จะทำให้เกิดโครงการก่อสร้างในประเทศอีกจำนวนมาก รวมถึงอสังหาริมทรัพย์ที่เกิดขึ้นมากตามเมืองท่องเที่ยว และหัวเมืองหลักของแต่ละภูมิภาคในประเทศ ธุรกิจสายการบินที่ขยายตัวตาม ทำให้เกิดงานรับเหมาก่อสร้างขึ้นอีกเป็นจำนวนมาก จึงน่าจะเป็นโอกาสของ สาขาวิศวกรรมโยธา สาขาช่างเทคนิค สาขาใหม่อย่างธุรกิจการบิน นอกจากนี้ในอนาคตจะมีดิจิทัลทีวี จะมีช่องเพิ่มมากขึ้น โดยแต่ละช่องจะต้องแข่งขันกันเพื่อผลิตเนื้อหารายการให้น่าสนใจเพื่อดึงดูด ผู้ชม รวมทั้งความก้าวหน้าทางด้านเทคโนโลยีที่มีมากขึ้น จนไปถึงดิจิทัลโมบาย จึงน่าจะเป็นโอกาสของสาขานิเทศศาสตร์ สาขาช่างเทคนิค สาขาเทคโนโลยีสารสนเทศ รวมไปถึงสาขาใหม่อย่างดิจิทัลมีเดีย ที่จะเป็นที่ต้องการของตลาดแรงงานมากยิ่งขึ้นตามไปด้วย. ขอบคุณ http://www.dailynews.co.th/article/224/200952

จัดฟอร์แม็ตข้อความและมัลติมีเดีย

  1. เพิ่ม
  2. เพิ่ม ลบ
  3. เพิ่ม ลบ
  4. เพิ่ม ลบ
  5. เพิ่ม ลบ
  6. เพิ่ม ลบ
  7. เพิ่ม ลบ
  8. เพิ่ม ลบ
  9. เพิ่ม ลบ
  10. ลบ
เลือกการตกแต่งที่ต้องการ

ตกลง ยกเลิก

รายละเอียดการใส่ ลิงค์ รูปภาพ วิดีโอ เพลง (Soundcloud)

Waiting...