อยู่กับระเบิดเวลาแต่ไม่รู้ตัว

แสดงความคิดเห็น

โดย : ดร.บวร ปภัสราทร

ขอบคุณ http://www.bangkokbiznews.com/home/detail/politics/opinion/borvorn/20130304/492642/อยู่กับระเบิดเวลาแต่ไม่รู้ตัว.html (ขนาดไฟล์: 167)

กรุงเทพธุรกิออนไลน์ 4 มี.ค.56

บ่อยครั้งที่เกิดวิกฤติขึ้นกับชีวิตและการงานโดยตามมาด้วยคำว่าบอกแล้วไม่เชื่อ วิกฤติแทบทุกเรื่องคล้ายกับระเบิดเวลา

คือเราทราบอยู่แล้วไม่มากก็น้อยว่าเรื่องนี้อาจกลายเป็นวิกฤติในวันหน้าได้ แต่ด้วยเหตุที่สัญญาณเตือนที่เกี่ยวกับวิกฤตนั้นอาจไม่ชัดเจนจนกระทั่งเราละเลยที่จะใส่ใจในสัญญาณนั้น คำเตือนจากคนที่เราไม่ได้ให้ความสำคัญมักไม่ได้รับความสนใจ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องเล็กเรื่องใหญ่ กลไกการตรวจจับสัญญาณเตือนที่เราใช้อยู่อาจไม่ดีเพียงพอสำหรับการตรวจจับสัญญาณเตือนวิกฤตินั้น วิกฤติจึงเกิดขึ้นทั้งๆ ที่เรามีโอกาส และเรามีเวลาเพียงพอที่จะหลีกเลี่ยงวิกฤตินั้นได้ขอเพียงแค่ในวันที่เราได้รู้ได้ทราบสัญญาณเตือนนั้น เราได้ใส่ใจมากกว่าที่เราได้ทำไปแล้ว ดังนั้น วันใดที่ท่านได้ทราบบางสิ่งบางอย่างที่เกี่ยวข้องกับชีวิตและการงานของท่าน ขอให้ลองหยุดตรึกตรองดูสักนิดว่าเรื่องนั้นในวันหน้าจะกลายเป็นวิกฤติใดกับชีวิตและการงานหรือไม่ ใส่ใจให้ความสนใจต่อไปอีกสักนิด สัญญาณเล็กๆ นั้นอาจมีคุณค่าในการป้องกันวิกฤติได้เป็นอย่างดี วันหน้าจะได้ไม่ต้องเจ็บใจจากคำว่าบอกแล้วไม่เชื่อเมื่อเจอวิกฤติจนย่ำแย่ไปแล้ว

หนทางหนึ่งที่จะช่วยวินิจฉัยว่าสัญญาณนั้นจะช่วยป้องกันตัวเราจากระเบิดเวลาของหน้าที่การงานได้หรือไม่ ให้ลองยึดตามแนวทางที่ปรมาจารย์ด้านการวางแผนยุทธศาสตร์ท่านหนึ่งได้บอกไว้หลายสิบปีแล้วว่าให้เริ่มดูว่าเรื่องนั้นทำให้คู่แข่งขันที่มีอยู่ในปัจจุบันเก่งขึ้นกว่าที่เป็นอยู่ในทุกวันนี้หรือไม่ เรื่องใดที่ทำให้คู่แข่งเก่งขึ้น เรื่องนั้นคือระเบิดเวลาของเราแน่นอน หากไม่ลงมือทำอะไรสักอย่างในวันที่ทราบเรื่องนั้น ถ้าเป็นเรื่องที่อาจทำให้งานเดิมที่เราเชี่ยวชาญอยู่กลายเป็นงานที่ไม่มีความจำเป็นสำหรับธุรกิจที่เราทำอยู่อีกต่อไป เรื่องนั้นเป็นระเบิดเวลาแน่ๆ ถ้าคิดว่างานของฉันต้องทำตามวิธีดั้งเดิมที่ฉันถนัดเท่านั้น ไม่มีอะไรในโลกนี้ที่จะมาทดแทนการทำงานของฉันได้ เรามีโอกาสที่จะอยู่กับระเบิดเวลาโดยสมัครใจได้ ถ้าเก่งเรื่องการขายของด้วยการติดต่อสนทนาชักชวนทางโทรศัพท์ แล้วไม่เคยสังเกตว่าวันนี้การชักชวนให้ซื้อของมีให้เห็นในช่องทางอื่นอีกมากมาย ไม่ว่าจะเป็นการส่งข้อความสั้นผ่านโทรศัพท์เคลื่อนที่ การชักชวนผ่านแอพพลิเคชั่นที่แจกให้ใช้ฟรีบนสมาร์ทโฟนหรือแท็บเล็ต ชักชวนผ่านการแจกสติกเกอร์ในโปรแกรมสำหรับส่งข้อความติดต่อกันผ่านอินเทอร์เน็ตได้ตลอดเวลา วันหน้างานขายผ่านโทรศัพท์จะหายไปเหมือนโดนระเบิดเวลาเล่นงานโดยตั้งตัวแก้ไขไม่ทัน สัญญาณใดที่บอกว่างานของเรากำลังจะมีงานอื่นเข้ามาทดแทนในวันหน้าเป็นสัญญาณเตือนที่ละเลยไม่ได้เด็ดขาด

แม้หน้าที่การงานที่กำลังก้าวหน้าไปด้วยดี แต่มีสัญญาณหนึ่งที่บ่งบอกว่างานนี้อยู่ได้ทุกวันนี้เพราะตัวฉันมีผู้สนับสนุนนั้นดี หรือจะพูดกันชัดๆ ว่าฉันมีเส้นใหญ่ก็พอได้ สัญญาณเตือนนี้บอกให้เรารู้ตัวแล้วว่าหน้าที่การงานที่โชติช่วงอยู่ในวันนี้กำลังอยู่กับระเบิดเวลา หากทุกวันนี้อยู่ได้เพราะมีเส้นสายสนับสนุนอย่างเดียวโดยไม่ได้สำแดงฝีมือ สร้างบารมีในหน้าที่การงานให้เป็นที่ประจักษ์ ได้ดีเพราะมีเส้นไม่ใช่เรื่องแปลกสำหรับบ้านเรา แต่เส้นดีแล้วต้องมีฝีมือและต้องสร้างบารมีของตนเองจนสามารถยืนยงอยู่ได้ด้วยตนเองในวันที่เส้นสายหมดไปแล้ว พึ่งพาก๊าซจากบ้านเมืองอื่นมาทำไฟฟ้ามากเกินไป พอบ้านเขาส่งก๊าซให้ไม่ได้ก็กลายเป็นวิกฤติ ดังนั้น หากมีสิ่งบ่งบอกใดๆ ว่างานการของเราขึ้นกับผู้ใดผู้หนึ่งมากเกินไป งานการของเราไม่ได้เดินหน้าด้วยการเป็นส่วนหนึ่งของระบบที่สร้างความสำเร็จขึ้นได้จากการสนับสนุนของหลายคน สัญญาณนี้คือการแจ้งเตือนว่าวันนี้เราอยู่ใกล้กับระเบิดเวลาแล้วเพราะไม่มีอะไรในโลกนี้ที่ยืนยงคงกระพัน ไม่มีอะไรเคยเป็นอย่างไรก็เป็นอย่างนั้นไปตลอดกาล

สัญญาณเตือนหลายอย่างปรากฏให้เห็นชัดๆ แต่สิ่งที่สัญญาณนั้นบ่งบอกไม่ตรงกับที่เรานึกคิดอยู่ในวันนี้ ตัวเราเองจึงทำหน้าที่เป็นตัวกรองสัญญาณเตือนนั้นทิ้งไป ทิ้งเพราะมาเตือนในเรื่องที่ฉันไม่เชื่อ เตือนในเรื่องที่ฉันไม่อยากฟัง สารเคมีชนิดหนึ่งที่ใช้กันอย่างกว้างขวางจนผู้คนพากันเชื่อว่า ถ้าไม่มีสารเคมีนี้ อุตสาหกรรมหลายสาขาจะอยู่ไม่ได้ ชีวิตผู้คนจะยากลำบากมากขึ้นถ้าไม่มีผลิตภัณฑ์ที่ต้องใช้สารเคมีนี้ในการผลิต ในช่วงเวลาที่ผู้คนกำลังเชื่อกันเช่นนี้มีงานวิจัยงานหนึ่งบอกว่าสารเคมีนี้เป็นอันตรายต่อสุขภาพของมนุษย์ ปรากฏว่าไม่มีใครใส่ใจเรื่องนี้ จนกระทั่งมีคนเจ็บป่วยมากมายจากผลของการใช้สารเคมีนี้จึงได้มีการห้ามใช้สารเคมีนั้น ซึ่งใช้เวลาเกือบหนึ่งร้อยปีจากวันที่มีสัญญาณเตือนอันตรายนี้ จนกระทั่งถึงวันที่มีการแก้ไขคือห้ามไม่ให้ใช้กันอีกต่อไป ผู้คนในวันที่มีงานวิจัยเผยแพร่ออกมาไม่ได้ให้ความสนใจ เพราะงานวิจัยนั้นแจ้งเตือนในสิ่งที่ไม่อยากฟัง จนกระทั่งเกิดเป็นวิกฤติเจ็บป่วยกันแล้วและกลายเป็นบอกแล้วไม่เชื่ออีกเรื่องหนึ่ง ดังนั้นขอให้อดทนฟังสิ่งที่ไม่ตรงใจสักนิด ความอดทนนิดหน่อยนั้นอาจช่วยให้เราทราบว่าเราอยู่ใกล้ระเบิดเวลาก็ได้

สัญญาณเตือนหลายเห็นได้ยากเพราะการเปลี่ยนแปลงเกิดขึ้นทีละเล็กทีละน้อย จนถูกละเลยเพราะสังเกตการเปลี่ยนแปลงได้ยาก ถ้ากลับไปดูภาพถ่ายของตัวเราเมื่อวาน หน้าตาที่เห็นก็เหมือนกับที่เราเห็นในกระจกตอนนี้ แต่ถ้าไปเอาภาพถ่ายสักสิบปียี่สิบปีก่อนมาดู จะเห็นชัดเลยว่าหน้าตาต่างจากที่เห็นในวันนี้ ถ้าเรารู้จักจดบันทึกข้อมูลที่บ่งบอกการเปลี่ยนแปลงไว้อย่างสม่ำเสมอจะช่วยให้เราไม่ละเลยเรื่องที่เคยคิดว่าเป็นเรื่องเล็กเรื่องน้อย น้ำรั่วนาทีละหยดสองหยดดูเป็นเรื่องเล็กน้อย แต่ถ้าบอกว่าหนึ่งเดือนของน้ำรั่วนาทีละสองสามหยดนั้นเท่ากับปริมาณน้ำในถังขนาดสองพันลิตร น้ำหยดไม่ใช่เรื่องเล็กอีกต่อไปแล้ว

วิกฤตที่นำไปสู่ความล่มสลายนั้นกว่าเจ็ดสิบเปอร์เซ็นต์มาจากความผิดพลาดของยุทธศาสตร์ที่หน่วยงานนั้นเลือกใช้ โดยยอมเลือกที่จะอยู่กับระเบิดเวลามากกว่าจะยอมฟังเสียงจิ้งจกร้องทัก

ที่มา: กรุงเทพธุรกิออนไลน์
วันที่โพสต์: 4/03/2556 เวลา 04:09:49

แสดงความคิดเห็น

รอตรวจสอบ
จัดฟอร์แม็ต ดูการแสดงผล

รอตรวจสอบ

รอตรวจสอบ

รอตรวจสอบ

ยกเลิก

รายละเอียดกระทู้

โดย : ดร.บวร ปภัสราทร ขอบคุณ http://www.bangkokbiznews.com/home/detail/politics/opinion/borvorn/20130304/492642/อยู่กับระเบิดเวลาแต่ไม่รู้ตัว.html กรุงเทพธุรกิออนไลน์ 4 มี.ค.56 บ่อยครั้งที่เกิดวิกฤติขึ้นกับชีวิตและการงานโดยตามมาด้วยคำว่าบอกแล้วไม่เชื่อ วิกฤติแทบทุกเรื่องคล้ายกับระเบิดเวลา คือเราทราบอยู่แล้วไม่มากก็น้อยว่าเรื่องนี้อาจกลายเป็นวิกฤติในวันหน้าได้ แต่ด้วยเหตุที่สัญญาณเตือนที่เกี่ยวกับวิกฤตนั้นอาจไม่ชัดเจนจนกระทั่งเราละเลยที่จะใส่ใจในสัญญาณนั้น คำเตือนจากคนที่เราไม่ได้ให้ความสำคัญมักไม่ได้รับความสนใจ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องเล็กเรื่องใหญ่ กลไกการตรวจจับสัญญาณเตือนที่เราใช้อยู่อาจไม่ดีเพียงพอสำหรับการตรวจจับสัญญาณเตือนวิกฤตินั้น วิกฤติจึงเกิดขึ้นทั้งๆ ที่เรามีโอกาส และเรามีเวลาเพียงพอที่จะหลีกเลี่ยงวิกฤตินั้นได้ขอเพียงแค่ในวันที่เราได้รู้ได้ทราบสัญญาณเตือนนั้น เราได้ใส่ใจมากกว่าที่เราได้ทำไปแล้ว ดังนั้น วันใดที่ท่านได้ทราบบางสิ่งบางอย่างที่เกี่ยวข้องกับชีวิตและการงานของท่าน ขอให้ลองหยุดตรึกตรองดูสักนิดว่าเรื่องนั้นในวันหน้าจะกลายเป็นวิกฤติใดกับชีวิตและการงานหรือไม่ ใส่ใจให้ความสนใจต่อไปอีกสักนิด สัญญาณเล็กๆ นั้นอาจมีคุณค่าในการป้องกันวิกฤติได้เป็นอย่างดี วันหน้าจะได้ไม่ต้องเจ็บใจจากคำว่าบอกแล้วไม่เชื่อเมื่อเจอวิกฤติจนย่ำแย่ไปแล้ว หนทางหนึ่งที่จะช่วยวินิจฉัยว่าสัญญาณนั้นจะช่วยป้องกันตัวเราจากระเบิดเวลาของหน้าที่การงานได้หรือไม่ ให้ลองยึดตามแนวทางที่ปรมาจารย์ด้านการวางแผนยุทธศาสตร์ท่านหนึ่งได้บอกไว้หลายสิบปีแล้วว่าให้เริ่มดูว่าเรื่องนั้นทำให้คู่แข่งขันที่มีอยู่ในปัจจุบันเก่งขึ้นกว่าที่เป็นอยู่ในทุกวันนี้หรือไม่ เรื่องใดที่ทำให้คู่แข่งเก่งขึ้น เรื่องนั้นคือระเบิดเวลาของเราแน่นอน หากไม่ลงมือทำอะไรสักอย่างในวันที่ทราบเรื่องนั้น ถ้าเป็นเรื่องที่อาจทำให้งานเดิมที่เราเชี่ยวชาญอยู่กลายเป็นงานที่ไม่มีความจำเป็นสำหรับธุรกิจที่เราทำอยู่อีกต่อไป เรื่องนั้นเป็นระเบิดเวลาแน่ๆ ถ้าคิดว่างานของฉันต้องทำตามวิธีดั้งเดิมที่ฉันถนัดเท่านั้น ไม่มีอะไรในโลกนี้ที่จะมาทดแทนการทำงานของฉันได้ เรามีโอกาสที่จะอยู่กับระเบิดเวลาโดยสมัครใจได้ ถ้าเก่งเรื่องการขายของด้วยการติดต่อสนทนาชักชวนทางโทรศัพท์ แล้วไม่เคยสังเกตว่าวันนี้การชักชวนให้ซื้อของมีให้เห็นในช่องทางอื่นอีกมากมาย ไม่ว่าจะเป็นการส่งข้อความสั้นผ่านโทรศัพท์เคลื่อนที่ การชักชวนผ่านแอพพลิเคชั่นที่แจกให้ใช้ฟรีบนสมาร์ทโฟนหรือแท็บเล็ต ชักชวนผ่านการแจกสติกเกอร์ในโปรแกรมสำหรับส่งข้อความติดต่อกันผ่านอินเทอร์เน็ตได้ตลอดเวลา วันหน้างานขายผ่านโทรศัพท์จะหายไปเหมือนโดนระเบิดเวลาเล่นงานโดยตั้งตัวแก้ไขไม่ทัน สัญญาณใดที่บอกว่างานของเรากำลังจะมีงานอื่นเข้ามาทดแทนในวันหน้าเป็นสัญญาณเตือนที่ละเลยไม่ได้เด็ดขาด แม้หน้าที่การงานที่กำลังก้าวหน้าไปด้วยดี แต่มีสัญญาณหนึ่งที่บ่งบอกว่างานนี้อยู่ได้ทุกวันนี้เพราะตัวฉันมีผู้สนับสนุนนั้นดี หรือจะพูดกันชัดๆ ว่าฉันมีเส้นใหญ่ก็พอได้ สัญญาณเตือนนี้บอกให้เรารู้ตัวแล้วว่าหน้าที่การงานที่โชติช่วงอยู่ในวันนี้กำลังอยู่กับระเบิดเวลา หากทุกวันนี้อยู่ได้เพราะมีเส้นสายสนับสนุนอย่างเดียวโดยไม่ได้สำแดงฝีมือ สร้างบารมีในหน้าที่การงานให้เป็นที่ประจักษ์ ได้ดีเพราะมีเส้นไม่ใช่เรื่องแปลกสำหรับบ้านเรา แต่เส้นดีแล้วต้องมีฝีมือและต้องสร้างบารมีของตนเองจนสามารถยืนยงอยู่ได้ด้วยตนเองในวันที่เส้นสายหมดไปแล้ว พึ่งพาก๊าซจากบ้านเมืองอื่นมาทำไฟฟ้ามากเกินไป พอบ้านเขาส่งก๊าซให้ไม่ได้ก็กลายเป็นวิกฤติ ดังนั้น หากมีสิ่งบ่งบอกใดๆ ว่างานการของเราขึ้นกับผู้ใดผู้หนึ่งมากเกินไป งานการของเราไม่ได้เดินหน้าด้วยการเป็นส่วนหนึ่งของระบบที่สร้างความสำเร็จขึ้นได้จากการสนับสนุนของหลายคน สัญญาณนี้คือการแจ้งเตือนว่าวันนี้เราอยู่ใกล้กับระเบิดเวลาแล้วเพราะไม่มีอะไรในโลกนี้ที่ยืนยงคงกระพัน ไม่มีอะไรเคยเป็นอย่างไรก็เป็นอย่างนั้นไปตลอดกาล สัญญาณเตือนหลายอย่างปรากฏให้เห็นชัดๆ แต่สิ่งที่สัญญาณนั้นบ่งบอกไม่ตรงกับที่เรานึกคิดอยู่ในวันนี้ ตัวเราเองจึงทำหน้าที่เป็นตัวกรองสัญญาณเตือนนั้นทิ้งไป ทิ้งเพราะมาเตือนในเรื่องที่ฉันไม่เชื่อ เตือนในเรื่องที่ฉันไม่อยากฟัง สารเคมีชนิดหนึ่งที่ใช้กันอย่างกว้างขวางจนผู้คนพากันเชื่อว่า ถ้าไม่มีสารเคมีนี้ อุตสาหกรรมหลายสาขาจะอยู่ไม่ได้ ชีวิตผู้คนจะยากลำบากมากขึ้นถ้าไม่มีผลิตภัณฑ์ที่ต้องใช้สารเคมีนี้ในการผลิต ในช่วงเวลาที่ผู้คนกำลังเชื่อกันเช่นนี้มีงานวิจัยงานหนึ่งบอกว่าสารเคมีนี้เป็นอันตรายต่อสุขภาพของมนุษย์ ปรากฏว่าไม่มีใครใส่ใจเรื่องนี้ จนกระทั่งมีคนเจ็บป่วยมากมายจากผลของการใช้สารเคมีนี้จึงได้มีการห้ามใช้สารเคมีนั้น ซึ่งใช้เวลาเกือบหนึ่งร้อยปีจากวันที่มีสัญญาณเตือนอันตรายนี้ จนกระทั่งถึงวันที่มีการแก้ไขคือห้ามไม่ให้ใช้กันอีกต่อไป ผู้คนในวันที่มีงานวิจัยเผยแพร่ออกมาไม่ได้ให้ความสนใจ เพราะงานวิจัยนั้นแจ้งเตือนในสิ่งที่ไม่อยากฟัง จนกระทั่งเกิดเป็นวิกฤติเจ็บป่วยกันแล้วและกลายเป็นบอกแล้วไม่เชื่ออีกเรื่องหนึ่ง ดังนั้นขอให้อดทนฟังสิ่งที่ไม่ตรงใจสักนิด ความอดทนนิดหน่อยนั้นอาจช่วยให้เราทราบว่าเราอยู่ใกล้ระเบิดเวลาก็ได้ สัญญาณเตือนหลายเห็นได้ยากเพราะการเปลี่ยนแปลงเกิดขึ้นทีละเล็กทีละน้อย จนถูกละเลยเพราะสังเกตการเปลี่ยนแปลงได้ยาก ถ้ากลับไปดูภาพถ่ายของตัวเราเมื่อวาน หน้าตาที่เห็นก็เหมือนกับที่เราเห็นในกระจกตอนนี้ แต่ถ้าไปเอาภาพถ่ายสักสิบปียี่สิบปีก่อนมาดู จะเห็นชัดเลยว่าหน้าตาต่างจากที่เห็นในวันนี้ ถ้าเรารู้จักจดบันทึกข้อมูลที่บ่งบอกการเปลี่ยนแปลงไว้อย่างสม่ำเสมอจะช่วยให้เราไม่ละเลยเรื่องที่เคยคิดว่าเป็นเรื่องเล็กเรื่องน้อย น้ำรั่วนาทีละหยดสองหยดดูเป็นเรื่องเล็กน้อย แต่ถ้าบอกว่าหนึ่งเดือนของน้ำรั่วนาทีละสองสามหยดนั้นเท่ากับปริมาณน้ำในถังขนาดสองพันลิตร น้ำหยดไม่ใช่เรื่องเล็กอีกต่อไปแล้ว วิกฤตที่นำไปสู่ความล่มสลายนั้นกว่าเจ็ดสิบเปอร์เซ็นต์มาจากความผิดพลาดของยุทธศาสตร์ที่หน่วยงานนั้นเลือกใช้ โดยยอมเลือกที่จะอยู่กับระเบิดเวลามากกว่าจะยอมฟังเสียงจิ้งจกร้องทัก

จัดฟอร์แม็ตข้อความและมัลติมีเดีย

  1. เพิ่ม
  2. เพิ่ม ลบ
  3. เพิ่ม ลบ
  4. เพิ่ม ลบ
  5. เพิ่ม ลบ
  6. เพิ่ม ลบ
  7. เพิ่ม ลบ
  8. เพิ่ม ลบ
  9. เพิ่ม ลบ
  10. ลบ
เลือกการตกแต่งที่ต้องการ

ตกลง ยกเลิก

รายละเอียดการใส่ ลิงค์ รูปภาพ วิดีโอ เพลง (Soundcloud)

Waiting...